#วันครู: ครบรอบ 4 ปีอุสตาซแปอิง (บาซอ)ผู้นำด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมที่ข้าพเจ้ารู้จัก (เนื่องจากวันครู 64 New Normal)

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

วันที่ 16 มกราคม 2564 นี้ โดยนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การจัดงานวันครู ประจำปี 2564 ในปีนี้จัดรูปแบบ “New Normal” สอดคล้องกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของผู้เข้าร่วมงานวันครู จึงให้จัดกิจกรรมวันครูออนไลน์ ครั้งที่ 65 พ.ศ. 2564 ภายใต้แนวคิด “พลังครูไทยวิถีใหม่ ฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล”
สำหรับผู้เขียนก็มีครูที่ประสิทธิ์ประสาทความรู้แก่ผู้เขียนมากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศทั้งโลกอาหรับ มลายู ยุโรปและอเมริกาจึงขอส่งความสุขสวัสดีแด่ครูทุกท่านและหากท่านใดล่วงลับไปแล้วก็ขอให้เขาเหล่านั้นรับผลดีจากวิชาความรู้ที่ได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
แต่วันนี้ก็ขอเลือกพูดถึงเจาะจงถึง “อุสตาซแปอิง”ท่านเป็นอุสตาซ ครูของผมสมัยเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา เมื่อ ช่วง ปี 2528 -2533
10 มกราคม 2564 ครบรอบ 4 ปีของการจากไป อุสตาซแปอิง เนื่องจากท่านเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันอังคารที่ 10 มกราคม 2560 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หลังจากรักษาอาการป่วยมานาน โดยสาเหตุที่เสียชีวิตเพราะติดเชื้อที่ปอด รวมอายุได้ 81 ปี ครอบครัว ญาติ และคนใกล้ชิดได้ทำพิธีฝังที่กรุงกัวลาลัมเปอร์

ท่านมีชื่อเต็มภาษาอาหรับว่า ชาฟีอี บิน อับดุลเราะห์มาน ในขณะที่ชื่อตามสำเนาทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชน หรือทางการ สะแปอิง บาซอ แต ชื่อที่บรรดาลูกศิษย์จะเรียกกันในชื่อ อุสตาซ แปอิงที่เพี้ยนมาจาก ชาฟีอี ท่านเกิดเมื่อวันที่ 1 เดือน มีนาคม ปี พ.ศ. 2479 หรือ ค.ศ.1936 ที่บ้านต้นมะขาม (ตลาฆอ เซิมบีลัน) อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นบุตรของนางไซนับ บินติ ซูหลง และนายอับดุลเราะห์มาน บิน อับดุลเลาะ เป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง

ท่านถือเป็นปูชนียบุคคลในด้านการศึกษาที่เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือปาตานี ระเบียงมักกะห์ด้านการศึกษาอิสลามเพราะเป็นผู้บริหารในตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อันเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามที่มีนักเรียนเกือบหมื่นคน ณ ตอนนี้ (น่าจะมากที่สุดในประเทศไทย) ลูกศิษย์ของท่านเป็นที่ทราบกันดีว่า ไม่เพียงแต่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานีอย่างเดียวเท่านั้นไม่ แต่จะอยู่โดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นสงขลา ภาคใต้ตอนบน ภาคใต้ฝั่งอันดามันกระบี่ พังงา ภูเก็ต ภาคกลางอย่างกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ภาคตะวันออกอย่างชลบุรี ระยอง แม้แต่ภาคเหนืออย่างจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงรายและที่อื่นๆ

ในขณะที่ลูกศิษย์ของท่านมีทุกสาขาอาชีพ ทำงานเอกชน และราชการ ในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับความประทับใจผู้เขียนครั้งหนึ่ง ปีแรกที่ได้สัมผัสท่าน “ในความซื่อสัตย์ อมานะฮ์ “ ยังจำติดตา คือ “ท่านกล่าวต่อผู้รับผิดชอบข่าวสารที่รับบริจาคจากผู้ใจบุญหากตกที่พื้นแม้แต่เมล็ดเดียวคุณต้องเก็บมันเพราะนั้นคืออมานะฮ์ ภาระหน้าที่ที่เราต้องส่งไปถึงมือผู้รับ”นี่คือเพียงหนึ่งตัวอย่างเล็กๆน้อยๆที่ท่านให้ความละเอียดละออ ไม่นับรวมที่ทุกคนเห็นท่าน มักจะเก็บขยะ โรงเรียนด้วยตัวเอง ถือจอบถางหญ้ารกหน้าโรงเรียนด้วยเอง
ครับใครมีเรื่องเล่าดีๆของท่านช่วยกันแชร์ในขณะเดียวกันก็ขอให้อัลลอฮ์ตอบแทนความดีให้แก่ท่านในโลกหน้า
“อินนาลิลลาฮิ วะอินนาอิลัยฮิรอญิอูน แท้จริงพวกเราเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และแท้จริงพวกเราต้องกลับคืนสู่พระองค์ “