อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่าน รวมทั้งผู้อ่านทุกท่าน
27 กุมภาพันธ์ 2565 บ้านมูโน๊ะอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส นำ้ท่วมหนักรอบสองวิกฤตกว่าเก่าโดยเฉพาะภาพน้ำท่วมในสภ.มูโน๊ะ และรอบๆชุมชนที่กำลังถูกแชร์ในโลกโซเชี่ยล(ดูในสภ.มูโนะ จังหวัดนราธิวาส ร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวนราธิวาส https://www.facebook.com/100069020296104/posts/259991889644819/)
ในขณะที่ชาวบ้านมูโน๊ะท่านหนึ่งได้สะท้อนถึงน้ำท่วมครั้งนี้ว่า “ความเสียหายของรอบที่แล้ว 12/64 ยังซ่อมไม่เสร็จ วันนี้(26 กุมภาพันธ์ 2565 )เพิ่มความเสียหายหลายร้อยพันเท่า ประวัติศาสตร์น้ำท่วมตำบลมูโนะ จากที่ไม่เคยขึ้นบนถนนใหญ่ปีนี้ไม่เหลือ บ้านก็เหลือแค่หลังคา ทุกอย่างพัดไปกับน้ำหมดเลย “
#ท่วมหนักกว่าที่คิดเพราะพนังกั้นแม่น้ำโกลกแตก
จากมวลน้ำในแม่น้ำโก-ลกที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีฝนตกหนักสะสมมาตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ส่งผลต่อนำ้ท่วมครั้งนี้
สวท.สุไหงโกลกรายงานว่า “วันที่ 26 ก.พ.65 เวลา
17.30 น. สทนช. ตรวจพบปริมาณน้ำ ล้นประตูระบายน้ำมูโนะ ที่กั้นคลองมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส น้ำล้นข้ามคันกั้นน้ำประตูระบายน้ำแล้ว และน้ำบางส่วนกัดเซาะคันประตูระบายน้ำมูโนะ มีแนวโน้มอาจพังทลาย เพราะกระแสน้ำได้
สทนช. แจ้งเตือนภัย พื้นที่อยู่ริมคลองมูโนะ และท้ายประตูระบายน้ำมูโนะ ตลอดแนว ให้เตรียมรับสถานการณ์ หากน้ำกัดเซาะประตูระบายน้ำพังทลายลง โดยเฉพาะสายหมู่บ้านปศุสัตว์ / หมู่บ้านปลักปลา / หมู่บ้านโคกยาง”เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพในอดีตก่อนหน้านี้แค่3 เดือน คือ วันที่ 15-18 ธันวาคม 2564 จนทำให้สูงกว่าตลิ่งมากกว่า 1.5 เมตร และจากการรองรับมวลน้ำมหาศาลจากคลองบูเก๊ะตา ที่รับนำ้จากมาเลเซียด้วยเช่นกัน เข้ามาในแม่น้ำโก-ลก พนังกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก บริเวณ บ้านมูโนะ ตำบลมูโนะแตก ทำให้น้ำจากแม่น้ำโก-ลกทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และ
สถานีตำรวจภูธรมูโนะโดยระดับน้ำสูงประมาณ 1 กว่า เมตร และในพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตรทำให้ทรัพย์สิ่งและสิ่งของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
#โรงเรียนสอนศาสนาและบาบอฆาซาลีพร้อมลุยช่วยชาวมูโน๊ะ
โรงเรียนดารุลฟุรกอนนั้นเป็นโรงเรียนสอนศาสนาสอนควบคู่สามัญตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยม ตั้งอยู่บนที่สูงของชุมชนในตำบล มูโนะ อำเภอ สุไหงโก-ลก
“เหตุผลที่ทำให้ที่นี่อาสาเปิดเป็นศูนย์อพยพ ก็เพราะอาคารสถานที่ของโรงเรียนพร้อมมากๆห้องนำ้หอพักอยู่ที่สูงช่วงโควิดมิได้ใช้เรียนอีกหลายอาคาร มีมัสยิดสามารถปฏิบัติศาสนกิจ มีโรงครัวโรงอาหาร ที่สำคัญยิ่งบาบอฆอซาลีเป็นผู้รู้ศาสนาอิสลามที่บริหารที่นี่ได้รับความไว้วางใจทั้งคนนราธิวาสและผู้หลักผู้ใหญ่ในมาเลเซีย “ ท่านจึงตัดสินใจให้โรงเรียนดารุลฟุรกอนได้ตั้งเป็นศูนย์อพยพสำหรับผู้ประสบภัยนํ้าท่วม ในการแก้ปัญหาวิกฤตและช่วยชาวบ้านในครั้งนี้
อิลยาส อิบรอฮีม เปิดเผยต่อผู้เขียนว่า
“ผมและทีมงานได้ประสานงานกับบาบอรอซาลี(ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียน),นายกอบต.มูโนะ(ดาดูแล) เป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะนี้ หากพี่น้องท่านใดอยากอพยพมาอยู่ที่โรงเรียน สามารถติดต่อมาได้ที่ทีมงานผมเลยนะครับที่ 062-9757275 รวมทั้งเชิญชวนพี่น้องท่านใดอยากร่วมสมทบทุน สามารถสมทบทุน
(เบื้องต้น)ธนาคารทหารไทย
3362538211 ชื่อบัญชีอิลเลียซ อิบราฮิมซึ่งยอดบริจาคบางส่วนทีมงานได้เริ่มซื้อของและแจกจ่ายให้ผู้อพยพแล้วครับ”
นอกจากนี้ ยังมี ภาคประชาชนทั้งในพื้นที่และส่วนกลางโดยเฉพาะสภาเครือข่ายมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรีลงพื้นที่และระดมทุนช่วยเหลืออุทกภัยครั้งนี้อย่างเต็มที่
#บาบอฆอซาลี มูโน๊ะ กับบทเรียนช่วยนำ้ท่วมชาวบ้าน
บาบอฆอซาลีเคยลงลงพื้นที่ลุยนำ้ช่วยเหลือชาวบ้านนำ้ท่วมที่มูโน๊ะ (นราธิวาส)เดือนธันวาคม2565 เพราะท่านเข้าใจ คำสั่งเสียของท่านศาสดาในฐานะผู้รู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ดังที่ท่านศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวไว้ว่า إن العلماء ورثة الأنبياء وإن الأنبياء لم يورثوا دينارا ولا درهما وإنما ورثوا العلم ,فمن أخذه فقد أخذ بحظ وا فر [البخارى:2682] “แท้จริงอุลามาอ์(บรรดาผู้รู้ศาสนา)คือ ผู้สืบทอดมรดกของบรรดานบีซึ่งที่จริงแล้วพวกเขาไม่ทอดทิ้งสิ่งใดเลย(ให้คนที่มีชีวิตต่อจากเขา)แม้จะเป็นเงินซักดีนาร์หรือเงินดิรฮัมเดียว แต่สิ่งที่พวกเขาได้ทิ้งไว้คือความรู้,ดังนั้นใครก็ตามที่เขาได้รับเอาไปก็เท่ากับว่าเขาได้รับโชคลาภอันล้ำค่าที่สุด” (อัลบุคอรีย์ 2682) ท่านกล่าวว่า “พวกเรา ชาวตำบลมูโนะอดทนและมีพลังบวก กับทุกบททดสอบจากเอกองค์อัลลอฮ์” #บาบอฆอซาลี มูโน๊ะ มีชื่อตามทะเบียนบ้านว่า มูฮำหมัดรอสาลี หะยีดือราแม ตำแหน่งผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนดารุลฟุรกอน สุไหงปาดี นราธิวาส ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้รู้ศาสนาที่มีชื่อเสียงในการบรรยายธรรมทั้งนราธิวาสและกลันตันประเทศมาเลเซีย (สามารถติดตามท่านได้ทั้งFacebook และYouTube ) หมายเหตุประมวลภาพ https://www.facebook.com/100005829727197/posts/1966927826844856/?d=n
#แก้ปัญหานำ้ท่วมแม่นำ้สุไหงโกลกต้องสองประเทศไทย-มาเลเซีย
เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่กลันตัน ประเทศมาเลเซียท่วมหนัก ส่งผล ถึงบ้านมูโน๊ะ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาสไทย
(หมายเหตุดูรายงานข่าว
1. ตรังกานู กลันตัน
https://fb.watch/brFzqpHFOz/
2. บาบอลีมูโน๊ะ รายงาน “มูโน๊ะ พื้นที่ติดแม่น้ำสุไหงโกลก:น้ำท่วมครั้งนี้หนักสุด ขออัลลอฮ์ให้พวกเราผ่านพ้นอุทกภัยไปด้วยกัน
Ghazali
Ghazali
Ghazali Al-fathoni was live.
ดังนั้นการแก้ปัญหาการจัดการน้ำต้องร่วมกันทั้งสองประเทศ
“ความจำเป็นในการใช้ทรัพยากรน้ำของทั้งสองประเทศ โครงการพัฒนาบนแม่น้ำสุไหงโกลกของประเทศใดประเทศหนึ่งต้องพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดแก่ประเทศที่ใช้แม่น้ำร่วมกัน โดยต้องมองถึงประโยชน์และผลกระทบร่วมกันซึ่งอาจจะมุ่งเน้นประเด็นสําคัญ 5 ประการ ได้แก่
1.การพัฒนาหน้าที่เชิงระบบนิเวศของแม่น้ำสุไหงโกลกเพื่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ดีและชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ระหว่างสองประเทศ
2.การพัฒนาการเข้าถึงและการใช้น้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องเพื่อสุขภาวะที่ดีของชุมชน
3.การพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ทั่วถึงและครอบคลุมทั้งสองประเทศ
4.ความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศและความเสี่ยงต่อภัยพิบัติ และ
5.การยกระดับความร่วมมือระดับจังหวัดนราธิวาสกับรัฐกลันตันจากมุมมองของทั้งลุ่มน้ำ
นอกจากนี้การหนุนเสริมภาคประชาชนเรื่องการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติต่างๆ การฟื้นฟูสภาพหลังประสบภัยพิบัติระยะสั้น ระยะยาวอีกประการที่ไม่ควรมองข้ามคือมาตรการการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง
14,511 total views, 4 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.