ปอเนาะ “ภูมี” ความสัมพันธ์มลายู ปาตานี จะนะและปทุมธานี

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (7 ตุลาคม 2563) ผมมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมเยียนปอเนาะภูมีได้รับเกียรติจากบาบอมะ (มูฮำหมัด อาดำ)และผู้น้องบาบอดิง อาดำ ผู้สืบสานต่อยอดการศึกษาจากบาบออับดุลรอหมาน ปราชญ์อิสลามศึกษาถิ่นปาตานีผู้เป็นบิดาให้การต้อนรับ
ปอเนาะนี้อยู่ที่
บ้านภูมี (ในอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี) ห่างเมืองปัตตานี 15 กิโลเมตร ห่างตัวอำเภอยะหริ่ง 2 กิโลเมตร

ปอเนาะภูมีหรือบืรมิง ซึ่งมีอายุเกือบหนึ่งร้อยปีแล้ว ปัจจุบันก็มีการเปิดการเรียนวิชาสามัญด้วย ทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ในนามโรงเรียนนูรุลอิสลามภูมีวิทยาแต่ยังคงอนุรักษ์แนวการเรียนรู้แบบดั้งเดิมคือสถาบันปอเนาะและอีกแผนกหนึ่งแผนการเรียนฮาฟิซ

ที่โชคดีมากกว่านั้นสำหรับผู้เขียนคือได้พบเจอกับลุงอับดุลวาฮับ มูฮำหมัดชาวปทุมธานีผู้เป็นรุ่นน้องและศิษย์ของพ่อผมชาฟิอี ดินอะ สมัย 60 ปีที่แล้วในปอเนาะนี้
คุณแม่ผมสะแล้หะ ดินอะ เคยเล่าให้ฟังว่า “ทุกครั้งที่บาบอปอเนาะภูมี คือบาบออับดุลรอหมาน จะมาทำกิจกรรมที่จะนะ ใกล้เคียงหรือจะขึ้นไปที่กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ก็จะมาพักที่บ้าน (จะนะ) วันสองวัน เพราะพ่อหะยีชาฟิอีเป็นศิษย์ท่าน หลังจากนั้นจะเดินทางโดยรถไฟจากจะนะ ลงหาดใหญ่ ต่อไปหัวลำโพง กทม.และต่อไปปทุมธานี ในขณะเดียวกันท่านก็มีลูกเขยเป็นผู้รู้จากจะนะ เช่น หะยีวานิ “
สำหรับบาบอมุฮำหมัด อาดำก็มีการติดต่อสัมพันธ์กับผู้เขียนและญาติๆท่านที่จะนะตลอด ส่วนปทุมธานีปีหนึ่งๆท่านขึ้นไปทั้งบรรยายธรรม กิจกรรมสานสัมพันธ์และอื่นๆตลอดไม่ต่ำกว่า4-5 ครั้งต่อปีหรือประชุมสัมมนา ที่กรุงเทพมหานครก็ต้องแวะไปเยี่ยมพี่น้องที่ปทุมธานี ที่สำคัญน้องชายท่านหะยีดิงก็มีภรรยาคนที่นี่ทำให้สายสัมพันธ์ยิ่งแน่นขึ้น
วันนี้ ผู้เขียนก็ได้พบลุงอับดุลวาฮับ มูฮำหมัดชาวปทุมธานีศิษย์เก่าที่(ซึ่งท่านเล่าให้ผมฟังด้วยภาษามลายู)ว่า “เคยศึกษาที่นี่พาลูกเมีย ญาติๆมาเยี่ยมปอเนาะเพราะมางานบุญที่ใต้เลยถือโอกาสมาเยี่ยมปอเนาะรำลึกเรื่องราวอดีตและต่อยอดความสัมพันธ์ ในขณะที่ชุมชนแก้วนิมิตร ปทุมธานีบ้านท่าน ศูนย์อบรมประจำมัสยิดสอนศาสนาด้วยภาษามลายู ในหมู่บ้านชุมชน วิถีชีวิตทั้งภาษาพูด วัฒนธรรม การแต่งกายและบรรยากาศก็ยังมีกลิ่นอายมลายูมุสลิมปาตานี”