‘บทเรียนชีวิต’ กลางวันเปิดเทอม! นักเรียน และครู โรงเรียนจริยธรรมฯ สวมบทจิตอาสาฟื้นฟูพื้นที่ 30 ไร่ หลังมหาอุทกภัยจะนะ

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     จะนะ, สงขลา – 8 ธันวาคม 2568 — วันแรกของการเปิดภาคเรียนที่โรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามขนาดใหญ่และมีนักเรียนกว่า 2,500 คน ไม่ได้เริ่มต้นด้วยเสียงกริ่งเข้าห้องเรียน แต่เริ่มต้นด้วยภารกิจ “จิตอาสาฟื้นฟูโรงเรียน” หลังเผชิญกับ มหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียน และเป็นปรากฏการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในพื้นที่อำเภอจะนะในรอบศตวรรษ

     โรงเรียน 30 ไร่ จมโคลน: ความเสียหายจากภัยพิบัติรอบ 100 ปี
รายงานชี้ชัดว่า โรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิได้รับความเสียหายอย่างหนักจากมวลน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่กว่า 30 ไร่ และห้องเรียนทั้งหมดในอาคารชั้นหนึ่ง เต็มไปด้วยโคลนตมและเศษซากความเสียหาย ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสถาบันตลอด 50 กว่าปี

     แม้ว่าห้องเรียนชั้นบนจะสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามแผน แต่บรรดานักเรียนและคณะครูในระดับชั้นที่ได้รับผลกระทบจำเป็นต้องรวมพลังกัน ทำความสะอาด ขจัดคราบโคลน และขนย้ายสื่อการเรียนและอุปกรณ์ที่เสียหายออกไป เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนในอนาคตอันใกล้

     นอกจากนี้ วิกฤตยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตนักเรียน โดยมีนักเรียนจำนวนมากที่บ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก จน ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่ฝ่ายบริหารและชุมชนต้องเร่งจัดการเยียวยา

บทเรียน ‘ความรับผิดชอบร่วมกัน’ ที่สำคัญกว่าตำรา
     การตัดสินใจใช้กิจกรรมจิตอาสาฟื้นฟูโรงเรียนในวันแรกของการเปิดเรียน ถูกยกย่องว่าเป็น “บทเรียนชีวิต” ที่มีคุณค่าสูงยิ่ง

“การเริ่มต้นภาคเรียนด้วยการให้เด็กๆ ครู และบุคลากรร่วมกันฟื้นฟูโรงเรียน เป็นการสอนให้พวกเขารู้จัก ความสามัคคี ความรับผิดชอบ และความเข้มแข็งในการลุกขึ้นสู้หลังวิกฤต” แหล่งข่าวระบุ
“สิ่งนี้คือ ทักษะชีวิต และสำนึกรักสถาบัน ที่สำคัญกว่าความรู้ในตำราเรียน”

     กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้สภาพแวดล้อมทางกายภาพกลับมาพร้อมใช้งาน แต่ยังทำหน้าที่เป็นกระบวนการ เยียวยาสภาพจิตใจ ให้กับนักเรียนและบุคลากรที่ประสบภัย ให้ทุกคนสามารถรวมตัวกันและเริ่มต้นใหม่ด้วยพลังบวก

‘น้ำลดแล้ว แต่ความห่วงใยยังไม่เคยลดตาม’: เครือข่ายน้ำใจหลั่งไหล
แม้จะอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่โรงเรียนยังได้รับกำลังใจและความช่วยเหลือจากเครือข่ายภายนอกอย่างต่อเนื่อง

     ในวันเดียวกัน ชมรมคนรักสุขภาพคลองเขาแก้ว ปาดังเบซาร์ ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจนักเรียนหอพัก พร้อมนำ หม้อหุงข้าว และพัดลม มามอบให้กับนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก

     หลังจากนั้นช่วงค่ำวันเดียวกัน โรงเรียนยังได้รับการสนับสนุนจากคณะทีมงานและผู้นำเครือข่ายใหญ่ อาทิ ดร.อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม และคณะจาก Heart bridge บางตงเหนือ ท่าศาลา นครศรีธรรมราช ร่วมกับ เครือข่ายร่วมช่วยเหลือ ขวดเปล่า, เครือข่ายบ้านแหลมโฮมสเตย์, กลุ่มมุสลิมเมืองคอน, สมาคมศูนย์กลางอิสลามแห่งนครศรีธรรมราช, สมาคมนักศึกษาอินโดนีเซียในประเทศไทย และสถานกงสุลอินโดนีเซีย สงขลา ซึ่งได้มอบสิ่งของ อาหาร และน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

     การช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนนี้ตอกย้ำถึง พลังของการรวมกลุ่มและการเกื้อกูลกันในสังคม ที่ช่วยให้ชุมชนสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งประวัติศาสตร์นี้ไป ได้

#โรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ #น้ำท่วมใหญ่ปี_2568

หมายเหตุชมคลิปส่วนหนึ่งใน
https://www.facebook.com/share/r/1Ctj1VBS5D/?mibextid=wwXIfr