โดย..ดร ฆอซาลี เบ็ญหมัด
ประวัติศาสตร์โลกทราบการปฏิบัติที่สูงส่งลักษณะนี้หรือไม่
ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 7 ณ นครมาดีนะฮ์ ศูนย์กลางแห่งรัฐอิสลาม ท่านอุมัร บินค๊อตตอบ ดำรงตำแหน่งเป็นคอลีฟะฮ์ประมุขแห่งรัฐอิสลาม หลังท่านนบีมุฮัมมัด และท่านอบูบักร เสียชีวิต
ท่านอุมัรถูกลอบสังหารขณะนำละหมาดที่มัสยิดนบีในยามรุ่งอรุณของวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 644 ท่านและผู้คนล้วนทราบดีว่าจะต้องตายอย่างไม่มีทางเลี่ยง เนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์จากการถูกชาวเปอร์เซียใช้มีดสั้นจ้วงแทงอย่างไม่ยั้ง ถึง 6 แผล
หลายแผลลึกเข้าไปในช่องท้อง เมื่อดื่มน้ำก็จะไหลออกมา
ขณะที่จะเสียชีวิต ท่านอุมัรได้สั่งเสียให้ผู้ที่จะมาเป็นผู้นำหลังจากท่านให้ปฏิบัติบางอย่าง ซึ่งท่านก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใครมาทำหน้าที่นี้ แต่ท่านรู้ว่าคนที่จะมาแทนท่านจะต้องทำอะไร
ท่านได้สั่งเสียบางอย่างสำหรับสังคมมุสลิม แล้วก็สั่งเสียกับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อไปว่า จะต้องดูแลชนกลุ่มน้อยทางศาสนา ท่านบอกว่า “จงรักษาสัญญาที่ทำกับพวกเขา จงปกป้องพวกเขาจากศัตรูและอย่าบังคับพวกเขาในสิ่งที่เกินความสามารถ”
ท่านอุมัร ขณะที่จะเสียชีวิตได้สั่งเสียถึงผู้ที่นับถือศาสนาต่างกัน โดยละทิ้งความแตกต่างทางความเชื่อเสียสิ้น
ท่านเรียกพวกเขาว่า “ผู้รับสัญญาจากอัลเลาะห์และรอซูล”
ท่านละทิ้งความแตกต่างในเรื่องศาสนา และขอต่อรัฐบาลใหม่ 3 ประการดังกล่าว สำหรับผู้นับถือศาสนาอื่นในรัฐอิสลาม
1,106 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.