เมษายน 23, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

#เกาะติด Covid19:คูเวตและอียิปต์หนุนอยู่บ้านผ่านหลักการศาสนา(เพื่อปรับใช้สำหรับทุกคน)

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์
(อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
Shukur2003@yahoo.co.uk http://www.oknation.net/blog/shukur

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานี
เสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
24 มีค. #โควิด19. หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อCovid-19
จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นมีนัยยะสำคัญในแง่ความรู้โรคระบาดวิทยาไม่ว่าจะฟังจากแพทย์มุสลิมดังๆที่ชายแดนใต้และผู้ช่วยชาญระดับประเทศน่าจะหนักกว่าที่คิด
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องเฝ้าระวัง 6 บัญชี หรือ 6 กลุ่ม
กลุ่มแรกหรือบัญชีที่ 1 กลุ่มที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดและเสี่ยงตามประกาศของรัฐบาล คือ จีน เกาหลี อิตาลี อิหร่าน

บัญชีที่ 2 คือผู้กลับจากการชุมนุมนักเผยแผ่ศาสนาที่มาเลเซีย

บัญชีที่ 3 คือคนที่มาจากการไปงานที่มีผู้ติดเชื้อแล้วได้แก่สนามมวยลุมพินีหรือสถานที่ระบาด

บัญชีที่ 4 คือคนที่กลับจากประเทศเพื่อนบ้านและอื่นๆที่สุ่มเสี่ยง

บัญชีที่ 5 คือกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ติดอีกส่วนเช่นกับคนที่ไปชุมนุมเผยแผ่ศาสนาที่มาเลเซีย

บัญชี 6 คือคนที่จะกลับจากกทม. และปริมณฑล
มาตราการหนึ่งที่พูดกันมากคือการเว้นระยะห่างทางสังคมซึ่งผู้เขียนได้เขียนบทความเรื่อง
ทำไมมาตราการการเว้นระยะห่างทางสังคม:พูดง่าย แต่ทำโคตรยาก/อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)http://spmcnews.com/?p=27213
อย่างไรก็แล้วแต่มีการรณรงค์เรื่องนี้ในสื่อโซเชี่ยลซึ่งเมื่อวาน 23 มีนาคม2563 หมอสุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะได้ปรึกษาผู้เขียนต่อเรื่องนี้ว่าพอมีบทบัญญัติศาสนาใดบ้างที่จะสามารถสื่อสั้นๆเข้าใจง่าย ผู้เขียนก็ได้เขียนส่งให้ พอดีลูกศิษย์ผู้เขียนได้ส่งบทแปลหลักการอิสลามกับการสนับสนุนอยู่บ้านในช่วงCovid-19 จึงข้อส่งต่อให้ผู้อ่านได้ไปปรับใช้สำหรับตนเองและคนที่ต้องรับผิดชอบดังนี้
1.คูเวต
แปลโดยนายอนัส เจริญจิต (ศิษย์เก่าโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา)
“อยากจะนำเสนอบทความแปลจากสื่อที่ทางเพจกระทรวงศาสนสมบัติ ประเทศคูเวตได้ออกประกาศแก่ประชาชนมาให้พวกเราได้อ่านกันในช่วงเวลาเช่นนี้ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ ครับ

من مكث في بيته بسبب الوباء فله مثل أجر الشهيد…
ผู้ใดที่พำนักอยู่ในบ้านของเขาด้วยสาเหตุมีการระบาดของโรค ดังนั้นเขาจะได้ผลบุญเสมือนกับผลบุญของผู้ที่ตายชะฮีด…

عن عائشة زوج النبي صلى الله عليه وسلم، أنها سألت رسول الله صلى الله عليه وسلم عن الطاعون فأخبرها نبي الله صلى الله عليه وسلم : “ليس من عبد يقع الطاعون فيمكث في بلده صابرا، يعلم أنه لن يصيبه إلا كتب الله له، إلا كان له مثل أجر الشهيد”. (رواه البخاري)
จากท่านหญิงอาอิชะห์ ภรรยาของท่านนบี (ขอการสรรเสริญและความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) ได้ถามท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ขอการสรรเสริญและความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) เกี่ยวกับกาฬโรค ดังนั้นท่านนบีของอัลลอฮ์ (ขอการสรรเสริญและความสันติสุขจงมีแด่ท่าน) ได้บอกแก่นางว่า : หาใช่อื่นใดจากบ่าวที่ได้มีกาฬโรคอุบัติขึ้น แล้วเขาก็พำนักอยู่ในเมือง(เคหสถาน)ของเขาด้วยความอดทน โดยที่เขารู้ว่ามันไม่มีทางประสบกับเขาได้ เว้นแต่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดแก่เขาไว้แล้ว นอกจากเขาจะได้ผลบุญเสมือนดังเช่นผลบุญของผู้ที่ตายชะฮีด” (สายรายงานโดย อัล-บุคอรีย์)

