อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk,
http://www.oknation.net/blog/shukur
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
ศ.ดร.จรัญ มะลูลีม กล่าวไว้เมื่อ
27 พฤษภาคม 2557 (ครบรอบ7ปี)ว่า “
ท่านเป็นนักบริหารต้นแบบ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาเมื่อตัองจากด้วยเรื่องการเมือง…
ขอชื่นชม”
นายมูหัมมัดนาสีรูดดีน เล๊ะนุ
นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดปัตตานี ยืนยันว่า “ผ่านไปแล้ว 7 ปี ยังไม่มีใครสามารถมาแทนที่ท่านทวีได้จริงๆครับ”
ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า “บทบาทศอ.บต.เปลี่ยนไปด้วยหลังคสช.ยึดอำนาจโดยใช้อำนาจพิเศษทำให้ในเชิงพฤตินัย นั้นศอ.บต.อยู่ใต้ปีกกอ.รมน.ภาคสี่ อันเป็นหน่วยงานความมั่นคง”นักวิชาการศึกษาปัญหาชายแดนภาคใต้ท่านหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อวิเคราะห์ไว้ และสอดคล้องกับข้อสังเกตของสื่อดังอย่าง สถาบันข่าวอิสราที่ให้ทัศนะว่า “ภารกิจดับไฟใต้ในยุค “ทหารนำ” ได้ออกประกาศและคำสั่งหัวหน้า คสช. บอนไซ ศอ.บต.ให้เป็นหน่วยงานพัฒนาและอำนวยความยุติธรรมภายใต้บทบาทนำของ กอ.รมน. ปิดฉากยุทธศาสตร์สองขาที่วางมาตั้งแต่รัฐบาลประชาธิปัตย์”
ผศ.ดร.อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา เคยกล่าวไว้(27 พฤษภาคม 2557)ว่า “วันนี้พี่น้อง จังหวัดชายแดนภาคใต้นับหมื่น มาส่งท่านทวี สอดส่อง ที่สนามบินหาดใหญ่ เราไม่ได้มาเพราะอะไรเลย เรามาเพื่อต้องการบอกให้ผู้ที่จะมาดูแล จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากนี้ ให้ดู ทวี เป็นแบบอย่าง “
สำหรับวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 รวมทั้ง 27 พฤษภาคม 2557 ที่สนามบินหาดใหญ่ ปชช.ชายแดนใต้(รวมทั้งผู้เขียน) แห่ร่วมอำลา “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” หลังถูก คสช.หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 11/2557 ลงวันที่ 24 พ.ค.57 ที่ให้ย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แล้วให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ไปปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ ศอ.บต.อีกหน้าที่หนึ่งนั้น ได้ทำให้ชีวิตราชการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ พ.ต.อ.ทวี หยุดลงที่ 2 ปี 7 เดือน และให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มารักษาราชการตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.แทน
26 พฤษภาคม 2557 หลังมีคำสั่งดังกล่าวออกมา ทำให้บรรยากาศที่บ้านพักรับรองของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ศอ.บต. มีเหล่าบรรดาข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ผู้นำศาสนา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม และให้กำลังใจแก่ พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่รู้สึกเสียใจต่อการจบสิ้นในการปฏิบัติหน้าที่ของเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามคำสั่งคณะ คสช.ที่ออกมา
#พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง “ถือเป็นผู้จริงจังในการปฏิบัติงาน คัดเลือกผู้เข้ามาร่วมงาน เพื่อมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมองถึงปัญหาระดับล่างสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เอาใจใส่ในการให้ความสำคัญต่อ ชุมชน ศาสนา และผู้นำทางศาสนา ให้ความเคารพ ให้เกียรติต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมไปถึงการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง
รูปแบบการทำงานเพื่อมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาของในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้เน้นย้ำให้คนในพื้นที่อดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จนการนำไปสู่กระบวนการพูดคุยสันติภาพ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้เดินหน้าการพูดคุยสันติภาพ โดยมี พล.ท.ภราดล พัฒนถาบุตร เข้ามาร่วมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ตามกระบวนการ เพื่อหารือ และหาข้อยุติปัญหาการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ โดยการมุ่งเน้นการพัฒนา และสร้างความเข้าใจต่อประชาชนในพื้นที่ควบคู่ไปพร้อมๆ กัน”
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง “มิใช่เพียงแต่จะมองถึงปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น แต่ได้มองถึงปัญหาเล็กๆ ที่ผู้อื่นมองไม่เห็น ไม่ว่าจะการช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้ การพัฒนากลุ่มสตรี หรือการมุ่งเน้นการสอนภาษายาวีให้แก่ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในกลุ่มองค์กรภาครัฐ เพื่อจะได้มีการสื่อสาร หรือเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ทำให้รับรู้ถึงปัญหาที่อยู่ภายใน หรือรับรู้ถึงความต้องการของพี่น้องประชาชน จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จะสามารถดึงมวลชนในพื้นที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไปด้วยกันได้ โดยทุกฝ่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมก็ต้องการให้เกิดความสันติสุข และความเข้าใจในบทบาทการดำรงชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหลากหลายทางเชื้อชาติ ต่างศาสนา และวัฒนธรรม”
ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ทำให้ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” เข้าไปในอยู่ในหัวใจของคนในพื้นที่อย่างไม่ต้องกังวลใจ ซึ่งภาพเชิงประจักษ์ ที่เห็นประชาชนทุกภาคส่วนให้กำลังใจท่านจำนวนมาก(มากๆ)ทั้งที่ศอ.บต.และสนามบินหาดใหญ่ และภาพเหล่านี้ยังไม่เคยเห็น ผู้อำนวยการ/เลขาธิการศอ.บต.ก่อนหน้าและหลังจากท่าน(ปัจจุบันปี2564)ได้รับเทียบเท่าท่าน
(เนื้อหาส่วนใหญ่อ้างอิงจาก https://mgronline.com/south/detail/9570000058533)
สถาบันข่าวอิสรารายงานว่า “ไม่ว่าคนนอกพื้นที่ คนในส่วนกลาง เจ้าหน้าที่หน่วยงานงาน หรือนักการเมืองที่ไม่ได้สังกัดพรรคเพื่อไทยจะมองเขาอย่างไร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในพื้นที่จำนวนไม่น้อยรักและชื่นชอบ พ.ต.อ.ทวี ชนิดนี้ผู้นำทางทหารระดับสูงเคยโทรศัพท์ไปบ่นกับเขาโดยตรงเมื่อครั้งยังนั่งอยู่ในตำแหน่งว่า ช่วยทำให้ชาวบ้านรักทหารเหมือนที่ชาวบ้านรักเลขาฯศอ.บต.บ้างสิ”
