ถอดบทเรียนลำพะยา เพื่อการปกป้องพลเรือน นางสาวอัญชณา (มุมตัส)หีมมินะ กลุ่มด้วยใจ

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุกครอบครัว แต่การปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไปโดยที่เราไม่ได้เรียนรู้และแก้ไขก็จะทำให้การตายของพวกเขา 15 ต้องสุญเปล่า เราจึงมาศึกษาว่าทำไมผู้กระทำจึงเลือกกระทำต่อ ชรบ เมื่อได้อ่านคำแนะนำเชิงประจักษ์เกี่ยวกับแนวคิดของการมีส่วนร่วมโดยตรงในพื้นที่ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศได้พูดถึง
นิยามพลเรือนในความขัดแย้งภายในรัฐ

สำหรับวัตถุประสงค์ของหลักการความแตกต่างในความขัดแย้งทางอาวุธที่ไม่ใช่ระหว่างประเทศบุคคล ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของกองกำลังติดอาวุธของรัฐ หรือกลุ่มติดอาวุธของภาคีที่มีการสู้รบจะเป็นพลเรือนและมีสิทธิที่จะได้รับการป้องกันการโจมตีโดยตรง เว้นแต่และในเวลาเช่นนี้เนื่องจากพวกเขามีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบ ในความขัดแย้งที่ไม่ใช่อาวุธระหว่างประเทศกลุ่มติดอาวุธที่จัดตั้งขึ้นนั้นประกอบไปด้วยกองกำลังของรัฐที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและประกอบด้วยเฉพาะบุคคลที่มีหน้าที่ต่อเนื่องที่จะเข้าร่วมโดยตรงในสงคราม (การทำงานต่อสู้ต่อเนื่อง”)

นิยามผู้รับเหมาเอกชนและลูกจ้างพลเรือน
ผู้รับเหมาเอกชนและลูกจ้างของภาคีที่มีความขัดแย้งทางอาวุธซึ่งเป็นพลเรือนมีสิทธิที่จะป้องกันการโจมตีโดยตรงเว้นแต่และในเวลาดังกล่าวเนื่องจากพวกเขามีส่วนร่วมโดยตรงในสงคราม อย่างไรก็ตามกิจกรรมหรือสถานที่ของพวกเขาอาจทำให้พวกเขามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบ
ในทางปฏิบัติการมีส่วนร่วมของพลเรือนในการสู้รบเกิดขึ้นในหลากหลายรูปแบบและระดับความรุนแรงและในบริบททางภูมิศาสตร์วัฒนธรรมการเมืองและการทหารที่หลากหลาย ดังนั้นในการพิจารณาว่าจำนวนการดำเนินการเฉพาะเพื่อการมีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบจะต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลาและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามความสำคัญของสถานการณ์โดยรอบแต่ละกรณีไม่ควรเบี่ยงเบนความสนใจจากข้อเท็จจริงที่ว่าการมีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบยังคงเป็นแนวคิดทางกฎหมายของความยืดหยุ่นที่ จำกัด ซึ่งจะต้องตีความในลักษณะทางทฤษฎีและเสียงที่สอดคล้องกัน
และขอบเขตชั่วคราวของการสูญเสียของการป้องกัน

พลเรือนสูญเสียการคุ้มครองจากการถูกโจมตีโดยตรงในช่วงระยะเวลาของการกระทำเฉพาะที่เทียบเท่ากับการมีส่วนร่วมโดยตรงในการสู้รบในขณะที่สมาชิกของกลุ่มติดอาวุธที่จัดขึ้นในกลุ่มที่ไม่ใช่รัฐ – รัฐ ต่อต้านการโจมตีโดยตรงตราบใดที่พวกเขารับหน้าที่การต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
จากนิยามความเป็นพลเรือนและพลเรือนที่เกี่ยวข้องกับคู่ขัดแย้งรวมไปถึงตุผลที่ทำให้พลเรือนสูญเสียสถานะที่จะได้รับการปกป้องก็คือการไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคู่ขัดแย้งอย่างต่อเนื่องและทำหน้าที่เหมือนกองกำลัง
เราจะเห็นได้ว่าโอกาสที่ ชรบ จะเจอมีโอกาสเท่ากับที่ทหารจะเจอในภาวะที่มีความขัดแย้งภายใน แต่สวัสดิการที่เขาได้รับเมื่อพบกับความสูญเสียนั่นไม่มี โอกาสที่เขามีเงินเดือนเหมือนทหารไม่มี ศักยภาพในการป้องกันตัวทั้งการฝึกและอุปกรณ์ต่างๆไม่เท่ากัน แต่ทำไมทุกคนจึงผลักให้เขาไปเผชิญหน้ากับความตายโดยปราศจากการดูแลแบบนั้นเหล่า
อายุผู้เสียชีวิต อาวุธที่ถูกใช้ป้องกันตัว ช่างไม่เหมาะสมที่จะทำให้เขาปลอดภัยเลย เราไม่เห็นด้วยกับการให้พลเรือนมาจับอาวุธฆ่ากันเองด้วยความคิดที่ต่างกัน แต่ถ้าเราเลือกไม่ได้เราก็อยากให้ ชรบ ได้ตระหนักกับตัวเองว่าเมื่อเขาเป็น ชรบ เขาจะเจอกับอะไร และถ้ารัฐจะใช้กลไก ชรบ ในการปกป้องชุมชนก็อยากเสนอให้รัฐได้มอบคุณค่าของ ชรบ ให้กับเขาด้วยการกำหนดเกณฑ์อายุที่เหมาะสมในการทำหน้าที่ ชรบ รายได้ที่เหมาะสม สวัสดิการสำหรับครอบครัวเขา และ การเยียวยาที่เท่าเทียมจากสิ่งที่เขาได้ทำให้แผ่นดิน

อย่าปล่อยให้การตายของ 15 คนนี้ต้องสูญเปล่า ไปกับการกระทำเสมือนหนึ่ง วัวหายและล้อมคอก..

หมายเหตุเนื้อส่วนหนึ่งอ้างอิงจาก
INTERPRETIVE GUIDANCE ON THE NOTION OF
DIRECT
PARTICIPATION
IN HOSTILITIES
UNDER INTERNATIONAL HUMANITARIAN LAW
(ICRC)

 890 total views,  2 views today