ท่องเที่ยวด้วย บริจาคด้วยของชาวมาเลเซีย

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์(อับดุลสุโก ดินอะ)

(19 มกราคม 2563) เช้าอันสดใสที่หาดตะโละสะมีแล อำเภอยะริ่ง ปัตตานี ในขณะเดินชายทะเลที่นี่ก็เจอประชาสังคมมาเลเซีย “Muslim Care Society “เป็นองค์กรเอกชนการกุศลของมาเลเซีย แต่ทำงานช่วยเหลือมุสลิมทั่วโลก ไม่ว่าในอาเซียน อาหรับ เช่นปาเลสไตน์ ซีเรีย รวมทั้งประเทศไทยบ้านเรา โดยเฉพาะชายแดนใต้(ปตานี)กิจกรรมครั้งนี้มีด้วยกัน 2 วัน 18-19 มกราคม2563 เพื่อช่วยเหลือสถาบันสอนศาสนาคือปอเนาะสองแห่ง ของบาบออิสมาอีล เสอร์ปันยัง ปัตตานีและบาบาสิต กาตอง ยะหาจังหวัด ยะลา

นายอับดุลรอมานกล่าวว่า “สำหรับกลุ่มเราเป็นองค์กรสาธารณกุศลเอกชนมุสลิมที่รวบรวมนักจิตอาสาทั่วมาเลเซียเช่นพวกเราทั้งสี่มาจากปีนัง เปรัก ตรังกานูและกลันตัน เก็บเงินคนละ 100 เหรียญ ประมาณ 700 กว่าบาท เหมารถบัส 1 คัน มีผู้โดยสาร 40 คน ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ชายและหญิงจากมาเลเซียเข้าผ่านทางด่าน บ้านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ลัดเลาะผ่าน อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอเมืองและไปสุดที่ปอเนาะบาบออิสมาอีลเสอร์ปัน ยังอันเป็นโต๊ะครูจากปัตตานีที่ดังมากๆมีคิวบรรยายตลอดที่มาเลเซีย ไม่นับรวมดูผ่านยูทูป เฟสบุ๊ค มาครั้งนี้ก็มาให้ท่านให้โอวาทและบริจาคเงินเล็กๆน้อยๆ หลังจากนั้นพวกเราไปทัศนศึกษาที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆของชายแดนใต้ โดยเฉพาะมัสยิดกรือเซะ และมาผักผ่อนมานอนและทำกิจกรรมที่ดาดฟ้ารีสอร์ต หาดตะโล๊ะสะมีแล จังหวัดปัตตานี หลังจากนั้นจะมุ่งสู่ปอเนาะกาตอง อำเภอยะหา จังหวัดยะลาของบาบอบาสิต กรรมการอิสลามจังหวัดยะลา เพือมอบอัลกุรอานและเงินบริจาคบางส่วน”
นี่เเค่เป็นอย่างหนึ่งเท่านั้น

ความเป็นจริงคนมาเลเซียมาชายแดนใต้คล้ายๆแบบนี้ คือมาบริจาคการกุศลและท่องเที่ยวไปด้วยมากมายหลายคนหลายกลุ่มในช่วง15 ปีไฟใต้ โดยไม่กลัวเหตุการณ์(แม้ข่าวข่าวไม่ดีผ่านสื่อโลกโซเชี่ยลและการประกาศของรัฐบาลมาเลเซียต่อประชากรของเขาที่มาชายแดนใต้)
เช่นมากับรถตู้ รถบัส กลุ่มรถมอเตอร์ไซด์ ดังนั้นในฐานะผู้รับผิดชอบไม่ว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยความมั่นคงจากกองทัพภาคที่สี่ กอ.รมน.ส่วนหน้า องค์บริหารส่วนท้องถิ่น และการท่องเที่ยวและกีฬาควรพิจารณาจะมาหนุนเสริมกิจกรรมเหล่านีได้อย่างไรให้บูรณาการและครอบคลุมทุกมิติ