พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

การพิชิตคอนสแตนติโนเปิ้ล การทำลายศูนย์กลางการยึดครอง สูบเอาผลประโยชน์ และต่อต้านอิสลามในโลกยุคกลาง – ผศ.ดร.ฆอซาลี เบ็ญหมัด

แชร์เลย

ในสงครามพิชิตคอนสแตนติโนเปิ้ล ตำราประวัติศาสตร์ตะวันตกมักใส่ร้ายป้ายสีชาวเติร์กและชาวมุสลิมว่าเป็นคนเถื่อนที่บุกไปทำลายดินแดนแห่งอารยธรรม

การพูดความจริงไม่ครบถ้วนคือการโกหก ประวัติศาสตร์ตัดทอนตัดตอนคือประวัติศาสตร์บิดเบือน

ทั้งที่ความจริงแล้ว เรื่องนี้มีที่มาที่ไปไม่ใช่เท่าที่เห็นเพียงผิวเผิน

ความเดิมมีอยู่ว่า….

ราชวงศ์เฮราคลิอุส Heraclius หรือฮิร๊อกล์ هرقل ขึ้นมามีอำนาจปกครองอาณาจักรไบเซนไตน์ หรือโรมันตะวันออก ที่มีเมืองหลวงอยู่ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล ช่วงปี 609 – 711 หลังจากก่อกบฏโค่นราชวงศ์เก่า ซึ่งตรงกับยุคของท่านนบี ศอลฯ และซอฮาบะฮ์

โรมันตะวันออกยุคนี้เป็นมหาอำนาจยึดครองแดนแถบแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง เช่น อียิปต์ และชาม อันประกอบด้วยดินแดนซีเรีย จอร์แดน ปาเลสไตน์ เลบานอน ในปัจจุบัน

การเผยแผ่อิสลามในยุคนี้จึงถูกต่อต้านจากไบเซนไตน์ โดยที่ข้าหลวงไบเซนไตน์ในเมืองมุตะฮ์ จอร์แดน ได้สังหารทูตของท่านนบี ศอลฯ แม้ว่าไบเซนไตน์เอาชนะกองทัพมุสลิมสงครามมุตะฮ์ ในปี ค.ศ.629 ในยุคของท่านนบี ศอลฯ อันเป็นที่มาของการที่ท่านนบี พยากรณ์ล่วงหน้าเกือบราวๆ 700 ปี ว่า มุสลิมจะสามารถพิชิตเมืองหลวงของพวกเขาได้โดยแม่ทัพและกองทัพที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ประวัติศาสตร์การยึดครองของโรมันต่อดินแดนตะวันออกกลางยุคนี้ ถูกตัดขาดจากประวัติศาสตร์การพิชิตคอนสแตนติโนเปิ้ล

จึงเห็นเพียงบริบทความรุนแรงของสงครามที่มุสลิมบุกพิชิตเมืองหลวงของโรมันตะวันออก

ประวัติศาสตร์ข้าหลวงไบเซนไตน์ในจอร์แดนสังหารทูตของท่านรอซูล ศอลฯ เป็นประวัติศาสตร์อัปยศที่ตะวันตกพยายามปกปิด ชาวตะวันตกและนักศึกษาที่อ่านประวัติศาสตร์จากแหล่งที่มาของตะวันตกจึงไม่ทราบข้อมูลนี้ ตลอดจนไม่ยอมรับหรือไม่รับรู้

หลังจากนั้น ในยุคของท่านคอลีฟะฮ์อุมัร ไบเซนไตน์ก็พ่ายแพ้ให้แก่มุสลิมในสงครามยัรมูก ในปี ค.ศ. 636 การพิชิตปาเลสไตน์ ในปี 637 และการพิชิตอียิปต์ ในปี 642

พวกเขาถอยออกจากดินแดนที่ยึดครอง แต่เมืองหลวงยังคงอยู่

คอลีฟะฮ์อิสลามในราชวงศ์อุมัยยะฮ์ ราชวงศ์อับบาซียะฮ์ ได้พยายามลบรอยแผล ทำให้เจตนารมณ์ของท่านศาสดาในการพิชิตเมืองหลวงแห่งการยึดครองและแอนตี้อิสลาม บรรลุเป็นความจริง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จในยุคสุลต่านมุฮัมมัด ฟาติห์ ในปี ค.ศ.1453

สามารถทำลายศูนย์กลางการยึดครองของโลกตะวันตกต่อตะวันออกลงโดยสิ้นซาก

ส่งผลให้โลกมุสลิมหลุดพ้นจากการครอบงำของตะวันตกมาอย่างยาวนาน

จนกระทั่งมาถึงวันที่อาณาจักรออตโตมันล่มสลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 สุลต่านออตโตมัน สูญสิ้นอำนาจ การปกครองออตโตมันตกอยู่ภายใต้คณะรัฐประหารยังเติร์กและฟรีเมสัน ตะวันตกก็เข้ามายึดครองและมีอำนาจเหนือโลกมุสลิมอีกครั้ง มากระทั่งวินาทีนี้

ซึ่งการพิชิตคอนสแตนติโนเปิ้ลครั้งที่ 2 ท่านนบี ศอลฯ เคยบอกไว้ว่า จะเกิดขึ้นอีกครั้ง

การเปลี่ยนแปลงอายาโซเฟียกลับคืนสู่การเป็นมัสยิดอีกครั้งเช่นในยุคสุลต่านมุฮัมมัด ฟาติห์ จึงมีนัยยิ่งใหญ่มหาศาล ซึ่งโลกตะวันตกซาบซึ้งดีถึงความหมายนี้ จึงรวมหัวกันคัดค้านอย่างเด็ดขาด

อิทธิพลของตะวันตกในโลกมุสลิมเริ่มถูกตอบโต้และถูกกำจัดออกไป อิสรภาพทางนโยบายเริ่มปรากฏ

ซึ่งหวังว่า ตุรกีในวันนี้น่าจะเป็นวันนั้น

 10,332 total views,  2 views today

You may have missed