โดย,ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ
เสรีภาพเป็นสิ่งที่สามัญสำนึกพื้นฐานของมนุษย์ต้องการ (ฟิฏรอฮฺ) กระนั้น เสรีภาพก็เหมือนอาหารที่แม้จำเป็น แต่ก็ต้องบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ มากเกินไปก็เป็นอันตราย น้อยเกินไปก็ไม่พอยาไส้ให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้า
โควิด-19 ทำให้เห็นการใช้เสรีภาพในรูปแบบที่เกินเลย 2 รูปแบบ
1. การจำกัดเสรีภาพจนเกินขอบเขต เช่น ที่จีน ซึ่งรัฐบาลใช้อำนาจเผด็จการปกปิดข่าวสารการระบาดของโควิด-19 จนเหตุการณ์ลุกลามบานปลายไปทั่วโลก บัดนี้มีหลายประเทศร่วมกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากจีนรวม ๆ กันแล้วไม่น้อยกว่า 6 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ
มิหนำซ้ำยังใช้อิทธิพลบังคับองค์การอนามัยโลกให้ข้อมูลบิดเบือนพลิกผันเกี่ยวกับโรคนี้ เพราะถึงวันที่ 19 ก.พ. 63 องค์การอนามัยโลกยังส่งเสริมการเดินทางโดยเสรีและไม่เห็นด้วยกับการปิดเมืองอยู่เลย
นี่เป็นที่มาว่าทำไมฝั่งสหรัฐจึงตัดเงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก
2. ฝั่งเสรีประชาธิปไตย เช่น ในสหรัฐ ซึ่งเมื่อวานนี้มีคนออกมาเดินประท้วงรัฐบาลท้องถิ่นในหลายเมือง คนเหล่านี้อ้างว่าการออกมาตรการบังคับให้อยู่ในบ้านเพื่อป้องกันโรคระบาดเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของตน จึงพากันฝ่าฝืนกฎหมายออกมาเดินตามท้องถนน ไม่สวมหน้ากากแลัยังพาเด็ก ๆ ออกมาประท้วงด้วย !!!
เราเห็นความตกขอบของทั้งสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งใช้อำนาจปิดกั้นการแสดงออก เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของรัฐและประเทศ จับกุมและทำให้คนเปิดเผยความจริงหายสาบสูญไปจำนวนมาก ที่สุดการบิดเบือนเหล่านั้นก็ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของคนนับล้านทั่วโลก
อีกฝั่ง คำนึงถึงเฉพาะเสรีภาพส่วนบุคคลของตน จนละเลยหน้าที่อันพึงมีต่อสังคม คือ หน้าที่ในการร่วมปกป้องภยันตรายต่าง ๆ อันอาจเกิดขึ้นจากการรวมตัวของคนจำนวนมาก เป็นการใช้เสรีภาพส่วนตัวจนเกิดความเสียหายแก่ส่วนรวม จึงไม่แปลกที่ยุโรปกับอเมริกาซึ่งมีคนคลั่งเสรีภาพแบบนี้มาก จะกลายเป็นดินแดนที่มีคนป่วยและตายจากโควิด-19 มากกว่าที่ใดในโลก
ในอิสลาม เสรีภาพทางความคิดถือเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้แก่มนุษย์ (ฟิฏรอฮ) ผู้ใดจะละเมิดมิได้ แนวปฏิบัติต่าง ๆ ในส่วนที่เป็นเรื่องปลีกย่อยของชีวิต ทั้งในด้านการประกอบศาสนกิจ การเมืองการปกครองและธุรกรรมต่าง ๆ มีความเห็นต่างมากมายที่เรียกว่า มัซฮับ ประกอบอยู่ และมุสลิมทุกคนมีเสรีภาพที่จะเลือกแนวทางใดก็ได้ที่สอดคล้องกับความเห็นตนมาปฏิบัติ ตราบใดที่การปฏิบัตินั้นไม่ส่งผลให้สังคมส่วนรวมเสียหาย แต่หากการใช้เสรีภาพส่วนตัวทำให้สังคมส่วนรวมเสียหาย เช่น ออกมาฟัตวาสวนทางกับฟัตวาของผู้นำในเรื่องที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนได้ บุคคลก็ต้องยอมสละเสรีภาพส่วนตนเพื่อรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพของส่วนรวม
คำว่าส่วนรวมต้องเป็นส่วนรวมจริง มิใช่หน้าตารัฐบาลหรือผู้มีอิทธิพลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเท่านั้น
การใช้อำนาจปิดกั้นเสรีภาพของบุคคลในอิสลาม จึงทำได้เฉพาะในกรณีปกป้องผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่หรือเพื่อรักษาสวัสดิภาพของสังคมส่วนรวมเอาไว้ เช่น การห้ามไปรวมตัวกันที่มัสยิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ หากมุ่งหมายรักษาชีวิตและสุขภาวะของประชาชนส่วนใหญ่
ส่วนคนที่เมื่อผู้มีอำนาจหน้าที่ห้ามแล้ว ยังคงฝ่าฝืนดื้อด้าน ย่อมไม่ถือว่าเป็นคนมีทางสายกลางตามที่อิสลามสอน แต่เป็นคนคิดสั้น มองแคบ และทำอะไรตามใจตนเอง จัดเป็นพวกบูชาอารมณ์มากกว่าบูชาพระเจ้า
ในซูรอฮอัลฟาติฮะ เรียกคนแบบนี้ว่า الضالين หรือผู้ลุ่มหลง ครับ
951 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.