พฤษภาคม 8, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

มูลนิธิชาริที จากชายเเดนใต้กับภารกิจซับน้ำตาผู้ประสบภัยน้ำท่วมนคร-สุราษฯ

แชร์เลย

รายงานพิเศษ..โดย ตูแวดานียา มือรีงิง 


ระยะทางกว่า 600 กิโลเมตรจากตากใบนราธิวาสมุ่งหน้าสู่เมืองลิกอร์และสุราษฏธานี เพื่อนำสิ่งของอาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวน 200 ถุงมอบให้กับผู้เดือดร้อนจากภัยน้ำท่วมภาคใต้ซึ่งมีผู้เสียชีวิต ณ วันนี้โดยการรายงานของกรมป้องภัยและบรรเทาสาธารณะภัยว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย จังหวัดนครศรีธรรมราชมากสุดถึง 21 ราย พัทลุง 3 ราย สุราษฏธานีและสงขลาจังหวัด2 รายและตรังหนึ่งราย มีผู้เดือดร้อนมากถึง 555,194 ครัวเรือน

จากสถานการณ์น้ำท่วม 11 จังหวัดภาคใต้ในครั้ง ยังมีอีก 5 จังหวัดที่มีน้ำท่วมขังเช่นจังหวัดสุราษฏธานี นครศรีฯ ตรัง พัทลุงและสงขลา มูลนิธิเชรีทีเพื่อสังคม ได้ระดมทุนจากสมาชิกเพื่อรวบรวมเงินคนละ 1000 บาทเพื่อซื้อข้าวสารอาหารแห้งและน้ำจำนวน 200 ชุดเพื่อมอบให้กับผู้ประสบภัยดังกล่าว
“เงินที่ได้จากสมาชิกของมูลนิธิในครั้งนี้เรารวบรวมได้กว่า 400,00 บาท และเราได้นำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมทันทีและเราหวังว่ามูลนิธิ IHH จากตุรกีที่เคยสนับสนุนองค์กรเราในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเฉกเช่นทุกปีที่ผ่านมา และหากท่านใดต้องการบริจาคก็สามารถบริจาคผ่านองค์กรของเราได้เช่นกันเพื่อเราจะไปมอบอีกครั้งหนึ่ง” นายฟัครูดีน สะอะ ประธานมูลนิธิกล่าว

การเดินทางในครั้งนี้โดยใช้รถกระบะสี่คันมีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 14 คน โดยเป้าหมายแรกทางทีมงานได้ประสานไปยังนายปรีชา ชนะกิจกำจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อสอบถามว่ายังมีพื้นที่ไหนบ้างที่มีการช่วยเหลือน้อยหรือต้องการให้ทางทีมมูลนิธิไปช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยรองผู้ว่าได้แนะนำให้ปลัดตำบลท่าสักเป็นคนดูแลในพื้นที่ประสานกับชาวบ้านหมู่ 2 และ 4 ซึ่งส่วนเป็นมุสลิม
ปลัดตำบลบอกกับทีมงานว่าในพื้นที่ตำบลท่าสัก อำเภอเมืองมีทั้งหมด 9 หมู่บ้านตอนนี้ยังมีอีก 3 หมู่บ้านที่มีน้ำขังและคงต้องเวลาอีกสักระยะเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง มูลนิธิได้มอบอาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวน 100 ชุดให้กับชาวบ้านที่ออกมารอรับของในครั้งนี้


จุดปลายทางต่อไปคือบ้านหนองจอก สุราษฏธานี ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตรจากตำบลท่าสักและเราต้องถึงก่อนห้าโมงเย็นเพราะต้องนั่งไปในหมู่บ้านใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยนั่งเรือเร็ว เพราะถนนยังสัญจรไม่ได้น้ำท่วมถนนสูงกว่า 2 เมตร การเดินทางใช้เวลาเกือบ 2ชั่วโมงเราก็มาถึงจุดนัดหมายโดยมีเรือเร็วหลายลำและเรือทองแบนกำลังรอทีมงานโดยมีอีมามปรีชาหรืออีมามอีซา การีซอยืนโบกมืออยู่
เรือเร็วนั่งได้ 1-2 คนสรวมคนขับอีกหนึ่ง เนื่องจากเรือมีขนาดเล็กมาก และเรายังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำชาวบ้านเรียกว่า “เรือเร็ว” และเราก็เข้าใจว่าเรานั่งเรือไปที่หมู่บ้านผ่านสวนปาล์มแต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเรือพาเราออกไปยังใจกลางของแม่น้ำตาปีซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในภาคใต้ต้นน้ำมาจากเขาหลวงนครศรีฯและเขาในจังหวัดกระบี่ความยาวเกือบ 300 กม. พอได้ออกสู่ใจกลางแม่น้ำตาปีเรือที่เล็กและเสียงดังได้แล่นบนผิวน้ำด้วยความเร็ว60-80 กม/ชม แค่นั่นทุกคนที่นั่งตามสบายต้องเอามือมากำขอบเรือจนแน่นเพราะคิดอย่างเดียวหาเรือล่มคงหาศพไม่เจอแน่ เพราะน้ำทั้งลึกและเชี่ยว สีหน้าของทุกคนตอนไปถึงมัสยิดซีดกันเกือบทุกคนและถามว่าแล้วขากลับจะกล้านั่งอีกไหม (เสียงหัวเราะแทรกเข้ามาในวงสนทนา)


จากหน้ามัสยิดได้ลำเลียงอาหารแห้งและน้ำไปยังบ้านชาวบ้านที่จมครึ่งหนึ่งอยู่ในน้ำ โดยมีเด็กๆอยู่กับคนแก่ส่วนพ่อแม่ออกไปทำงานในเมือง
นายปรีชา การีซอ อีหม่ามมัสยิดอีกอมาตีสซอลาฮกล่าวว่าน้ำเริ่มมาถึงเมืองวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา และในรอบ 10 ปี ท่วมมาแล้ว 5 ปี คือ 2553 54 59 60 และปีนี้ 63 ท่วมอีกครั้งหนึ่ง และน้ำจะอยู่ในลักษณะอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์หรือ1 เดือน
“สาเหตุที่น้ำลงมาทีนี้ทุกปีเนื่องจากตรงนี้เป็นพื้นที่สุดท้ายทีรองรับน้ำจากเขาหลวงนครศรีฯ และจากเขาที่กระบี หากว่าทีนครศรีธรรมราชน้ำลดน้ำแห้งตรงจุดนี้เตรียมพร้อมรองรับมวลน้ำที่กำลังมาอีกสองสัปดาห์” อีหม่ามอีซากล่าว

 996 total views,  2 views today

You may have missed