อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
(17 พฤศจิกายน 2563) ผู้เขียนได้พาครอบครัวไปชมความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์สัมผัสทะเลหมอก หลัง “สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง” แลนด์มาร์คใหม่ อ.เบตง จ.ยะลา สร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้ขึ้นชมทะเลหมอกอย่างไม่เป็นทางการฟรี ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
เวลา 4.30 น.ของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ผู้เขียนและครอบครัว ออกจากที่พัก 34 โฮมสเตย์ ตั้งอบกี่โลเมตร ที่ 34 ก่อนทางขึ้นไปชมทะเลหมอก ประมาณ 1 กิโลเมตร ขับไปถนนโล่งแต่พอไปถึงที่หมายปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งคนในพื้นที่และต่างพื้นที่เดินทางมาเฝ้ารอขึ้นสกายวอล์คฯ อัยเยอร์เวง กันเป็นจำนวนมาก มีรถจำนวนมากทั้งมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ทั้งรถส่วนตัวและรับจ้างเต็มไปหมด หลังจากนั้นรอคิวละหมาดเพราะสถานที่ละหมาดคับแคบจุคนได้ครั้งละ 10-15 คน แบ่งเป็นสองฝั่ง หลังจากนั้นยืนรอคิวเข้าห้องน้ำมีเพียงสองห้อง เสร็จภารกิจก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 20 บาทต่อคน โดยไม่มีหมวกกันน็อกทั้งคนขับและคนซ้อนท้ายขับกันสวนไปสวนมาใครนึกจะเเซงก็ได้ ผ่านทางลาดชัน จนถึงจุดจะขึ้นไปสกายวอล์คฯ ปรากฎว่า มีนักท่องเที่ยวต่อแถวเข้าคิวรอขึ้นสกายวอล์คฯ อัยเยอร์เวง กันยาวเหยียดมีทั้งคนชรา วัยรุ่น สตรี เด็กและทารก เดินขึ้นอย่างเนื่องเน้น ซึ่งอาจจะเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันด้านสุขภาพและความปลอดภัยได้ พอถึงจุดชมวิว และทะเลหมอกยังขาดมัคคุเทศก์ที่จะคอยแนะนำให้ความรู้มีเพียงเจ้าหน้าที่สามสี่คนที่คอยระเบียบการเข้าชม สำหรับเส้นทางขึ้นลงของรถ ตั้งแต่ตีนเขาถึงจุดชมวิวที่หมายแม้จะกว่าเก่ามากแต่ยังมิได้มาตรฐานสากล ในภาพรวมแน่นอนสร้างบรรยากาศทางการท่องเที่ยวทั้งในและนอกเมืองเบตง เพราะทำให้อาชีพอื่นๆขยายต่อเป็นลูกโซ่ ไม่ว่าอาหาร ที่พักและของที่ระลึกรวมทั้งที่ท่องเที่ยวอื่นๆเช่นบ่อน้ำร้อน สนามบิน สวนดอกไม้ อุโมงค์และอื่นๆ
ดังนั้นสิ่งที่จะต้องปรับปรุงในเรื่องข้อบกพร่องเพื่อสู่มาตรฐานสากลก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เป็นกำลังใจอบต.อัยเยอร์เวง ศอ.บต.และทุกภาคส่วนในโครงการครั้งนี้
ความท้าทายต่อไปจะทำอย่างไรให้มีความยั่งยืนและประโยชน์กลับสู่ชุมชน
อย่างไรก็แล้วแต่อันเนื่องมาจากสถาการณ์โควิด เมืองท่องเที่ยวต่างๆไม่ว่าภูเก็ต กระบี่ เกาะสมุยและที่อื่นๆกำลังเจอวิกฤตน่าจะเป็นบทเรียนว่า การท่องเที่ยวที่เอื้อต่อนายทุนให้คนนอกพื้นที่ไม่ว่าไทยหรือต่างชาติ ซึ่งขาดการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นนำ้และกลางจะไม่ ยั่งยืน จึงขอฝากให้ที่นี่ว่าจะทำอย่างไรให้คนพื้นที่ร่วมด้วยช่วยกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางนำ้และปลายน้ำซึ่งมีข้อเสนอแนะทางวิชาการยืนยัน เพื่อจะช่วยยกระดับให้การท่องเที่ยวเกิดประโยชน์ต่อชุมชนเช่น 5 กลยุทธ์สำคัญ ดังนี้
1 .การพัฒนาคนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยมุ่งเน้นการพัฒนาคนในชุมชนและท้องถิ่นเพื่อให้สามารถบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวของตนเองได้
2 .การเพิ่มมูลค่าทรัพยากรท้องถิ่นโดยมุ่งเน้นให้ชุมชนเข้าใจตัวเองว่ามีดีอะไรและต่อยอดนำเสนอจาก
ทรัพยากรที่มี ไม่จำเป็นต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่อาจจะไม่ใช่อัตลักษณ์ของท้องถิ่น
3 .การตลาดที่เหมาะสมกับชุมชน เพื่อแสวงหาตลาดนักท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับแต่ละชุมชน และสร้างความสามารถในการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวโดยไม่เสียอัตลักษณ์ของชุมชน นอกจากนั้น เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการนำเที่ยวให้นำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่เหมาะสมเพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าเส้นทางการท่องเที่ยว
4 การสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพชุมชนให้สามารถเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนทรัพยากร ความรู้และประสบการณ์ร่วมกันเพื่อทำงานเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่เข้มแข็งได้ใน
ระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการสนับสนุนของภาครัฐหรือภาคเอกชนเสมอไป
5 .การประเมินผลด้วยตัวชี้วัดความสุขของชุมชนและนักท่องเที่ยวเนื่องจากวัตถุประสงค์หลักในการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาให้คนในชุมชนได้รับประโยชน์ ดังนั้นตัวชี้วัดความสำเร็จจึงไม่ใช่เพียงรายได้
ที่เพิ่มขึ้นหรือนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น แต่เป็นความอยู่ดีมีสุขในมิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเป็นการแลกเปลี่ยนของเจ้าบ้านและผู้มาเยือนที่เท่าเทียม มีความสุขร่วมกัน
(โปรดดูข้อเสนอแนะการท่องเที่ยวโดยชุมชมอย่างยั่งยืนใน
https://www.tatreviewmagazine.com/article/cbt-thailand/)
หมายเหตุ
ประมวลภาพและคลิปใน
1.
https://www.facebook.com/1245604111/posts/10224579215008260/?d=n
2. https://www.facebook.com/100002411309175/posts/3607167149373626/?d=n
1,724 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.