โดย..สมเดช มัสแหละ …
ช่วงนี้การปลุกเรื่องอิสลาม-มุสลิม ในประเทศเราเกิดขึ้นบ่อยๆ หากใครที่ติดตามประจำก็จะรู้ว่า เจ้าเก่าทั้งนั้น รู้ๆกันอยู่ว่าใคร…ใครอยู่เบื้องหลัง เป้าหมายเพื่ออะไร…
ผมไม่เชื่อว่าคนไทยจะไม่รู้จักอิสลาม-มุสลิม แม้ว่าในบันทึกประวัติศาสตร์จะเรียกว่า “แขก” สมัยก่อนเรียกมุสลิมว่า “คนแขก” เรียกคนยุโรปว่า “ฝรั่ง” เรียกคนจีนว่า “เจ๊ก” โดยพฤตินัยผมจึงรับได้หากเรียกแขก เพราะหากเราไม่ยอมรับคำว่าแขก ก็เท่ากับไม่มีมุสลิม ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพียงแต่การเรียกแขก อย่าเรียกด้วยความอคติ หรือเป็นการดูถูกเท่านั้น
ที่ผมไม่เชื่อว่าคนไทยไม่รู้จักมุสลิม ก็เพราะว่า อิสลาม-มุสลิม อยู่คู่กับสยามประเทศมาอย่างน้อยๆก็สมัยพระเจ้าทรงธรรม อโยธยาโน้น และประวัติศาสตร์ก็บ่งบอกชัดเจนว่า มุสลิมคือทหารคู่พระทัยพระเจ้าแผ่นดิน รับราชการับใช้ประเทศชาติมาอย่างยาวนาน
สำหรับสยามประเทศ จนมาเป็น “ไทย” ยุคสมัยที่มีอคติต่อมุสลิม เริ่มต้นจริงๆก็น่าจะเป็นในสมัยรัฐนิยม ที่ดูเหมือนจะชูความเป็นไทย ให้เป็นหนึ่ง ซึ่งบ้างว่ามันหมายถึงศาสนา เชื้อชาติด้วย
ความอคติดูเหมือนจะเริ่มหนักจากตรงนี้ ใครที่รับราชการ หากต้องการเจริญก้าวหน้า ต้องการเติบโต จะต้องปิดบังศาสนา เราจึงเห็นข้าราชการมุสลิมน้อยมาก บางคน เกษียณถึงจะรู้ว่าเป็นมุสลิม
ความอคติฝังลึกในระบบราชการไทย จนหลักสูตรการศึกษาจะไม่กล่าวถึงมุสลิมเลย และต้องยอมรับว่า ระบบราชการไทย สนิทแนบแน่กับมหาอำนาจตะวันตกบางประเทศ จึงรับนโยบายแบบลับๆมาใช้กับมุสลิม ในหลายๆรูปแบบ
สื่อเองก็ขานรับนโยบายนี้แบบไม่รู้ตัว(หรือจงใจ) สังเกตุได้จาก การพาดหัวข่าว หรือการนำเสนอข่าวที่เกี่ยวกับมุสลิมจะแฝงไปด้วยอคติ บิดเบือน…
เราจะยอมรับหรือไม่ว่า การพาดหัวข่าวเหล่านี้เราได้อ่าน ได้ยินบ่อยมาก…โจรมุสลิม ผู้ก่อการร้ายมุสลิม มุสลิมหัวรุนแรง ฯลฯ หรือเนื้อข่าว ก็มักจะเขียนสอดแทรก เหน็บแนม ให้ร้าย สิ่งเหล่านี้เราคุ้นๆ ข่าวฆ่าเหมือนกัน แต่หากคนที่ฆ่าเป็นมุสลิม มักจะเป็นข่าวใหญ่ สีสันข่าวหวือหวา ข่าวมักจะเหมารวม โดยชี้ไปถึงศาสนา และมุสลิมโดยรวม แต่หากคนฆ่ามิใช่มุสลิม ข่าวก็ไม่ได้ ระบุว่าโจรศาสนาใด…???
คิดแบบปลงตก ทำใจได้ ก็น่าจะคิดว่า เกิดเป็นมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม ต้องทำใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
หากจะพูดกันแบบไม่เกรงใจ ในระบบราชการก็ยังมีข้าราชการเป็นจำนวนมากที่มีอคติ ทั้งข้าราชการพลเรือ ข้าราชการอื่น รวมทั้งข้าราชการการเมือง ในแวดวงการศึกษาเอง เราก็เห็นอคติที่บ่อยมาก เราเคยเห็นพ่อพิมพ์-แม่พิมพ์ หลายคนที่ดูถูก เหยียดหยาม โดยเป็นข่าวให้เห็นเสมอๆ
คราใดที่มีมุสลิมในระดับเด่นๆ มีแนวโน้มว่าน่าจะได้มีโอกาสเป็นผู้บริหารประเทศ เรามักจะพบ ขบวนการทำนองนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง บางครั้งการเจาะยางจะเกิดขึ้นแบบคาดไม่ถึง
เมื่อคนระดับนักปกครอง ผู้บริหาร ข้าราชการระดับสูงบางส่วน ยังมีอคติต่ออิสลาม-มุสลิม ระดับประชนทั่วไป จึงไม่น่าแปลกใจมากนัก…
เมื่อบวกกับแนวคิดสุดโต่ง มีเอี่ยวทางการเมือง เราจึงเห็นการแอนตี้อิสลาม โดยหยิบประเด็นต่างๆมาเล่น แบบที่เป็นอยู่
เราจึงมองเห็นเหยื่อ ที่มีเบ็ดที่แหลมคมซ่อนอยู่ภายใน เพื่อหวังให้มุสลิมติดเบ็ด หากเราหลงงับเหยื่อ กลุ่มนี้มุ่งหวังให้มุสลิมออกมาต่อต้าน หรือให้เกิดแรงกระเพื่อมไปยังการเมืองฝั่งตรงกันข้าม…
ผมเรียนคณะกรรมการจัดงานเปิดมัสยิดกลางมุกดาหาร เลยว่ายิ่งท่านโหมโรงให้งานนี้ยิ่งใหญ่ และดังเพียงใด กระแสต้านจะยิ่งมากขึ้น ทั้งๆที่การสร้างมัสยิดนี้มีมานานแล้ว สร้างโดยถูกต้อง ไม่เคยมีการต่อต้านแต่อย่างใด
ยิ่งมีบุคคลสำคัญของมุสลิมจะมาเปิดมัสยิดด้วยแล้ว ระวังการดิสเครดิตให้ดี เพราะเงาการเมือง ของบุคคลต่างๆ ที่จะไปร่วมเปิดมัสยิด เป็นการเมืองฝ่ายใด…???
นอกจากมุสลิม จะไม่หลงไปงับเหยื่อแล้ว เงาการเมืองอีกขั่วหนึ่งก็เป็นเหยือให้ผู้ต้านงับได้เช่นกัน…
831 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.