รายงานพิเศษ…สื่อ SPMC ร่วม ศอ.บต. นำคาราวานออฟโรดเป็นสื่อกลาง เชื่อมสานสัมพันธ์ 4 ชาติ ต้นแบบสื่อเพื่อสันติ จชต.เพื่อหนุนรัฐ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ชายแดนใต้

แชร์เลย

รายงานพิเศษโดย… สุไลมาน ยุ

กิจกรรมแรลลี่ออฟโรดการกุศล สานสัมพันธ์ 4 ประเทศอาเซียน ไทย มาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย อำเภอยะหา จังหวัดยะลา Southern thailand 4×4 offroad asian challenge 2018 ครั้งที่ 1 จัดโดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับ ชมรมสื่อมวลชนเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ SPMC ชมรมเรดโซดออฟโรด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จัดขึ้นเพื่อแสดงความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ระหว่างประเทศ จากนั้น ทางคณะออฟโรดไทย-มาเลเซีย ได้เข้าร่วมการแข่งขันรถออฟโรด เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และความสามัคคีที่จะร่วมพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเขตแดนไทย-มาเลย์ โดยการเผยแพร่วัฒนธรรมต่างๆอีกด้วย

นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดยะลามีการจัดการแข่งขันรถออฟโรด เชื่อมสัมพันธ์ของพี่น้อง off road ในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะมาเลเซีย และสิงคโปร์ มาร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ท่ามกลางความหลากหลายเชื้อชาติเป็นหนึ่งมิตรภาพและหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นกิจกรรมสร้างสุข เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประชาชนในพื้นที่ และจะเป็นกิจกรรมประจำปี เนื่องจากในพื้นที่มีพร้อมในทุกๆด้าน โดยนอกจากแข่งขันเพื่อชิงรางวัลแล้ว ยังมีกิจกรรมเพื่อการกุศลด้วย และยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความมั่นใจในการเรื่องการท่องเที่ยวได้ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน

วันที่ 29 มิ.ย. 61 นายรพี มามะ อุปนายกบริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้พร้อมด้วยทีมงานสื่อมวลชนได้เดินทางไปรับคณะแรลลี่ออฟโรดการกุศล สานสัมพันธ์ 4 ประเทศอาเซียน ไทย มาเลเซีย สิงค์โปร์ อินโดนีเซีย โดยมี นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก นายรพี มามะ อุปนายกบริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมให้การต้อนรับคณะแรลลี่รถออฟโรด จาก 3 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จำนวน 200 คัน กว่า 400 ชีวิต ภายใต้การนำของ ดาโต๊ะกามารูดีน โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นคณะผู้แทนรัฐบาล รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ที่เดินทางผ่านด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก เพื่อมาท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีชมรมรถออฟโรด ยะลา ปัตตานี และนราธิวาสในฐานะเจ้าบ้าน เป็นผู้นำทางในการท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอันลือชื่อของแต่ละจังหวัด ซึ่งจัดขึ้นโดย ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ชมรมสื่อมวลชนเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ SPMC ได้ร่วมกันจัดขึ้น ทั้งนี้เพื่อเชื่อมกีฬาออฟโรด เชื่อมสัมพันธ์ที่ดี กับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการกระตุ้นเศรฐกิจให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อกัน ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการเพื่อเป็นการลบภาพลักษณ์สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปี ที่ผ่านมา และเป็นการปูพื้นฐานในการดึงดูดนักลงทุนหันมาลงทุนกิจการต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยคณะแรลลี่ออฟโรดกว่า 400 ชีวิต ได้ร่วมขบวนเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว ซึ่งตั้งอยู่ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส เพื่อชมความสวยงามของชายหาดอ่าวมะนาว ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ 2ข้างทาง และร่วมมิตรภาพรับประทานอาหารและปล่อยพันธุ์กุ้งแช่บ๊วย จำนวน 100,000 ตัว ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานประมง จ.นราธิวาส ปล่อยลงสู่ท้องทะเลเพื่อขยายพันธุ์ โดยมีนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และนางพาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายอัสมีรี แวเด็ง นายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ และเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องให้การต้อนรับ และร่วมกิจกรรมพร้อมมอบสิ่งของที่ระลึกเชื่อมสัมพันธ์ต่อกัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตามก่อนที่คณะแรลลี่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อยัง จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา ทางคณะแรลลี่ 4 ชาติ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ได้ร่วมใจกัน จำนวน 150 คน ได้ร่วมกันทำการแปรอักษรเป็นเลข 13 อารบิด ซึ่งมีวงกลมล้อมรอบ ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ริมชายหาดอ่าวมะนาว พร้อมทั้งได้ทำการสวดดูอาร์ขอพรจากผู้เป็นเจ้า โปรดประทานความปลอดภัยแก่เยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคะเดมี่ รวม13 คน ที่พลัดหลงถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชได้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว

