พฤศจิกายน 27, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ข้อเท็จจริง “ทุน กยศ.” พระสิริจริยาลังการ (ชรัช อุชุจาโร ป.ธ.๖ ,ดร.) เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี

แชร์เลย

รายงานโดย..รักชาติ สุวรรณ์
สวัสดีครับ ทุกท่าน


วันนี้ จะมาเล่าเรื่อง กยศ. หรือกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เหตุที่จะต้องนำมาเล่าก็เพราะมีการส่งต่อคลิปภาพ ที่มีการพูดถึง โครงการนี้กันตามกลุ่มไลน์ต่างๆ ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจผิด และสร้างความขุ่นเคืองต่อกันได้

ผมเองเคยทำงานในฝ่ายทะเบียนนักศึกษา และเป็นผู้สอนไปด้วย ในงานทะเบียนนักศึกษา ก็รวมหมายถึงการทำกู้ยืมเรียน ตามโครงการ กยศ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้กับนักศึกษาที่เข้ามาเรียนในสถานศึกษาอยู่แล้ว

เมื่อรวบรวมหลักฐานจากนักศึกษาเสร็จสิ้น ฝ่ายทะเบียนฯ ต้องประสานไปยังธนาคาร ซึ่งธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารหลักในการส่งเงินเดือนของทางราชการ เป็นหลัก รวมทั้งเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาด้วยเช่นกัน

เพราะฉะนั้น เด็กที่มาเข้าเรียน ไม่ว่าจะมีสมุดธนาคารของธนาคารใดๆ ก็ตาม ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ เป็นธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารอิสลาม หรือธนาคารออมสิน แล้วแต่ทางสถาบันจะตกลง

สถานศึกษาที่ผมทำงาน ก็เลือกธนาคารกรุงไทย แต่อีกปัจจัย คือ การเปิดบัญชีในกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษานั้น ธนาคารนั้นๆ จะต้องทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรนักศึกษาพร้อมATM) ให้กับทางวิทยาลัยด้วย

จึงไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่สถานศึกษาใด จะเลือกธนาคารไหนที่กระทรวงการคลัง ระบุไว้ (เท่าที่ทราบ มีธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม)

พร้อมกันนี้ ได้มีหนังสือขอความร่วมมือและแสดงความห่วงใย จากท่านเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เจ้าคุณ ดร.ชรัช เจ้าคุณชรัช วัดกลาง ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

เรื่อง ขอความร่วมมือระงับการเผยแพร่ข้อมูลที่ส่งผลเสียหายต่อบุคคลหรือองค์กรฯทางสื่อสารข้อความในโลกออนไลน์

เรียน เจ้าอาวาสและพระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานีทุกรูป

ด้วยในสถานการณ์ความขัดแย้งใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้( ๓ จชต) เป็นเวลา ๑๕ ปีที่ผ่านมา สร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างมากมาย ทั้งสร้างความหวาดระแวงความไม่ไว้วางใจกันในกลุ่มประชาชนในพื้นที่อย่างมาก อันเป็นผลมาจากสาเหตุหลายๆปัจจัย และในสาเหตุหนึ่งที่เป็นปัจจัยให้ความขัดแย้งยิ่งเพิ่มมากขึ้น คือ การสื่อสารในโลกออนไลน์ที่เรียกกันว่า เฟสบุ๊ค, ไลน์, ข้อความ และการสื่อสารอื่นๆที่สามารถเผยแพร่เป็นสาธารณะได้อย่างกว้างขวางสู่ประชาชนทุกกลุ่มได้ง่าย ซึ่งส่งผลทั้งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคม ทั้งเป็นโทษแก่สังคม แต่หากผู้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไม่ทำความเข้าใจถึง โทษ และ ประโยชน์ให้ชัดเจน ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะชนอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี มีความเป็นห่วงคณะสงฆ์ ที่เป็นทั้งพระภิกษุและสามเณรในการรับข้อมูลข่าวสารและการเผยแพร่ข่าวสาร หากขาดการพิจารณาให้รอบคอบก็จะส่งผลเสียแก่คณะสงฆ์ และพุทธศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่ง ปรากฏว่าในช่วงระยะเวลานี้ ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลในลักษณะ ภาพเคลื่อนไหว (คลิป) ภาพนิ่ง และข้อความโดยมีลักษณะพาดพิงบุคคลที่สามให้เกิดความเสียหาย โดยข้อมูลเหล่านั้น เป็นข้อมูลจริงหรือเท็จไม่มีใครทราบ และถึงแม้จะเป็นข้อมูลจริงหรือเท็จอย่างไร พระภิกษุสงฆ์และสามเณรก็ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งด้วยการ ส่งต่อ (แชร์) การแสดงความคิดเห็นในเชิงลบและให้เสียหายกับบุคคลที่สาม (คอมเมนต์) และสร้างข้อมูลในลักษณะเดียวกันนี้ด้วยตนเอง แล้วนำเข้าสู่การเผยแพร่ทางการสื่อสารผ่าน เฟสบุ๊ค, ไลน์, ข้อความ อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์และสมณสารูปของความเป็นพระภิกษุสงฆ์และสามเณรอันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียและความมั่นคงต่อสถาบันพระพุทธศาสนา

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือ และให้พระภิกษุสงฆ์และสามเณรในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานีปฏิบัติตนด้วยการไม่เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะ ภาพเคลื่อนไหว (คลิป) ภาพนิ่ง และข้อความโดยมีลักษณะพาดพิงบุคคลที่สามให้เกิดความเสียหาย โดยข้อมูลเหล่านั้น เป็นข้อมูลจริงหรือเท็จไม่มีใครทราบ และถึงแม้จะเป็นข้อมูลเท็จหรือจริงอย่างไร พระภิกษุสงฆ์และสามเณรห้ามเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งด้วยการ ส่งต่อ(แชร์) การแสดงความคิดเห็นในเชิงลบและให้เกิดความเสียหายกับบุคคลที่สาม (คอมเมนต์) และสร้างข้อมูลในลักษณะเดียวกันนี้เข้าสู่การเผยแพร่ทางการสื่อสารผ่าน เฟสบุ๊ค, ไลน์, ข้อความ ด้วยตนเองโดยเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือยังประพฤติปฏิบัติในลักษณะดังกล่าว จะพิจารณาโทษตามสมควรต่อไป
หมายเหตุ
จากกรณีมีคลิป พูดถึงกรณี 3 จชต. ในเรื่องของการกู้ยืมเรียน หรือ กยศ และธนาคารอิสลาม
หมายเหตุ
พระสิริจริยาลังการ
(ชรัช อุชุจาโร ป.ธ.๖ ,ดร.)
เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี
เจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง

ได้ออกหนังสือแสดงความคิดเห็น พร้อมกับปรามให้หยุดการแชร์ หรือส่งต่อในสังคมออนไลน์

 1,422 total views,  2 views today

You may have missed