فحصول أجر الشهيد يشمل كل من وقع الطاعون أو شبهه كوباء الكورونا في المكان الذي هو فيه، سواء مات بالوباء أم لم يمت، أصيب به أو لم يصب.
ดังนั้น การได้มาซึ่งผลบุญของผู้ที่ตายชะฮีด ครอบคลุมทุกคนที่มีกาฬโรค หรือโรคระบาดไวรัสโคโรน่าอุบัติขึ้นในสถานที่ที่เขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตด้วยโรคระบาด หรือไม่ได้เสียชีวิต, ติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ

وهذا الفضل مقيد بتحقيق المؤمن الذي حل الوباء ببلده للصفات المذكورة في الحديث :
١- يمكث في بلده وبيته ولا يخرج.
٢- يصير دون انزعاج أو قلق، مُسَلّماً لأمر الله راضِياً بقضائه، مُؤْمِناً أنه لن يصيبه إلا ما كتب الله له.
และความประเสริฐนี้ได้ผูกกับการตรวจสอบของผู้ศรัทธาที่เผชิญกับโรคระบาดในประเทศของเขาตามคุณลักษณะที่ถูกระบุไว้ในฮะดีษ :
1- พำนักอยู่ในเมืองของเขาและบ้านของเขาโดยไม่ออกไปไหน
2- อดทนโดยปราศจากความรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่ายุ่งยาก รำคาญ หรือกังวลใดๆ, น้อบรับคำสั่งของอัลลอฮ์ด้วยความพอใจในการกำหนดของพระองค์, เชื่อมั่นว่าไม่มีทางที่สิ่งใดจะมาประสบแก่เขาได้ เว้นแต่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดมาให้แก่เขาแล้ว

[อนัสได้เพิ่มเติม] ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีของพวกเราที่จะปฏิบัติอิบาดัตศาสนกิจที่ไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถของพวกเรา นั่นก็คือการอยู่บ้านแล้วได้ผลบุญ อยากจะให้หยิบฉวยโอกาสนี้สร้างความรักใคร่ในหมู่สมาชิกครอบครัวและปรนนิบัติต่อกันด้วยคำสอนที่สวยงามของศาสนาอิสลามเรา อย่าลืมว่าทุกการงานของผู้ศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่ดีเสมอ ไม่ว่าสภาวการณ์จะดีหรือร้ายก็ตาม อีกทั้งยังได้ช่วยลดภาระสังคมลง เป็นการช่วยผู้อื่นไม่ให้ได้รับผลกระทบในวงกว้างด้วยครับ อยากฝากให้พี่น้องช่วยกันบอกต่อๆกันไปด้วย ขอให้อัลลอฮ์คุ้มครองเราทุกคนให้รอดพ้นจากโรคร้ายนี้ครับ อามีน
https://www.facebook.com/1065070272/posts/10218789250576750/?d=n
2.อียิปต์
แปลโดย นายอิสมาอีล สิงหาด (ศิษย์เก่าโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา)
*** อิสลามกับการป้องกันโรคระบาดโคโรนา ***
พักกักตัวอยู่บ้านเพื่อป้องกันโรคระบาด ก็ได้ผลบุญ

บุคคลใดพักอยู่ที่บ้านในช่วงสถานการณ์โรคระบาด
เขาผู้นั้นเท่ากับได้รับผลบุญชะฮีด (ผู้พลีชีพเพื่อศาส
นา)และการฝ่าฝืนคำแนะนำมาตราการป้องกันไวรัส ถือเป็นบาป ตามหลักศาสนา
«مَن لَازَم بيتَه وقت الوباء له أجر الشَّهيد، ومُخالفة الإرشادات الوقائية حرَام شرعًا»

الحمد لله، والصَّلاة والسَّلام على سيدنا رسول الله وعلى آله وصحبه ومن ولاه، وبعد..