ต่อมาเมื่อเวาลประมาณ14:00น.ทางคณะได้เดินทางต่อไปที่สนามณ สนามนเรนทร์ออฟโรด หมู่ที่ 2 ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ทางคณะถึงที่สนามในเวลาประมาณ17:00น.เพื่อไปดูสถานที่แข่งขัน และรัปประทานอาหารค่ำ หลังจากนั้นทางทีมงานพาคณะ เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองยะลา ไปยังที่พัก

ต่อมาวันที่ 30 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 น. ทางทีมงานพาคณะเดินทางไปที่ สนามนเรนทร์ออฟโรด หมู่ที่ 2 ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดแข่งขันแรลลี่ออฟโรด การกุศล สานสัมพันธ์ 4 ประเทศอาเซียน ไทย มาเลเซีย สิงค์โปร์ และอินโดนีเซีย อำเภอยะหา จังหวัดยะลา SOUTHERN THAILAND 4X4 OFFROAD ASIAN CHALLENGE 2018 ครั้งที่ 1

ซึ่งทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับจังหวัดยะลาชมรมสื่อมวลชนเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ชมรมแรลลี่ออฟโรดจังหวัดยะลา และอำเภอยะหา จัดกิจกรรมแข่งขันแรลลี่ออฟโรด การกุศล สานสัมพันธ์ 4 ประเทศอาเซียน ไทย มาเลเซีย สิงค์โปร์ และอินโดนีเซีย อำเภอยะหา จังหวัดยะลา SOUTHERN THAILAND 4X4 OFFROAD ASIAN CHALLENGE 2018 ครั้งที่ 1 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม 2561 โดยมี นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมแข่งขัน

นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมแข่งขันแรลลี่ออฟโรด การกุศล สานสัมพันธ์ 4 ประเทศอาเซียน ไทย มาเลเซีย สิงค์โปร์ และอินโดนีเซีย อำเภอยะหา จังหวัดยะลา SOUTHERN THAILAND 4X4 OFFROAD ASIAN CHALLENGE 2018 ครั้งที่ 1 ถือเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของอำเภอยะหา จังหวัดยะลา รวมทั้งเป็นการส่งเสริมยกระดับการพัฒนา และการแข่งขันออฟโรดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้มาตรฐาน ทำให้ผู้คนในพื้นที่รวมทั้งเยาวชนได้มีโอกาสสัมผัสถึงกิจกรรมกีฬา ที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้มาร่วมการแข่งขันที่มาจากชมรมต่าง ๆ ได้มีส่วนในการขยายผลการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดี ที่มีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกด้วย

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน ถึง 1 กรกฎาคม 2561 ณ สนามนเรนทร์ออฟโรดนเรนท์ บูเกะโงซีนา โดยมีออฟโรดประเทศไทย ออฟโรดประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เข้าร่วมการแข่งขัน กว่า 200 คัน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งในพื้นที่ อำเภอยะหา และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านเข้าร่วมชมการแข่งขันอย่างคึกคัก หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันทางคณะเดินทางกลับที่พัก

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ18:00น. ทางทีมงาน ได้พาคณะเดินทางไปที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อไปรับประทานอาหาร และ มอบรับรางวัลให้แก่ผู้ชนะการแข่งขัน เวลาประมาณ 22:00ทางคณได้เดินทางกลับที่พัก

วันที่ 1 ก.ค.61 เวลาประมาณ 09:00น. ทางคณะได้ทำการ เช็คเอ้าออกจากที่พัก ซึ่งทีมงาน ได้นำคณะ เดินทางมายังที่หน้าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อทำการรวมพล ตั้งขบวนและเดินทางกลับไปยังประเทศมาเลเซีย

มีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการศอ.บต.ได้เดินทางมาพบปะและร่วมส่งคณะแข่งขันแรลลี่ออฟโรด การกุศล สานสัมพันธ์ 4 ประเทศอาเซียน ทางคณะได้เดินทางถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสไหงโกกลก จังหวัดนราธิวาสในเวลาประมาณ 14:00น.

ในการนี้นายรพี มามะ อุปนายกบริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้และทีมงานสื่อมวลชน นำส่งคณะ จนถึงประตูด่านทางเข้าประเทศมาเลเซีย พร้อมได้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่อนุเคราะห์อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งนี้ การจัดโครงการและกิจกรรมในห้วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นสร้างความสัมพันธ์อย่างแนบแน่น ของประเทศในภูมิภาคอาเซียน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับพื้นที่ กระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ฯลฯ และเพื่อส่งเสริมนโยบายรัฐบาล ที่ให้พื้นที่เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย