พฤศจิกายน 27, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

..เสียง เรียกร้อง จากพื้นที่ บ้านอาแน ..”เราไม่ขวางกั้น หนทางแห่งการให้อภัย เพื่อแสวงหาสันติฯ

แชร์เลย

โดย มาตาฮารี…

“เราผ่านบททดสอบ เราให้อภัยแล้ว อย่าใช้เราเป็นเงื่อนไขเลย”

เราได้ลงพื้นที่ บ้านอาแน ต.บองอ อ.ระแงะ หลังเกิดเหตุ กรณี มีชาวบ้านเสียชีวิตบนเขาตะเว  หลายต่อหลายครั้ง    และเราได้พบกับบุคคลคนหนึ่งในพื้นที่  เป็นบุคคลที่น่าสนใจ ซึ่งเขาคนนั้นได้เล่าเรื่อง ที่ทำให้ทีมงาน ต้องนำมาเขียนในคำสนทนา  จึงอยากให้ผู้อ่าน ได้ สัมผัส อีกบท หรืออีกแง่มุมหนึ่ง ของคนพื้นที่บ้านอาแน  “บ้านของฉัน”

บ้านฉัน ..กำปงฉัน ..ฉันรักมันมาก และฉันก็เชื่อว่าใครๆก็รักบ้านตัวเอง  ที่นี้คือชีวิต ที่นี้คือที่พักพิงที่อบอุ่นที่สุด..ฉันยังคงจำได้ดียายเคยพูดประโยคหนึ่งว่า..”walaupun  hujan emas d negeri  orang namun kita sanggup pilih  lagi walau pun hujan batu di tempat kita ”

เมื่อแปลในภาษาไทยมีความหมาย “หากแม้ฝนตกเป็นทองคำในประเทศของเขา  เราก็ยอมเลือกฝนที่ตกเป็นก้อนหินในบ้านของเรา”

ประโยคนี้คงจะช่วยแทนความรู้สึกที่ผมอยากจะบอกกับพี่น้องมุสลิมทุกคนว่า ทุกคนต่างรักบ้านของตัวเอง เราต่างอยากเห็นกำปงที่เราอยู่มีความสงบสุข และมีความปลอดภัย

ผมเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดและเติบโตในพื้นที่ ที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุยิงชาวบ้านสามศพที่มีอาชีพตัดไม้ การเป็นคนใกล้ชิดที่เป็นญาติสนิทกับผู้บริสุทธ์ที่เสียชีวิตนั้น มีส่วนช่วยให้ผมได้เข้าไปช่วยเหลือ และแน่นอนว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของทั้งสามคน

แต่สิ่งหนึ่งที่อิสลามได้บอกกับผม คือ การเชื่อในหลักศรัทธาทั้งหก ประการ นั้นคือ

1.ศรัทธาในพระเจ้า

2.ต้องศรัทธาในรอซูลของอัลลอฮ

3.ศรัทธาในมลาอีกัต

4.ศรัทธาในกีตาบ หรืออัลกุรอ่านของอัลลอฮ

5.ศรัทธาในวันกียามัต

6.ศรัทธาในกำหนดการณ์ทั้งดีและชั่วที่มาจากอัลลอฮ

ความศรัทธาในอิสลาม ทำให้ชีวิตผมมีความสุขแม้ในสถานการณ์ที่ผมต้องเผชิญ ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ใดทำลายหลักศรัทธา ก็เท่ากับทำลายชีวิตของผมด้วย

เมื่อถามถึงสิ่งที่ผมกลัวที่สุด คือ กลัวว่า ตัวเองจะหลุดจากกฏแห่งศรัทธาข้อใดข้อหนึ่งของอิสลามเพราะนั่นหมายถึงการที่ทำให้ศาสนาหลุดออกจากชีวิตผมโดยผมไม่รู้ตัว