ตั้งแต่ข่าวถูกย้ายแพร่กระจายออกไป ต้องบอกว่าหัวกระได ศอ.บต.และบ้านพักซึ่งอยู่ด้านหลังที่ทำการ ศอ.บต.ไม่แห้งเลย เพราะมีประชาชน ผู้นำศาสนา และผู้แทนภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่เดินทางไปให้กำลังใจ กระทั่งเมื่อวันอังคารที่ 27 พ.ค. ได้มีพิธีอำลาตำแหน่งของ พ.ต.อ.ทวี ซึ่งก็ยังมีพี่น้องประชาชน ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ นักเรียน นักศึกษาไปรวมงานเป็นจำนวนมาก โดยทุกคนรู้สึกเสียใจที่ พ.ต.อ.ทวี ต้องพ้นจากตำแหน่งไปจริงๆ เพราะแม้ที่ผ่านมาจะมีข่าวลือหลายครั้ง แต่ข่าวลือก็ไม่เคยเป็นข่าวจริงเหมือนครั้งนี้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวกับกลุ่มบุคคลที่มาให้กำลังใจและร่วมพิธีอำลาต่างกรรมต่างวาระ สรุปได้ดังนี้ “มีความสุขที่สุดและรู้สึกยิ่งใหญ่ที่สุดที่ได้มารู้จักและสัมพันธ์กับพี่น้องที่นี่ ไม่มีความรู้สึกใดมาเปรียบได้ เหมือนเป็นญาติกัน ซึ่งหาไม่ได้จากคนในพื้นที่อื่น ผมได้รับสิ่งดีๆ มากมาย พี่น้องที่นี่เป็นคนมีจิตใจดีและเป็นคนดี เคร่งครัดด้วยวิถีชีวิตและศาสนา หากเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้มีการศึกษา เข้าถึงความยุติธรรม ให้ดูแลกันเอง เป็นสิ่งที่จะพัฒนาและแก้ปัญหาได้ถูกต้อง”
“ผมเป็นห่วงเรื่องการศึกษาของพี่น้อง ต้องให้กระทรวงศึกษาธิการทำเหมือนกับทำถนน คือเข้าถึงทุกพื้นที่ เด็กปอเนาะเรียนจบไปเรียนต่อเมืองนอกได้ แต่เข้ามหาวิทยาลัยในเมืองไทยไม่ได้ เป็นช่องว่างที่ยังคงมีอยู่ ต้องคิดถึงความรู้สึกทางใจด้วย ลูกหลานชายแดนใต้ที่ไปเรียนต่างประเทศยังมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก เช่นที่ซูดาน ซึ่งทางการไทยก็ไม่ได้ดูแล อยากให้ผู้ใหญ่ได้ใส่ใจช่วยกันในเรื่องนี้อย่างจริงจังและถึงที่สุด”
“มีความคาดหวังต่อคนที่มาอยู่ตรงนี้ค่อนข้างสูง ต้องใจกล้าและกล้าตัดสินใจ รับแรงกดดันทุกด้าน ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลที่ไม่ได้เห็นผลในวันเดียว”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า หลายเรื่องที่คนนอกพื้นที่กับคนในพื้นที่มองต่างกัน ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องการเยียวยาที่หลายกรณีได้รับเงินเยียวยาหลายล้านบาท คนนอกอาจมองว่ามีเงินใช้สบาย แต่ความจริงครอบครัวของคนเหล่านั้นบอกว่าต้องใช้ให้เป็น เพราะเป็นเงินจากเลือดคนที่รัก เป็นเรื่องที่ไม่คุ้มกับชีวิต แต่รัฐต้องการให้กำลังใจ เห็นใบหน้าที่ยิ้มได้บ้างเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
“พี่น้องที่นี่โดนทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก ผ่านเรื่องร้ายที่สุดมาแล้ว หนักกว่าผมมาก เชื่อว่าพระเจ้าจะให้สิ่งที่ดีกับทุกคน และให้มองว่าสามจังหวัดชายแดนใต้เป็นโอกาสของประเทศไทยด้วย หลังจากนี้ผมไปอยู่ที่ไหนติดต่อได้ตลอด หากช่วยเองไม่ได้ก็จะให้คนอื่นช่วย”
คำกล่าวของ พ.ต.อ.ทวี ทำให้หลายคนถึงกับร่ำไห้…
(อ้างอิงจาก https://www.isranews.org/content-page/67-south-slide/29921-panu.html)
วันนี้ ผู้เขียน ได้สัมภาษณ์ท่าน โดยท่านแสดงความรู้สึกขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้ต่อท่านเสมอมา และกาลเวลา 7 ปี ทำให้ท่านเข้มแข็งมากขึ้น และยังคงยืนหยัดทำเพื่อประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ท่านอาสามาทำงานในนาม พรรคประชาชาติแม้จะเป็นฝ่ายค้าน
8,588 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.