SOUTH : วิถีชีวิตคนในชุมชนการหารายได้เลี้ยงชีพ กับปัญหาราคาผลไม้ตกลงอย่างต่อเนื่อง และในสภาวะบ้านเมืองล๊อคดาวน์ กระทบจากพิษโควิด19

แชร์เลย

เนื่องด้วยในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และขึ้นชื่อว่าเป็นอำเภอที่มีผลไม้นานาชนิดของจังหวัดนราธิวาส ที่นี่มีอาชีพหลักของประชาชนนอกจากทำส่วนยางพาราแล้ว ยังทำอาชีพที่เกี่ยวกับทุเรียนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะโรงงานทำทุเรียนกวน ที่ต้องใช้ทุเรียนหลายร้อยตันต่อวัน จากหลายผู้ประกอบการโรงงานทำทุเรียนกวน ที่สำคัญโรงงานต่างๆก็ยังได้มีประชาชนไปมีส่วนร่วมในการทำอาชีพ เพื่อหารายได้เสริมท่ามการเมืองที่ล๊อคดาวน์ กระทบต่อการทำมาหากินเลี้ยงชีพ บางรายไม่สามารถเดินทางข้ามชุมชน ข้ามหมู่บ้านได้ หน่ำซ้ำขณะนี้ปัญหาอีกเรื่องคือราคาของผลไม้เริ่มตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลไม้ล้นตลาด ซึ่งเป็นฤดูของทุเรียนขณะนี้ จากเดิมทุเรียนกิโลกรัมละ 100 – 120 บาท ลดลงเหลือเพียง 7 – 10 บาทต่อกิโลกรัม
.
ผู้ประกอบการหลายคนสะท้อนถึงวิกฤต ปัญหาที่พบเจอว่า ขณะนี้การเก็บเนื้อทุเรียนสดจากเดิมเก็บได้ 300 ตันในตู้แช่เย็นของทาง อบต.เจาะไอร้อง ล้นแล้ว จะต้องไปฝากเก็บเนื้อทุเรียนที่ จ.ปัตตานี และต้องใช้เวลาการเดินทางไปเก็บรวมถึงต้องเสียเงินค่าเช่าเก็บ อยากให้ภาครัฐขยายห้องตู้แช่เย็นให้กว้างขึ้นและรองรับทุเรียนสดในจำนวนมากๆได้ คนที่นี่จะต้องใช้ทุเรียนในการทำทุเรียนกวนเพื่อขายส่งออกทั้งในและต่างประเทศ ต่อปีได้รายได้อย่างมหาศาล อีกทั้งขณะนี้ลูกจ้างก็ได้รับผลกระทบเรื่องการเดินทางไปมา เนื่องจากบางชุมชนต้องปิดหมู่บ้าน และปัญหาเรื่องราคาผลไม้ที่ตกต่ำทำให้ทุเรียนกวนจากเดิมราคา 300 บาทต่อกิโกกรัมเหลือเพียง กิโลกรัมละ 160 บาทไปแล้ว
.
ทางด้านนายแวหามะ บากา หัวหน้าสำนักงานเกษตร จ.นราธิวาส ได้กล่าวด้วยว่า ทางเกษตรจังหวัดได้สนับสนุนชาวเกษตรกรมาโดยตลอด ลงพื้นที่ดูงาน ดูปัญหาของพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้นำเสนอแกทางภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการจัดการช่วยเหลือ ทั้งเรื่องปากท้อง และการสนับสนุนงบประมาณต่างๆ
.
แม้ว่าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ประชาชนก็ยังดิ้นรนเลี้ยงชีพอย่างปกติ แม้ว่ากระทบการดำเนินชีวิตอยู่บ้าง การเอาตัวรอดท่ามกลางวิกฤตเหล่านี้ และนี่คือธรรมชาติของคนเจาะไอร้องที่ใช้ทรัพกรธรรมชาติสร้างมูลค่า สร้างรายได้มหาศาลเข้าในชุมชน ท่ามกลางโรคระบาด และเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
#หนุ่มภาคใต้

***************