กันยายน 8, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

เปิด 52 ข้อเสนอของเครือข่ายผู้นำศาสนา ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง : กระบวนการสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี ควร:ตามมาตรฐานสากล

แชร์เลย

เปิด 52 ข้อเสนอของเครือข่ายผู้นำศาสนา ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง : กระบวนการสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี ควร:ตามมาตรฐานสากล

Dr. Muhammad Bin Ahmad ผู้แทนเครือข่ายผู้นำศาสนา นักวิชาการ ภาคประชาสังคมในพื้นที่ปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Jaringan Pimpinan Islam Ahli Akaderik Organisasi Masyarakat dan Antara Bangsa) มอบข้อเสนอกระบวนการสันติภาพของเครือข่ายฯ ต่อนายพลเทพ ธนโกเศศ ตัวแทนจากคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ และส่งต่อไปยังแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (BRN)

หลังจากร่วมเสวนา หัวข้อ “ทิศทาง อนาคตกระบวนการสันติภาพปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้” วันนี้ (23 ธันวาคม 2566) ณ หอประชุมชูเกียรติ ปีติเจริญกิจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

ประกอบด้วย
ข้อเสนอต่อรัฐบาลไทย มี 18 ข้อ
ข้อเสนอสำหรับขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN) 10 ข้อ
ข้อเสนอสำหรับผู้อำนวยความสะดวก (ประเทศมาเลเซีย) 13 ข้อ
ข้อเสนอสำหรับประชาคมระหว่างประเทศ 11 ข้อ
ข้อเสนอต่อประชาชนและภาคประชาสังคมในพื้นที่ปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 ข้อ
รวมทั้งหมด 52 ข้อ ดังนี้

#ข้อเสนอสำหรับรัฐไทย (Thai State)
1. กระบวนการสันติภาพควรเป็นไปตามมาตรฐานสากลในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ตามหลักการ 8 ข้อใน UN Guidance for Effective Mediation
2. ข้อตกลงในเวทีเจรจาสันติภาพควรมีการแถลงต่อสาธารณะร่วมกันโดยทั้งสองฝ่ายในทันที่ภายหลังจบการเจรจาในแต่ละครั้ง
3. เมื่อมีข้อตกลงหยุดปฏิบัติการทางทหารทั้งสองฝ่าย (Ceasefire) ฝ่ายรัฐไทย ควรงดบังคับใช้กฎหมายพิเศษทุกฉบับ ตลอดช่วงเวลาตามที่ตกลงเพื่อสร้างบรรยากาศความปลอดภัยให้กับประชาชน
4. ควรมีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร
5. ควรกำหนดตัวแทนกลไกผู้ประสานงานที่เป็นทางการระหว่างคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายกับประชาชนและประชาสังคมในพื้นที่
6. ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภพต้องได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยในทุกมิติ
7. ต้องมีการรับประกันความปลอดภัยสำหรับประชาชนในการแสดงความเห็นหรือการมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ
8. กระบวนการพูดคุยสันติภาพควรกำหนดกลไกที่เป็นทางการเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมกับกระบวนการโดยตรง เช่น กลไกผู้ประสานงาน กลไกการติดตามประเมินผล กลไกการรับฟังความคิดเห็น กลไกการติดต่อกับผู้อำนวยความสะดวก ผู้เชี่ยวชาญและผู้สังเกตการณ์ ฯลฯ
9. ให้มีช่องทางการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ (Back Channel) ในต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศมาเลเซีย เพื่อหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
10. แนวคิดการมีการทำงานร่วมกันควรให้ความสำคัญในลำดับแรกๆ ของทุกๆกิจกรรมในกระบวนการสร้างสันติภาพ ทั้งในเวทีการพูดคุยและเวทีระดับพื้นที่
11. ให้การสร้างสันติภาพในปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกภาคส่วนในสังคมเข้าไปมีส่วนร่วมนอกจากฝ่ายบริหาร ด้วยการตราพระราชบัญญัติสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้
12. หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะหน่วยงานด้านปฏิบัติ ควรทำงานเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อและสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพ เช่น การเคารพสิทธิเสรีภาพในการ แสดงออก ไม่คำเนินการตรวจดีเอ็นเอ การไม่ใช้นโยบายปิดล้อมตรวจค้น
13. รัฐสภาควรจัดตั้งคณะกรรมาธิการสามัญด้านการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแคนภาคใต้/ปาตานี
14. หัวหน้าคณะพูดคุยควรเป็นตัวแทนจากพลเรือน
15. นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ความปลอดภัย
16. คณะรัฐมนตรีควรรักษาความต่อเนื่องของกระบวนการพูดคุยสันติภาพจากรัฐบาลที่ผ่านมา โดยยืนยันตามเอกสารหลักการทั่วไป 3 ข้อ (reduction of violence, public consultation, political solution)
17. คณะรัฐมนตรีควรยกระดับหลักการลดความรุนแรง เป็นการหยุดชิงและยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งสองฝ่าย (ceasefire)
18. ชื่อของกระบวนการสันติภาพควรกำหนดเป็น “การพูดคุยสันติภาพ” ตามรายละเอียดใน General Consensus on Peace Dialogue Process (2013)

#ข้อเสนอสำหรับขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี (BRN)
1. กระบวนการสันติภาพควรเป็นไปตามมาตรฐานการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ตามหลักการ 8 ข้อใน UN Guidance for Effective Mediation
2. BRN ควรประกาศให้กระบวนการพูดคุยสันติภาพเป็นวาระแห่งประชาคมปาตานี เพื่อแสดงความจริงจังและจริงใจในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
3. BRN ควรสนับสนุนแนวทางทางการเมืองในการแก้ปัญหาความขัดแย้งมากกว่าการใช้ความรุนแรง
4. BRN ควรเปิดกว้างให้ขบวนการอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการพูดคุยสันติภาพปาตานี
5. ข้อตกลงในเวทีเจรจาสันติภาพควรมีการแถลงต่อสาธารณะร่วมกันโดยทั้งสองฝ่ายในทันทีภายหลังจบการเจรจาในแต่ละครั้ง
6. BRN ควรกำหนดตัวแทนกลไกผู้ประสานงานที่เป็นทางการโดยกำหนดตัวบุคคลและช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน กับประชาชนและประชาสังคมในพื้นที่
7. BRN ต้องรับประกันความปลอดภัยในทุกมิติกับสำหรับประชาชนทุกฝ่ายในการแสดงความเห็นหรือการมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ
8. กระบวนการพูดคุยสันติภาพควรกำหนดกลไกที่เป็นทางการเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมกับกระบวนการโดยตรง เช่น กลไกผู้ประสานงาน กลไกการติดตามประเมินผล กลไกการรับฟังความคิดเห็น กลไกการติดต่อกับผู้อำนวยความสะดวก ผู้เชี่ยวชาญและผู้สังเกตการณ์ ฯลฯ
9. ให้มีช่องทางการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ (Back Channel) ในต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศมาเลเซีย เพื่อหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
10. แนวคิดการมีการทำงานร่วมกันควรให้ความสำคัญในลำดับแรกๆ ของทุกๆกิจกรรมในกระบวนการสร้างสันติภาพ ทั้งในเวทีการพูดคุยและเวทีระดับพื้นที่

#ข้อเสนอสำหรับผู้อำนวยความสะดวก(ประเทศมาเลเซีย)
1. กระบวนการสันติภาพควรเป็นไปตามมาตรฐานการแก้ไขปัญหาในระดับสากล
2. รัฐบาลมาเลเซียควรเปิดกว้างให้ประชาดมระหว่างประเทศข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุนกระบวนการพูดคุยสันติภาพ เพื่อความจริงจัง จริงใจ ให้เกียรติมีความยั่งยืน และสามารณเก้ไขปัญหาได้จริงใน ระยะเวลาอันใกล้
3. รัฐบาลมาเลเซียควรส่งเสริมให้หน่วยงานภาคส่วนอื่น ๆ ในมาเลเซีย เช่น องค์กรภาคประชาสังคม ภาควิชาการและรัฐสภา มีส่วนร่วมสนับสนุนกระบวนการสันติภาพปาตานี
4. มาเลเซียควรอำนวยความสะดวกให้คู่เจรจาทั้งสองฝ่ายมีการแถลงต่อสาธารณะร่วมกันในทันทีภายหลังจบการเจรจาในแต่ละครั้ง
5. ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภาพต้องได้รับการตุ้มครองความปลอดภัยในทุกมิติ
6. กระบวนการพูดคุยสันติภาพควรกำหนดกลไกที่เป็นทางการเปิด โอกาสให้ประชาชนและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมกับกระบวนการโดยตรง
7. มีช่องทางการติดต่อที่เป็นทางการระหว่างประชาชนและประชาสังคมในพื้นที่ กับที่ประเทศผู้อำนวยความสะดวก
8. มาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกควรยกระดับกระบวนการสันติภาพให้มีมาตรฐาน เปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ หรือ องค์การระหว่างประเทศ (INGO) เข้ามาเป็นหุ้นส่วน (Partnership) ในกระบวนการสันติภาพมากขึ้น
9. ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่ายต้องอยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพ ปราศจากการกดดันและบังคับ
10. แนวคิดการมีการทำงานร่วมกันควรให้ความสำคัญในลำดับแรกๆ ของทุกๆกิจกรรมในกระบวนการสร้างสันติภาพ ทั้งในเวทีการพูดคุยและเวทีระดับพื้นที่
11. มาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกควรไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (impartial) และสนับสนุนกระบวนการพูดคุยอย่างเท่าเทียมระหว่างกันเพื่อให้กระบวนการสันติภาพมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ใช้เงื่อนไขกดดันคู่เจรจาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งส่งผลต่อบรรยากาศการพูดคุย
12. มาเลเซียควรให้มีช่องทางการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ(Back Channel) ในต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศมาเลเซีย เพื่อหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
13. รัฐบาลมาเลเชียควรส่งเสริมให้เกิดกล ไก ขั้นตอนและกฎกติกาที่ชัดเจนที่เป็นทางการเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมกับกระบวนการโดยตรง (เปิดเผยและเป็นที่รับรู้โดยสาธารณชน)

#ข้อเสนอสำหรับประชาคมระหว่างประเทศ
1. กระบวนการสันติภาพควรเป็นไปตามมาตรฐานการแก้ไขปัญหาในระดับสากล
2. กระบวนการสันติภาพควรเป็นไปด้วยความจริงจัง ให้เกียรติ มีความยั่งยืน และสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงในระยะเวลาอันใกล้
3. ทุกฝ่ายต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในกระบวนการสันติภาพ
4. ประชาคมระหว่างประเทศควรติดตามและสนับสนุนกระบวนการสันติภาพปาตานี
5. ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศควรเป็นสักขีพยานบนโต๊ะพูดคุยและการแถลงต่อสาธารณะร่วมกันโดยทั้งสองฝ่ายในการเจรจาในแต่ละครั้ง
6. ประชาคมระหว่างประทศควรติดตามให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสันติภาพ ได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยในทุกมิติ
7. ประชาคมระหว่างประเทศควรส่งเสริม กระบวนการพูดคุยสันติภาพซึ่งกำหนดกลไกที่เป็นทางการเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมกับกระบวนการโดยตรง
8. ประชาคมระหว่างประเทศควรสนับสนุนให้มีช่องทางการติดต่อที่เป็นทางการระหว่างประชาชนและประชาสังคมในพื้นที่กับที่ผู้เชี่ยวชาญ ผู้สังเกตการณ์และประเทศผู้อำนวยความสะดวก
9. ประชาคมระหว่างประเทศควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้อตกลงที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่ายอยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพ ปราศจากการกดดันและบังคับ
10. ประชาคมระหว่างประเทศควรสนับสนุน ให้มีช่องทางการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ(Back Channel) ในต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศมาเลเซีย เพื่อหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยสันติภาพ
11. ประชาคมระหว่างประเทศควรเห็นพ้อง ประสานงานร่วมกัน และทำให้ความสอดคล้องในการสนับสนุนกระบวนการพูดคุยสันติภาพ

#ข้อเสนอต่อประชาชนและภาคประชาสังคมในพื้นที่ปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้
1. ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมควรตื่นรู้ ติดตามและให้ความสำคัญกับกระบวนการสันติภาพ
2. ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมควรแสดงออกถึงเจตจำนงที่แท้จริงของตน
3. ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมควรสนับสนุน และมีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพ
4. ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้/ปาตานีควรเข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนะความคิดเห็นและความต้องการเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพในพื้นที่

หมายเหตุคัดลอกจากเพจ THE PEN (https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=890949925923351&id=100050250559431)

#สำหรับ 52 ข้อเสนอนี้ยื่นช่วงท้ายของ

งานเสวนาหัวข้อ
” เหลียวหลัง แลหน้า : ทิศทาง อนาคตกระบวนการสันติภาพปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้”
เมื่อ 23 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุมชูเกีรติ ปีติเจิรญกิจ (ตึก สนอ.หลังเก่า) ตั้งแต่เวลา 13.00 – 17.00 น. ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนาในครั้งนีี้
1. คุณพลเทพ ธนโกเศศ ตัวแทนจากคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้
2. ตัวแทนคณะพูดคุยสันติภาพขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ (BRN)
3. ผศ.ดร. ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (Deep South Watch)
4. คุณ Saifulnizam Bin Muhamad รองหัวหน้าขบวนการยุวชนมุสลิมมาเลเซียประจำรัฐกลันตัน
5. Dr. Muhammad Bin Ahmad ผู้แทนเครือข่ายผู้นำศาสนา นักวิชาการ ภาคประชาสังคมในพื้นที่ปาตานี/จังหวัดชายแดนภาคใต้
ดำเนินรายการโดย รอมซี ดอฆอ ประธานสมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ (CAP) และตัวแทนจากคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาผู้แทนราษฎร
(ชมย้อนหลังฉบับเต็มใน https://fb.watch/p7mMdSbHy8/?)

 26,248 total views,  2 views today

You may have missed