ตอบข้อเรียกร้อง ต่อจุฬาราชมนตรี กรณีไม่เอามัสยิด (ตอนที่8 คำถามที่8)

โดย..สมเดช มัสแหละ..

ผมเรียนท่านผู้อ่านว่าเรื่องฮาลาล ผมตอบเพียงแค่ว่าฮาลาลคืออะไร หมายถึงอะไรเท่านั้น ส่วนเรื่องรายได้ตามที่ถาม ผมเกรงว่าจะตอบไปด้วยข้อมูลที่ผิดพลาด จึงขอไม่ลงในรายละเอียด ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายฮาลาล เป็นผู้ตอบเอง

ในตอนหน้าผมจะนำตัวอย่าง การทำระบบเสียงของมัสยิด ที่เป็นมิตรกับทุกคน เป็นชุมชนหัวหมากน้อย ที่เขาทำระบบได้สุดยอดมาก ทุกมัสยิดสามารถมาขอศึกษาดูงานได้

มาถึงข้อที่ 8 ถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมากที่มีคลิป ตามคำถามข้างล่าง จริงๆมีหลายคลิป ที่มีมุสลิมโดยเฉพาะนักวิชาการ บางคนที่มักพูดในเชิงทฤษฎี แต่เป็นไปไม่ได้ในแง่ของการปฏิบัติ…..มาถึงคำถามข้อที่ 8.

8. ให้ท่านช่วยหยุดสร้างมัสยิดเพิ่มในทุกๆจังหวัด(ยกเว้น 4 จังหวัดชายแดนใต้) ทันทีเพื่อความสบายใจและลดความขัดแย้ง ความแตกแยก ความหวาดระแวง ของพี่น้องชาวไทยพุทธกับมุสลิมและเพื่อเป็นการยืนยันว่ามุสลิมไม่ได้คิดปกครองประเทศไทย ไม่ได้คิดเปลี่ยนไทยเป็นรัฐอิสลามตามคลิปต่างๆจำนวนมาก ที่มุสลิมพูดเอง

ตอบ….

(1) มุสลิมคิดปกครองประเทศไทย ผมไม่จำเป็นต้องอ้างอิงทฤษฎีใดๆ การที่มุสลิมมีประมาณ 2-3 ล้านคน จะมาปกครองคน 6-70 ล้านคน คิดด้วยวิธีไหนก็คิดไม่ออกว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

การปกครองด้วยการเลือกตั้ง คิดสูตรไหน ก็คิดไม่ออกว่า คน 6-70 ล้านคน จะมาเลือกคน 2-3 ล้านคน เพื่อมาปกครองตนเอง การที่เลือกตัวแทนของคนจำนวนที่มากกว่า มันย่อมได้จำนวนมากกว่าตัวแทน ของคนจำนวนน้อยกว่าอยู่แล้ว การจะเปลี่ยนไทยเป็นรัฐอิสลามตามคลิปต่างๆ มันจึงเป็นเพียงทฤษฎีที่เป็นไปไม่ได้

(2) การเกิดมัสยิด ไม่ใช่คำตอบว่า จำนวนคนมุสลิมจะต้องมีมากขึ้น มัสยิดแค่ทำหน้าที่ เป็นสถานที่กลางในการนมัสการเท่านั้น อย่างที่ชี้แจงไปเมื่อโพสก่อนๆว่า คนมุสลิมถูกบังคับด้วยการต้องนมัสการวันศุกร์ บังคับกับคนผู้ชายทุกคน ที่บรรลุศาสนาภาวะแล้ว ข้อบังคับนี้ต้องทำที่มัสยิดเท่านั้น นี่คืออีกเหตุผลหนึ่ง ที่มุสลิม ไปทำมาหากินที่ไหน ก็ต้องหาทางไปนมัสการ(ละหมาด)วันศุกร์ หากเขาไม่ละหมาด มีปาบ มีโทษทางศาสนา

(3) เมื่อมุสลิมไปอยู่ที่ใด มีจำนวนครัวเรือนจำนวนหนึ่ง และการจะเดินทางไปมัสยิดที่มีอยู่ ไกลมากไม่สะดวก เมื่อมีความสามารถที่จะสร้างมัสยิดหลักเล็กๆได้ ก็จะทำ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจที่จำเป็นต้องทำที่มัสยิด เมื่อถึงตรงนี้พี่น้องก็เข้าใจได้เลยว่า การเกิดมัสยิด มันไม่ได้หมายความว่า มุสลิมจะต้องปกครองประเทศนี้ การเกิดมัสยิดมันเป็นเหตุผลถึงเขาจำเป็นต้องใช้มัสยิดในการสมัสการ(ละหมาด)วันศุกร์

(5) การเกิดมัสยิด กลับเป็นข้อดีเสียอีก ที่มุสลิมไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน มีการเปิดเผย สามารถตรวจสอบได้ หากไม่มีมัสยิด เราไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่า มีมุสลิมอยู่ตรงไหนบ้าง และมุสลิมจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง ทุกคนสามารถรับรู้ได้ ถือว่าเป็นการเปิดให้มุสลิมเผยตัวตน ไม่อยู่แบบหลบๆซ่อนๆ

(ุ6) ถ้าหากมุสลิมคิดจะปฏิวัติ เพื่อยึดครองประเทศไทยจริง การออกคลิป หรือการมาป่าวประกาศว่าจะทำอย่างนั้น อย่างนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาด

(7) หากชาวพุทธเข้มแข็ง มีการศึกษาหลักธรรม ไม่ละเมิดศิล ยึดหลักธรรมของศาสนาอย่างเคร่งครัด เป็นไปไม่ได้ ที่ความเชื่ออื่น จะสามารถดึงพุทธศาสนิกชนไปเชื่ออย่างอื่นได้

(8) จากประวัติศาสตร์ที่มุสลิมมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และรับราชการในราชสำนัก อีกทั้งดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพ ไม่ปรากฎว่ามุสลิมจะคิดยึดประเทศสยาม หรือกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนไทยในยุคสมัยนั้นได้ แต่ในทางกลับกัน มุสลิมกลับอยู่ร่วมกับทุกความเชื่อ ในการปกป้องประเทศไทยมาโดยตลอด

(9) มุสลิมที่มีเป็นจำนวนมากพอสมควรในประเทศไทย ก็ไม่ใช่มีจำนวนมากขึ้นเพราะพี่น้องชาวพุทธเปลี่ยนมาเป็นมุสลิมก็หาไม่ แต่เกิดจากการถูกนำมาในฐานะเชลยสงคราม ด้วยระยะเวลา 200กว่าปี จำนวนก็ไม่ได้เพิ่มมากมายอะไรเลย

จากเหตุผลที่ยกมาทั้งหมด วิเคราะห์ด้วยเหตุผล ด้วยตรรกะ ใดๆก็ตาม การเกิดมัสยิด มิใช่สิ่งที่จะชี้ว่าจำนวนมุสลิมจะเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด และการมีมัสยิดก็มิได้ทำให้ความเชื่อในศาสนาพุทธจะต้องลดลงแต่ประการใด

การเพิ่มของมัสยิดก็ไม่ได้ทำให้ชาวพุทธจะต้องเปลี่ยนมาเป็นมุสลิม หรือการมีวัดเพิ่มก็ไม่ได้ทำให้มุสลิมต้องเปลี่ยนมาเป็นพุทธ ศาสนาสถานของทั้งสองความเชื่อ ไม่ได้บ่งบอกถึงจำนวน ของแต่ละความเชื่อ ว่ามีมากน้อยแต่อย่างใด

ในฐานะมุสลิม ก็อยากให้มุสลิมเองระมัดระวัง การใช้สื่อ ยิ่งเป็นสื่อสาธารณะ ก็ต้องยิ่งระมัดระวัง หลายๆคลิปก็ชวนให้คิดอย่างนั้นจริงๆ

 872 total views,  2 views today