#ดีเดย์Kick off วัคซีนโควิด:กับข้อเสนอวัคซีนทางเลือกไม่ใช่บังคับเลือก

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

เมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายน “พล.อ.ประยุทธ์” ดีเดย์ Kick off ควบ-ขี่ม้ารณรงค์ ผ่านรัฐราชการรวมศูนย์อำนาจเพื่อฝ่าพายุวิกฤตศรัทธา-เรียกความเชื่อมั่นนั้นโดยการฉีดวัคซีนตามที่ประชาชนได้ลงทะเบียนไว้ สำหรับโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา นายแพทย์คนดังอย่าง นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ได้แจ้งต่อผู้เขียนว่า “​ วันนี้คนไม่มากว่า40คน​ จากที่นัดไว้260 “หมอท่านกรุณาเล่าบรรยากาศที่โรงพยาบาลว่า
“ไม่ต้องรอตัดริบบิ้น ไม่ต้องพิธีเปิด ผู้จองวัคซีนมาแต่เช้า เวลา 8.30 น.ทุกอย่างพร้อมก็เริ่มฉีดผู้ป่วยรายแรก รายแรกเป็นหญิงอายุ 73 ปี บ้านอยู่ท่าแมงลัก ตำบลสะกอม อำเภอเทพา ใกล้กับโรงพยาบาลจะนะ จึงเลือกมาฉีดที่จะนะ ส่วนรายที่สองอายุ 61 ปี เกณฑ์การฉีดที่ตั้งไว้คือ แบ่งที่อายุ อายุมากกว่า 60 ปีฉีด astra
อายุน้อยกว่า 60 ปีฉีด sinovac ผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าใจในภาวะที่วัคซีนมีน้อย เลือกชนิดฉีดไม่ได้ จะนะมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนในวันที่ 7-11 มิถุนายน 2564 ไม่มากคือ 513 ราย ได้ astra มา​ 330 โดส​ และsinovac ​180 โดส

ลงทะเบียนนัดหมายไว้ในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ให้มาฉีดตามนัดในวันที่ 7 มิถุนายน ตามเวลาที่นัดหมายไว้ ซึ่งมีจำนวน 268 คน

ลงทะเบียนนัดหมายในวันที่ 8, 9, 10 และ 11 มิถุนายน 2564 ให้ทุกท่านรวบมาฉีดวัคซีนในวันที่ 8 มิถุนายน 2564 เพียงวันเดียว รวม 245 คน เพื่อความเหมาะสมของการบริหารวัคซีนที่มีจำกัด (เปิดขวดแล้วจะได้ใช้ให้หมด)

วัคซีนที่ได้มาทั้ง 2 ชนิด มีเพียงพอสำหรับทุกคนตามจำนวนที่ลงทะเบียนมา”
ฟังคำสัมภาษณ์ของหมอสุภัทรที่ว่า “ผู้ป่วยส่วนใหญ่เข้าใจในภาวะที่วัคซีมีน้อย ชาวบ้านหรือสื่อมวลชนเรียกว่า “วัคซีนบังคับเลือก ไม่ใช่ทางออก”ดังนั้นนายมังโสด หมะเต๊ะ รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ เสนอรัฐบาลจะต้องจัดหาวัคซีนทางเลือกที่หลากหลาย มีคุณภาพแก่ประชาชนอย่างเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้เพราะสอดคล้องกับสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ “ไม่บังคับเลือก ไม่ใช่บอกว่าวัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่มี รัฐต้องยึดหลักรธน. ไม่ควรเข้าไปบังคับปชช.ให้มาฉีดวัคซีนแต่ต้น ภาครัฐต้องเข้าใจและเคารพด้วยว่า แม้ตนจะมีอำนาจออกมาตรการบังคับตามกฎหมายได้ก็ตามที แต่โดยหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญก็รับรองและคุ้มครองว่า ประชาชนเองก็มี สิทธิในชีวิต(Right to life) ของเขา ซึ่งเชื่อมโยงไปยังสิทธิและเสรีภาพอื่นๆ อีกมากมาย อันส่งผลให้ประชาชนมีสิทธิในการตัดสินใจว่าจะยินยอมรับการฉีดวัคซีนหรือไม่อย่างไรบนพื้นฐานของความสมัครใจเสียก่อน
ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับการพิจารณาข้อมูลอย่างครบถ้วนรอบด้าน แม้ในภาวะวิกฤตจะบังคับได้ แต่ก็จะทำตามอำเภอใจไม่ได้ เพราะมีเงื่อนไขต่างๆเช่น ข้อมูลเรื่องวัคซีน แต่ละยี่ห้อ ความปลอดภัย ปริมาณ ก็ต้องมีเพียงพอ “

 8,587 total views,  2 views today