อาลีฟ มามะ รายงาน
10 กันยายน 2564 เวลา 1530 น. ที่ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองพันส่งกำลังและบริการ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่15 ค่ายลพบุรีราเมศวร์ ตำบลเกาะสะบ้า อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เดินทางมาเป็นประธานในกิจกรรม “สวนพืชผักสมุนไพรไทยช่วยต้านภัยโควิค 19” ของกองพันส่งกำลังและบริการ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่15 โดยมี พันเอกพสุธาร สมิตานนท์ ผู้บังคับการกรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่15 พันโท สุบิน ชะรอยรัมย์ ผู้บังคับ กองพันส่งกำลังและบริการ กรมสนับสนุน กองพลทหารราบที่15 กำลังพล และครอบครัว เข้าร่วมกิจกรรม
โดย พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ตระหนัก เห็นถึงความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน กำลังพล และครอบครัวกำลังพลเป็นสำคัญ ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างไปทั่วทั้งประเทศ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนในทุกพื้นที่ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ก็มียอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในห้วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ จึงได้รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้กำลังพล และครอบครัว ของหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 หันมาปลูกสมุนไพรไทย ซึ่งมีสรรพคุณสามารถรักษาอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ โดยภายในกิจกรรม ได้ปลูกสมุนไพรไทย ทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร 150 ต้น กระชายขาว 120 ต้น ตะไคร้ 250 ต้น ขิง 100 ต้นข่า 180 ต้น และ ขมิ้น 100 ต้น รวมปลูกสมุนไพรทั้งสิ้น 900 ต้น เพื่อนำร่องเป็นแปลงต้นแบบขยายผลไปสู่กำลังพล และครอบครัว เพื่อนำไปเป็นยารักษาโรคโควิด-19 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายพันธุ์เพิ่ม สำหรับปลูกทดแทนและขยายพื้นที่การปลูก รวมทั้งเพื่อมอบต้นกล้าฟ้าทะลายโจร แก่กำลังพล, ครอบครัว, ประชาชนทั่วไป รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่สนใจนำไปเป็นยาสมุนไพรรักษาโรค โควิด-19 ต่อไป
จากผลการศึกษาวิจัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดพบว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสและมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้รักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย และไม่มีภาวะปอดอักเสบ (หายใจเหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอกเมื่อหายใจเข้า ไอเสมหะ หายใจลำบาก) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และแทบไม่พบผลข้างเคียงอีกด้วย แต่ต้องได้รับฟ้าทะลายโจรเร็วที่สุดจึงจะมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีวิธีกินฟ้าทะลายโจรสด (สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีโรคประจำตัว และอายุ 12 ปีขึ้นไป) ควรรับประทานให้เร็วที่สุดหลังติดเชื้อหรือมีอาการ โดยกินใบฟ้าทะลายโจร แบบสดจากต้นที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไป โดยเคี้ยวใบฟ้าทะลายโจร 10 ใบต่อมื้อ จำนวน 3 มื้อต่อวัน ติดต่อกันจำนวน 5 วัน หรือ กินแบบต้มก็ได้ ต้องกินทั้งน้ำ และใบให้หมด โดยใช้จำนวนเท่ากัน คือ 10 ใบต่อมื้อ กิน 3 มื้อต่อวัน ติดต่อกันจำนวน 5 วัน แต่ห้ามไม่ให้ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือผู้แพ้ฟ้าทะลายโจร กิน และมีข้อควรระวังคือ การกินฟ้าทะลายโจรร่วมกับยา warfarin aspirin clopidogrel ยาลดความดันโลหิต
5,206 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี