องคมนตรีปฎิบัติภารกิจที่นราธิวาส มอบอัลกุรอาน พระราชทาน ให้สถานศึกษาเอกชนศาสนา อัตตัรกียะห์ฯ นราธิวาส

แชร์เลย

อมรรัตน์ เข็มขาว รายงาน..

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 3 ก.ค. 62 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายไพศาล ตอยิบ ผู้ได้รับใบอนุญาตโรงเรียนอัตตัรกียะห์ฯ ข้าราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาสังกัดสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส ซึ่งก่อตั้งเมื่อปีพุทธศักราช 2505 โดยจัดการเรียนการสอนสายสามัญควบคู่กับอิสลามศึกษา ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียน 4,036 คนและมีบุคลากรครูจำนวน 290 คน ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการจัดการศึกษา มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะ เป็นคนที่เพรียงพร้อมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม ตามหลักศาสนา สามารถใช้สติปัญญาพัฒนาตนเอง และสามารถช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติ พร้อมทั้งได้นำเทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อต่อยอดในการจัดการเรียนการสอนเป็นที่ยอมรับของชุมชนและสังคม

พร้อมกันนี้ทางนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ได้มอบมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ให้กับทางโรงเรียนไว้ใช้ศึกษาและเรียนรู้หลักคำสอนที่บัญญัติไว้ ซึ่งเป็นฉบับแปลภาษาอาหรับ แปลเป็นภาษาไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้ นายต่วน สุมาลยศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรี แปลอัลกุรอาน ในปี 2505 แล้ว พระองค์ยังมีพระราชประสงค์ให้จัดพิมพ์เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน และข้าราชการที่ทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ และมีพระราชปรารภกับอดีตจุฬาราชมนตรี ให้ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของชาวไทยมุสลิม เพราะอัลกุรอานฉบับแปลภาษาไทยฉบับนี้เป็นฉบับพระราชทาน ถูกแปลครั้งแรกตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชปณิธานของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อศาสนาอิสลาม และทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ได้มอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียน ซึ่งก่อนที่องคมนตรีจะเดินทางกลับได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนของนักเรียนในครั้งนี้ด้วย

ต่อมาในช่วงเวลา 14.00 น. องคมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลจะแนะ อ.จะแนะ เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่แพทย์ พยาบาลและบุคลากร ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 215 คน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละ ทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน ในส่วนของโรงพยาบาลจะแนะเป็นโรงพยาบาล ขนาด 30 เตียง มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการในการรักษาโรคต่อวันประมาณ 30 คน โดยภาพรวมป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง เบาหวานและโรคหัวใจ แต่โรงพยาบาลสามารถรองรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 31 หมู่บ้าน 4 ตำบล ซึ่งมีจำนวนประชากร จำนวน 33,000 คนได้ดีเสมอมาตลอดระยะเวลา 31 ปี