พฤษภาคม 18, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

โฟกัส “ทวี สอดส่อง” ในฐานะอดีตเลขาธิการ ศอ.บต. การทำงานเมื่อ 7 ปี ก่อนถูก คสช.โยกออกจากพื้นที่

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

Shukur2003@yahoo.co.uk,
http://www.oknation.net/blog/shukur

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
โดยเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ผู้เขียนได้มีโอกาส พูดคุย กับ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ในโอกาส ครบรอบ 7 ปี ซึ่งท่านถูกย้ายออกจากตำแหน่ง เลขาธิการศอ.บต.โดยคณะรัฐประหาร คสช.(อ่านเพิ่มเติมในรำลึก “ทวี สอดส่อง” ครบ 7 ปี “คสช.” โยกพ้นเลขาศอ.บต. ปชช.แห่ให้กำลังใจ

https://siamrath.co.th/n/248059)ซึ่งท่านกรุณาถอดบทเรียนบางประเด็นที่ประทับใจในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
โดยท่านกล่าวว่า “หลักการที่ได้พบจากการทำงานใน จชต . คือปรัชญาในการดำเนินชีวิตให้คุณค่าการพัฒนาการศึกษา การประยุกต์ความรู้ให้สามารถพัฒนาตัวเองและสิ่งแวดล้อม เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมนุษย์ให้มากและยาวนานที่สุด
จะเห็นจาก เด็กตามความหลักการอิสลาม ได้แก่อายุสิบห้า ถ้าอายุเลย 15 ปี ก็เป็นผู้ใหญ่ถือว่าบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ประเทศไทย พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก อายุ “เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ (17 ปีบริบูรณ์) ช้ากว่าหลักการอิสลามประมาณ 3 ปี จึงเห็นว่าหลักการอิสลามเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมนุษย์ที่ยาวนานมากกว่า ช่วงเป็นเด็กจึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่และสังคมต้องร่วมกันรับผิดชอบช่วยเหลือเด็กในทุกด้านเพื่อให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบเต็มไม่ปล่อยให้เกิดสภาวะเป็นผู้ใหญ่แต่ยังเป็นเด็กอยู่

ใน จชต. ยังมีหลักการที่ดีมากมาย ที่พี่น้อง เน้นความขยัน งานสุจริต ชีวิต ประหยัด ชีวิตที่มีคุณค่าเชิงจิตใจและมีเกียรติ ไม่ใช่ตีค่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจหรือเป็นเพียงเครื่องจักรผลิตเงิน มีคำสอนของผู้นำที่ทรงคุณค่าอยู่เต็มพื้นที่
เรียกกันว่า “กีตาบฟีกอห์” หรือหนังสือ “นิติศาสตร์อิสลาม “ซึ่งเรียนกันตามสถาบันปอเนาะ หรือโรงเรียนเอกชน สอนศาสนาอิสลาม เช่น เรื่อง การฟื้นฟูที่ดินว่างเปล่า เป็นระบบการพัฒนาที่ดินให้เกิดประโยชน์แก่สังคม คือ “ผู้ใดทำประโยชน์ในที่ดินว่างเปล่าที่ไม่มีเจ้าของ ที่ดินผืนนั้นก็จะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา และผู้ใดพัฒนาที่ดินว่างเปล่าที่ไม่มีเจ้าของเขาจะได้ผลบุญจากที่ดินแปลงนั้นและสิ่งใดที่นกกาได้กินไป ก็ถือเป็นกุศลทานสำหรับตัวเขา” แต่หลักการกฏหมายเรื่องที่ดิน ป่าไม้ของไทย ยังไม่เอื้ออำนวย ยังเป็นระบบรัฐนิยมที่รัฐต้องเป็นเจ้าของดูแลแต่ผู้เดียว จึงมีปัญหาความขัดแย้งระหว่ารัฐกับประชาชน อย่างหาทางออกไม่ได้เช่นปัจจุบัน”
ครับก็หวังว่า ท่านในบทบาทใหม่นักการเมือง “สส.และเลขาธิการพรรคประชาชาติซึ่งคุมคะแนนเสียงจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้หลายๆบทเรียน นำไปปรับใช้ โดยเฉพาะ การสร้างโอกาสและเรียกร้อง ปกป้องสิทธิชาติพันธุ์ต่างในประเทศไทย ไม่ว่า กะเหรี่ยง บางกลอย หรืออื่นๆแม้จะเป็นสส.พรรคฝ่ายค้านท้ายนี้ขอ
เป็นกำลังใจการทำงานของท่านครับ
หมายเหตุผู้เขียนเคยสัมภาษณ์ท่านตอนรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาชาติซึ่งกำลังหาเลือกตั้ง
(https://www.matichonweekly.com/special-report/article_134666)

 6,464 total views,  2 views today

You may have missed