เรามุสลิมต้องขอบคุณพระเจ้า การเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้น ถือเป็นการทดสอบแรงศรัทธาของเรา หลายๆคนรับไม่ได้และทุกคนเอาสาเหตุแห่งกฎกำหนดการณ์นั้นๆมาเป็นพระเจ้า เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์การเกิดขี้นในพื้นที่ของผมกับญาติครั้งนี้ ช่วยให้ผมได้เชื่อมหัวใจให้ทุกๆคนได้นึกถึงความประสงค์ของอัลลอฮ์ ผมได้หยิบประวัติชีวิตของท่านรอซูลที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายมากมาย แต่ท่านไม่เคยลืมสิ่งนั้นเป็นเพียงเครื่องมือแห่งบททดสอบที่จะชี้ชัดว่าเราคือผู้ศรัทธาหรือผู้ที่กลับกลอก ดั่งที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า..การทดสอบคือตราชั่งที่จะให้รู้ว่าใครคือผู้ที่มีความศรัทธาและใครคือผู้ที่กลับกลอก

เมื่อเครื่องมือที่พระเจ้าทดสอบเราโดยการทำร้ายชีวิตเรานั้นคือ เจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง และทางผู้มีอำนาจสูงสุดพวกเขาได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยการกล่าวขอโทษ การชดใช้ด้วยการเยียวยาที่ผ่านมติเห็นชอบหลายๆฝ่าย การยืนยันที่จะดำเนินคดีที่ยุติธรรมที่สุด

ผมบอกกับญาติๆทุกคนว่าท่านศาสดาเป็นผู้ที่เมตตาแม้นกับศัตรูที่ทำลายท่านและชอบให้อภัยกับทุกๆคน รวมถึงผลบุญของความอดทน และการให้อภัย

ครั้งหนึ่งท่านศาสดาได้บอกกับท่านซอฮาบัติอุมัรว่า มีคนๆหนึ่งที่เป็นคนธรรมดาๆที่คนอื่นไม่รู้จักแต่เขาได้รับการยืนยันสวรรค์จากพระเจ้า..ท่านอุมัรจึงรู้สึกแปลกใจมาก จึงอยากจะรู้ว่า..คนๆนั้นทำความดีอะไรที่เป็นพิเศษถึงขนาดขนาดพระเจ้ายอมรับว่าเขาคือชาวสวรรค์  จึงตัดสินใจไปขอนอนบ้านชายคนนั้น..ท่านอุมัรขอนอนพักถึงสามคืน..เมื่อคืนสุดท้ายท่านจึงตัดสินใจถามว่า..ท่านมีความดีอะไรที่ฉันไม่สามารถมองเห็นได้เพราะเท่าที่ฉันเห็นท่านก็ทำอิบาดัตเหมือนที่ฉันทำทุกอย่าง..ชายผู้นั้นจึงตอบว่า..ฉันไม่ได้ทำอะไรที่พิเศษไปจากพวกท่านเพียงแต่สิ่งที่ฉันทำมันทุกคืนก่อนฉันจะนอนก็คือ ฉันจะอภัยให้ทุกๆคนที่ทำร้ายฉัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ฉันอภัยให้ทุกๆคนและขอพรให้ทุกๆคนที่ทำร้ายฉันได้รับสิ่งที่ดีกว่าฉัน..ท่านซอฮาบัตอุมัรจึงอื้งกับคำตอบของชายคนนั้นเพราะนั่นหมายถึงเขามีหัวใจที่บริสุทธ์กับเพื่อนมนุษย์ทุกๆคน

 

ญาติผม ผู้สูญเสียลูกหรือครอบครัวที่รัก ทุกคนสบายใจ ทุกคนยอมรับในกฏแห่งกอดอร์และกอดัรของอัลลอฮ การปลุกระดมเรียกร้อง มีแต่ความไม่สบายใจ และอาจเกิดเป็นชนวนแห่งความรุนแรงขึ้นมา

 “อิสลามสอนให้เรารู้จักการให้อภัย และผมเชื่อมั่นการตัดสินของอัลลอฮ นั่นยุติธรรมเสมอ”

 914 total views,  2 views today

You may have missed