ศูนย์ฟัตวาออนไลน์อัซฮัรโลก จึงได้ขอความร่วมมือ
ประชาชนชาวอียิปต์ทุกคนจำเป็นต้องรับผิดชอบรัก
ษาความปลอดภัยตัวเองและผู้อื่น
فمن مُنطَلَق مسئوليَّته الدِّينية والتَّوعوية؛ يُناشد مركز الأزهر العالمي الفتوى الإلكترونية أبناء الشَّعب المصري كافَّة بضرورة تحمّل مسئولياتهم إزاء الظَّرف الرَّاهن، والحِفاظ على سَلامتهم وسَلامة غيرهم.

จึงมีฟัตวาออกมาว่า :” จำเป็นต้องพักอาศัยในบ้านใน
ช่วงเวลานี้ เว้นแก่กรณีฉุกเฉินจำเป็นเท่านั้น และประ
กาศข่าวดีแก่บุคคคลที่พักอยู่ที่บ้านในสภาพที่อดทน
พึงพอใจกับกฎกำหนด (กอดอ) ของอัลลอฮ ในช่วง
เวลาที่มีการแพร่โรคระบาด ว่าได้รับผลบุญเท่ากับ
ชะฮีด ถึงแม้ว่าเขายังไม่เสียชีวิตด้วยโรคระบาดก็ตา
ม ดั่งที่ท่านนบีมุหัมหมัด – ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัล
ลัม – กล่าวว่า :” ไม่มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดที่ตกอยู่ใน
สภาพมีโรคระบาด (ตออูน) แล้วเขาพำนักอยู่ในบ้าน
ในสภาพที่อดทน มีความคาดคิดหวัง ทราบว่าเขาจะ
ไม่ติดต่อ (ประสบ) กับโรคระบาดนั้น เว้นแต่อัลลอฮ
บันทึกเท่ากับผลบุญชะฮีด ( الشهيد) ให้แก่เขาผู้นั้น”
[ฮาดิษบันทึกโดย : อะหมัด]
ويُفتي بوجوب لُزوم المنازل هذه الأيام إلَّا لضرورة، ويُبشِّر من قعد في بيته صابرًا راضيًا بقضاء الله وقت انتشار الوباء بأجر الشَّهيد وإنْ لم يمُتْ بالوباء؛ لقول سيدنا رسول الله ﷺ: «لَيسَ مِنْ رَجُلٍ يَقَعُ الطَّاعُونُ، فَيَمْكُث فِي بَيتِهِ صَابِرًا مُحْتَسِبًا يَعْلَمُ أَنَّهُ لَا يُصِيبُه إلَّا مَا كَتَبَ اللهُ لَهُ؛ إلِّا كَانَ لَهُ مِثْلُ أَجْرِ الشَّهِيدِ» [أخرجه أحمد].

รวมทั้ง มีฟัตวาถือเป็นบาป หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะ
นำทางการแพทย์(กระทรวงสาธารณสุข)และประกา
ศป้องกันโรคระบาดที่ออกประกาศโดยหน่วยงานที่
รับผิดชอบ (ภาครัฐ) และนายแพทย์ เนื่องจากเป็น
เหตุทำให้ประชาชนเกิดภัยร้ายอันตราย และความสู
ญเสียถึงชีวิตและอื่น ๆ ดั่งที่ท่านนบีกล่าวว่า :” ไม่สม
ควรให้มุสลิมทำให้ชีวิตต่ำลง บรรดาศอฮาบะห์กล่าว
ถามว่า :” เขาทำให้ชีวิตต่ำอย่างไรครับ ? ” ท่านนบี
จึงตอบว่า :” เขาเผชิญประสบต่อภัยบลากับสิ่งที่เขา
ไม่มีพละกำลังแบกรับมันได้พอ” [บันทึก : ติรมีซีย์]

كما يُفتي بحرمة مُخالفة الإرشادات الطِّبيَّة، والتَّعليمات الوقائية التي تصدر عن المَسئولين والأطبَّاء؛ لمَا في ذلك من تعريضِ النَّفسِ والغير لمواطنِ الضَّرر والهلاك، قال ﷺ: «لَا يَنْبَغِي لِلْمُؤْمِنِ أَنْ يُذِلَّ نَفْسَهُ»، قَالُوا: وَكَيْفَ يُذِلُّ نَفْسَهُ؟ قَالَ: «يَتَعَرَّضُ مِنَ الْبَلاَءِ لِمَا لاَ يُطِيقُ» [أخرجه الترمذي].

