เมษายน 25, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

รองเลขาธิการศอ.บต. หารือ ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย เตรียมทำข้อตกลงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ตามเส้นทางการท่องเที่ยวฮาลาล ทัวร์ลิซิม

แชร์เลย

 (2 กันยายน 2561) เวลา 18.00 น. ที่โรงแรมซีเอส จังหวัดปัตตานี นายไกศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และผู้สื่อข่าวจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพบปะ รับประทานอาหารกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย เพื่อหารือช่องทางการทำข้อตกลงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศมาเลเซียกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ได้เที่ยวชมงานเตอรีมากรือเซะ ครั้งที่ 1 ในเดือน สิงหาคม และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 2-3 กันยายน 2561

นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขธิการ ศอ.บต. กล่าวกับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวประเทศ มาเลเซีย และอินโดนีเซียว่า ในนามของศอ.บต. ที่ดูแล 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งใจอยากพบผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญที่จะช่วยกันพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้น อย่างไรก็ดีในอดีตทุกคนเคยได้รับฟังประวัติศาสตร์ของจังหวัดปัตตานี พื้นที่ที่เคยเป็นเมืองท่า เป็นจุดแลนมาร์กของการจอดเรือ เป็นดินแดนที่มีความรุ่นเรืองแห่งลังกาสุกะ รวม 3 แหล่งอารยะธรรม คือ พราหมณ์ พุทธ และมลายู นำมาซึ่งประวัติศาสตร์ของการก่อตั้งเมืองแห่งนี้ จนมีชื่อเรียนว่า ระเบียงแห่งเมกกะ และโดยปัจจุบันเมืองปัตตานีถือว่า เป็นเมืองแปรรูปเกษตรกรรม เนื่องจากมีพื้นที่อำเภอติดกับชายฝั่งทะเล 7 อำเภอและเชื่อมต่ออีก 3 อำเภอใกล้เคียง เป็น 10 อำเภอ พร้อมมีประชาชนที่มีบ้านเรือนใกล้ทะเลกว่า 2 แสนคน

อีกทั้งเป็นเมืองที่เชื่อมโยงกับจังหวัดสงขลา และนราธิวาส เป็นเมืองที่มีการแปรรูอุตสาหกรรมประมงที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ทั้งนี้ในปัจจุบันเมืองปัตตานีเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และมีศักยภาพ ประกอบกับมีชุมชนเข้มแข็งที่ทำเป็นชุมชนท่องเที่ยว  22 ชุมชน จึงสามารถพัฒนาให้เป็นพื้นที่ฮาลาลทัวร์ลิซึมทริป และในอนาคตต้องอาศัยศักยภาพของพื้นที่ เพื่อเชื่อมโยงกับศักยภาพของภูมิภาค 3 จังหวัดชายแดน คือเกตเวย์ที่จะเชื่อมประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย นอกจากนั้นยังมีวินโดวส์เวย์ ที่จะเปิดอาเซียนไปสู่ดินแดนต่างๆ จึงมีแนวคิดว่า ทั้ง 3 ประเทศ คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีศักยภาพที่จะเชื่อมโยงและเป็นหุ้นส่วนซึ่งกันและกัน โดยเริ่มต้นจากผู้ประกอบการ ภาคเอกชนและประชาชน เพื่อเดินไปสู่การพัฒนาการค้าการท่องเที่ยวในภูมิภาคแห่งนี้

นางอัยดา อูเจ๊ะ นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน เผยว่า สมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน ร่วมกับ ศอ.บต. เตีรยมผลักดันการท่องเที่ยว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีกว่าเดิม อาทิ การท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวแหล่งประวัติศาสตร์และอารยธรรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอาหาร และเลือกซื้อของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ที่เป็นแหลมมลายู ซึ่งผู้ประกอบการมักนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมมัสยิดกรือเซะ อุโมงค์ป่าโกงกาง จังหวัดปัตตานีและมัสยิด 300 ปี ที่ตำบลตะโละมาเนาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวประทับใจและมีการวางโปรแกรมทัวร์เลือกซื้อของฝากที่อำเภอเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งทั้งหมดนี้มีการลงโปรแกรมทัวร์ 4 วัน 3 คืน เที่ยวนราธิวาส ปัตตานี และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ประเทศมาเลเซียด้วย

อย่างไรก็ดีที่ประชุมจะมีการหารืออย่างเป็นทางเกี่ยวกับข้อตกลงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศอีกครั้งในโอกาสพบปะครั้งต่อไป เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาล

โดย…บรรณาธิการข่าว

 616 total views,  2 views today

You may have missed