ธันวาคม 18, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

จากห้องตรวจสู่สนามเลือกตั้ง: “หมอสุภัทร” กับก้าวย่างใหม่ในพรรคประชาชน ท้าทายกระแสการเมืองใต้

แชร์เลย

โดย: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     วันที่ 17 ธันวาคม 2568 กลายเป็นหมุดหมายสำคัญทางการเมืองของจังหวัดสงขลา เมื่อ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ หรือที่สังคมรู้จักในนาม “หมอนักกิจกรรม” อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้ประกาศทิ้งเสื้อกาวน์ที่สวมใส่มานานกว่า 30 ปี สวมเสื้อสีส้มในฐานะว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 2 สงขลา พรรคประชาชน อย่างเป็นทางการ นี่ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนสายอาชีพ แต่คือการตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อผลักดัน “อุดมคติ” สู่การปฏิบัติจริงในโครงสร้างอำนาจรัฐ

Turning Point: เมื่อวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ คือเสียงเรียกให้เลิก “นิ่งเฉย”

     หลายคนตั้งคำถามว่า เหตุใดคุณหมอที่ครองตนในฐานะข้าราชการน้ำดีและมีบทบาทภาคประชาสังคมที่โดดเด่นอยู่แล้ว ถึงยอมทิ้ง “Safe Zone” มาสู่สนามการเมืองที่เต็มไปด้วยแรงเสียดทาน?

      คำตอบซ่อนอยู่ในความเจ็บปวดของคนหาดใหญ่ นพ.สุภัทร เปิดเผยว่า วิกฤตน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 คือภาพสะท้อนของความล้มเหลวในการจัดการโครงสร้างเมือง ท่านมองเห็นความทุลักทุเล ความสูญเสีย และความไร้ทิศทางในการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ความรู้สึก “สงสารบ้านเกิด” จึงกลายเป็นแรงขับดันให้ท่านตัดสินใจว่า “แค่รักษาคนไข้ในโรงพยาบาลไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องออกมารักษาโครงสร้างของเมือง”

3 ยุทธศาสตร์ “รักษา” สงขลา: ภารกิจที่มากกว่าการหาเสียง

     การลงสมัครในเขต 2 (อำเภอหาดใหญ่) ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการเลือกพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เป็นหัวใจทางเศรษฐกิจของภาคใต้ โดยคุณหมอตั้งเป้าหมายไว้ 3 ประการ

  • ผ่าตัดระบบสาธารณสุข: นำประสบการณ์จากจะนะและสะบ้าย้อยมาทำให้นโยบาย “รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า” เป็นจริงและมีคุณภาพ
  • ศัลยกรรมโครงสร้างเมือง: แก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการวางผังเมืองหาดใหญ่ให้เป็นเมืองเศรษฐกิจแห่งความหวัง
  • เยียวยาบาดแผลชายแดนใต้: ใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่สะสมมานานกับชุมชนมุสลิมและพหุวัฒนธรรม เป็นสะพานสร้างสันติภาพที่กินได้จริง

ความท้าทายบนเส้นทาง “สีส้ม” ในถิ่นใต้

แม้ นพ.สุภัทร จะมีต้นทุนทางสังคมสูง เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนดัง (แสงทองวิทยา-หาดใหญ่วิทยาลัย) และมีภาพลักษณ์นักสู้ที่ซื่อตรง แต่การสวมเสื้อ “พรรคประชาชน” ในพื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นความท้าทายที่ไม่อาจมองข้าม

  • การเจาะฐานเสียงเดิม: ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ความเชื่อทางการเมืองแบบดั้งเดิมยังคงเข้มแข็ง การนำเสนอ “นโยบายเชิงโครงสร้าง” จะต้องสู้กับ “การเมืองเชิงอุปถัมภ์” และความคุ้นเคยเดิมๆ
  • การจัดการข่าวสาร: ในฐานะคนทำงานที่เคยวิพากษ์รัฐอย่างดุดัน ท่านจะถูกจับตามองและรับมือกับไอโอ (IO) หรือการบิดเบือนประเด็นทางอัตลักษณ์และศาสนาอย่างไร
  • ความคาดหวังที่สูงลิ่ว: เมื่อชื่อเสียงระดับประเทศมาบวกกับพรรคที่มีฐานมวลชนคนรุ่นใหม่ ความคาดหวังที่ต้อง “ชนะให้ขาด” จึงเป็นแรงกดดันมหาศาล

บทสรุป: ก้าวย่างแห่งความหวัง

    “หาดใหญ่ต้องดีกว่านี้ได้” ไม่ใช่เพียงสโลแกนหาเสียง แต่มันคือคำมั่นสัญญาของคนที่เห็นปัญหาหน้างานมาตลอดชีวิต การกระโดดลงสนามครั้งนี้ของ นพ.สุภัทร จึงเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า “คนทำงานจริง” เมื่อผนวกกับ “พรรคที่เน้นเชิงนโยบาย” จะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนและเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเมืองของภาคใต้ได้จริงหรือไม่

     ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ก้าวย่างนี้ของหมอสุภัทรได้ปลุกให้คนสงขลาเริ่มตั้งคำถามถึง “อนาคต” ของตัวเองอีกครั้ง และนั่นคือชัยชนะขั้นแรกของนักประชาธิปไตยที่ชื่อ สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ

#สุภัทรเอาจริง #หาดใหญ่ต้องดีกว่านี้ #พรรคประชาชน #การเมืองภาคใต้ #หมอสุภัทร

 308 total views,  308 views today

You may have missed