ธันวาคม 18, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

เส้นแบ่งที่พรรคประชาชนต้องเลือก: เมื่อ “เสรีภาพ” ปะทะ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” กรณีโชติศักดิ์ อ่อนสูง กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ภายในพรรคประชาชน (ปชน.)

แชร์เลย

โดย: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     เส้นแบ่งที่พรรคประชาชนต้องเลือก: เมื่อ “เสรีภาพ” ปะทะ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” กรณีโชติศักดิ์ อ่อนสูง
กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ภายในพรรคประชาชน (ปชน.)

     เมื่อรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับต้นๆ ปรากฏชื่อของ โชติศักดิ์ อ่อนสูง นักกิจกรรมผู้มีประวัติการแสดงออกต่อศาสนาอิสลามอย่างรุนแรงในโลกโซเชียล จนนำไปสู่เสียงคัดค้านอย่างหนักจากฐานเสียงมุสลิมและนักสิทธิมนุษยชน จนท้ายที่สุดเจ้าตัวต้องประกาศถอนตัวในวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เพื่อลดผลกระทบต่อพรรค  กรณีนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “ตัวบุคคล” แต่เป็นบทเรียนสำคัญของพรรคการเมืองที่ชูธงประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ในการแยกแยะระหว่าง “การวิจารณ์ศาสนา” กับ “การเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”

1. วิจารณ์ หรือ เหยียด? เส้นแบ่งที่ขาดสะบั้น
ในทางวิชาการและสิทธิมนุษยชนสากล เราสามารถวิพากษ์วิจารณ์ “หลักคำสอน” ของทุกศาสนาได้ แต่กรณีของคุณโชติศักดิ์ถูกตั้งคำถามว่าข้ามเส้นไปสู่การใช้ Hate Speech (ประทุษวาจา)

  • การวิจารณ์: คือการตั้งคำถามต่อบทบัญญัติ หรือผลกระทบของศาสนาต่อสิทธิสตรีหรือการเมืองด้วยเหตุผล
  • การเหยียด: คือการใช้ถ้อยคำด้อยค่าศาสดา ล้อเลียนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเกลียดชัง และการเหมารวม (Stereotype) ว่าผู้นับถือศาสนานั้นเป็นภัยต่อสังคม

เสียงจาก Voter มุสลิม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้และมุสลิมไทยผ่านโลกโซเซียลสะท้อนชัดเจนว่า พวกเขา รับไม่ได้ กับการที่พรรคส่งบุคคลที่มีประวัติด้อยค่าแก่นกลางความเชื่อของเขาขึ้นเป็นตัวแทนในสภา

2. สิทธิมนุษยชนที่ไม่เลือกปฏิบัติ (Indivisibility of Rights)
     คุณ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ความกล้าคิดกล้าทำทางการเมืองต้องมาพร้อมกับ “ความรับผิดชอบต่อคุณค่าพื้นฐานของสิทธิมนุษยชน”  การที่พรรคชูเรื่องสิทธิ LGBTQIA+ และความเท่าเทียม แต่กลับมีแคนดิเดตที่มีท่าทีเหยียดเพศและเหยียดศาสนา ย่อมเกิดภาวะ “ย้อนแย้งทางอุดมการณ์” หากพรรคการเมืองเลือกคุ้มครองสิทธิเพียงบางมิติแต่ละเลยอีกมิติหนึ่ง ความเป็นสถาบันทางการเมืองที่น่าเชื่อถือจะพังทลายลงทันที

3. บทเรียนเรื่อง “พหุวัฒนธรรม” ในสังคมไทย
    มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยนาม)ย้ำเตือนว่า สังคมไทยมี “ความยูนิค” ในการอยู่ร่วมกันระหว่างพุทธและมุสลิมมายาวนาน การเมืองรุ่นใหม่ที่หวังจะทลายกรอบเดิมด้วยความคิดแบบ Atheist (ไม่เชื่อในพระเจ้า) สุดโต่ง หรือซ้ายจัดที่ปฏิเสธศาสนา จนถึงขั้นดูหมิ่นความเชื่อผู้อื่น อาจกำลังทำลายสะพานเชื่อมโยงระหว่างคนต่างวัยและต่างวัฒนธรรมที่พยายามประนีประนอมกันอยู่

4. ก้าวต่อไปของพรรคประชาชน
การถอนตัวของ โชติศักดิ์ อ่อนสูง คือการตัดสินใจที่ถูกต้องในการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” แต่นี่คือสัญญาณเตือนว่า:

  • การคัดกรอง (Vetting Process): พรรคต้องมีความเข้มงวดในการตรวจสอบประวัติ (Digital Footprint) ที่ขัดต่อคุณค่าหลักของพรรคมากกว่านี้
  • มาตรฐานจริยธรรม: พรรคต้องตอบให้ชัดว่า “มาตรฐานขั้นต่ำ” ในการยอมรับความหลากหลายคืออะไร? เสรีภาพในการพูดต้องไม่หมายรวมถึงเสรีภาพในการละเมิดศักดิ์ศรีของผู้อื่น
  • การรักษาฐานเสียง: พรรคประชาชนต้องพิสูจน์ว่า “การเมืองของคนรุ่นใหม่ สามารถโอบรับคนทุกศาสนาได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่คำขวัญหาเสียง

บทสรุป:
    ประชาธิปไตยไม่ได้หมายถึงการมีอำนาจจะพูดอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่คือการเคารพใน “พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์” ของความเป็นมนุษย์ที่ผู้อื่นถือครองอยู่ หากพรรคประชาชนต้องการเป็นรัฐบาลของทุกคน การเรียนรู้ที่จะวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์และอยู่ร่วมกับความเชื่อที่แตกต่าง คือวิชาบังคับที่พรรคต้องสอบให้ผ่านก่อนถึงวันเลือกตั้ง 2569

 732 total views,  732 views today

You may have missed