แท้จริงบทบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม จึงทำให้การคุ้
มครองรักษาไว้ซึ่งชีวิตเป็นเป้าหมายหนึ่งในหลักเจต
นารมณ์แห่งบทบัญญัติศาสนาที่สำคัญสุดเป็นประ
การแรก สูงสุด ดั่งที่อัลลอฮทรงตรัสว่า : {และบุคคล
ใดที่ไว้ชีวิตเขา ก็เหมือนดั่งเขาไว้ซึ่งชีวิตมนุษย์ทั้ง
หมด} [ ซูเราะห์อัลมาอีดะห์ โองการที่ 113]
فقد جعل الشَّرع الشَّريف حفظ النَّفس مقصدًا من أعلى وأولى مقاصده؛ فقال الحقُّ سبحانه في إحياء النَّفس: {..وَمَنْ أَحْيَاهَا فَكَأَنَّمَا أَحْيَا النَّاسَ جَمِيعًا..} [المائدة:113].

อีกทั้งอัลลอฮทรงสั่งห้ามทำร้ายชีวิต และนำชีวิตเข้า
สู่ภัยอันตราย สูญเสีย ดั่งที่อัลลอฮทรงตรัสว่า :
{ และท่านทั้งหลายอย่านำตัวสูเจ้าสู่ความสูญเสียภัย
อันตรายและจงกระทำความดี แท้จริงอัลลอฮทรงรัก
บรรดาผู้ซึ่งทำความดี} ซูเราะห์อัลบะกอเราะห์ 195
كما حرَّم إهدارها، وتعريضها لمواطن الهَلَكة؛ فقال سُبحانه: {..وَلَا تُلْقُوا بِأَيْدِيكُمْ إِلَى التَّهْلُكَةِ وَأَحْسِنُوا إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُحْسِنِينَ} [البقرة:195].

เป็นที่ทราบกันทุกคน ณ ตอนนี้ ว่า ความอันตรายขอ
งไวรัสโคโรนา (โควิด – 19) , มีการแพร่หลายอย่าง
รวดเร็ว , เปอร์เซ็นต์อันตรายที่ก่อให้เกิดมนุษย์มีควา
มตระหนกหวาดกลัวและการเฉยเมยในมาตราการ
เฝ้าระวังป้องกันไวรัส
ولا يخفي على أحدٍ الآن خطورة فيروس كورونا المستجد (كوفيد 19)، وسرعة انتشاره، وحجم الضَّرر المترتّب على استخفاف النّاس به، والتَّساهل في إجراءات الوقاية منه.

ฉะนั้น ภัยอันตรายของไวรัสโคโรนาเป็นสิ่งที่อาจก่อ
ให้เกิดการเสียชีวิตได้ ซึ่งมันไม่ได้เฉพาะเจาะจงบุค
คลที่เฉยเมยต่อมาตราการป้องกันโคโรนาเท่านั้น แต่มันจะก่อให้เกิดภัยอันตรายแก่บุคคลอื่นที่อาศัย
ร่วมกับเขาและคบหาสมาคม คลุกคีกับเขา (บุคคลที่
ละเลย ทำเล่นกับมาตราการ) ด้วย ท่านนบีมุหัมหมัด
จึงกล่าว เพื่อเป็นหลักคำสอนแก่เราว่า :” ไม่มีการสร้
างความเดือดร้อน เกิดโทษแก่ตัวเองและผู้อื่น ”
فضرر الفيروس الذي قد يصل إلى الوفاة -لا قدَّر الله- لن يقتصر على المُتساهِل في إجراءات الوقاية منه فحسب؛ بل قد يتعدى إلى غيره ممن يُساكنهم أو يُخالطهم، ورسول الله ﷺ يقول: «لَا ضَرَرَ وَلَا ضِرَارَ، مَنْ ضَارَّ ضَارَّهُ اللَّهُ، وَمَنْ شَاقَّ شَاقَّ اللَّهُ عَلَيْهِ» [أخرجه الحاكم].

حَفِظ الله البلادَ والعبادَ من كل مكروه، ورفع عنَّا وعن العالمين البلاء؛ إنَّه سُبحانه لطيفٌ خبيرٌ.

وصلَّى الله وسلَّم وبارك على سيدنا ومولانا محمد، والحمد لله ربِّ العالمين.

ที่มา : ศูนย์ฟัตวาออนไลน์ฯ
วันที่ : 23 มีนาคม 2563
https://www.facebook.com/108829894030886/posts/129356018644940/?d=n

 1,433 total views,  2 views today

You may have missed