ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

เจาะลึกคุตบะห์ญุมอะห์จะนะ: “ป่าคอนกรีต” สู่มัสยิดศูนย์บัญชาการภัยพิบัติ

แชร์เลย

โดย: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     จะนะ สงขลา – ธรรมเทศนาวันศุกร์ (คุตบะห์ญุมอะห์) ณ มัสยิดกลางจะนะ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 ได้เผยแพร่บทเรียนที่เข้มข้นจาก “มหาอุทกภัยจะนะรอบ 100 ปี” โดยผู้เขียนชี้ว่า ภัยพิบัติครั้งนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็น “สัญญาณเตือนจากอัลลอฮ์” และผลจากการกระทำของมนุษย์ (อ้างอิง อัล-รูม: 41) พร้อมเสนอวิสัยทัศน์ให้ “มัสยิด” สามารถเป็นศูนย์กลางการจัดการภัยพิบัติด้วยตนเองเบื้องต้นก่อนความช่วยเหลือของรัฐ เพื่อลดความสูญเสีย


1. บทเรียนจากการทำลายสมดุลธรรมชาติ

คุตบะห์ฯ เน้นย้ำว่า ความเสียหายที่ทวีความรุนแรงในจะนะเป็นผลมาจากการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะการทำลาย พื้นที่รับน้ำธรรมชาติ (แก้มลิง) เพื่อแลกกับ “ป่าคอนกรีต” เมื่อบวกการผิดศีลผิดธรรมผิดหลักการอิสลามอย่างกว้างขวางโจ่งแจ้ง ก็ยิ่งไปกันกันใหญ่

  • โครงสร้างขวางทางน้ำ: การถมที่ดินเพื่อสร้าง โรงไฟฟ้าจะนะ และ โรงแยกแก๊ส TTM รวมถึงการสร้าง ถนนสี่เลน (ทางหลวง 43/4085) ทำหน้าที่เป็น “กำแพงกั้นน้ำ” ทำให้มวลน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่อื่นอย่างรวดเร็วและท่วมขังยาวนาน

  • วิถีดั้งเดิมถูกทำลาย: การพัฒนาได้ทำลายภูมิปัญญา “อยู่ร่วมกับน้ำ” ของชาวบ้านที่เคยปลูกบ้านยกสูง และเน้นการถมที่ดินเพื่อความเจริญ

  • ความสูญเสียในมิติสำคัญ: น้ำท่วมได้สร้างความเสียหายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อ ศูนย์กลางการศึกษาอิสลาม (ปอเนาะ) และ เศรษฐกิจ “เมืองนกเขาชวาอาเซียน”

  • เสียงเตือนที่ถูกมองข้าม: ภัยพิบัติครั้งนี้ตอกย้ำความถูกต้องของข้อกังวลที่ชาวบ้านจะนะคัดค้านโครงการขนาดใหญ่ (เช่น นิคมอุตสาหกรรม) มาตั้งแต่ปี 2540 เนื่องจากกังวลเรื่อง ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก


2. ข้อเสนอ: มัสยิดสู่ศูนย์กลาง “Self-Reliance”

     ธรรมเทศนาได้สะท้อน “วิกฤตฝีมือมนุษย์” ในการบริหารจัดการภัยพิบัติของภาครัฐ ที่ขาดความพร้อมและความไม่เป็นธรรมในการกระจายความช่วยเหลือ โดยจะนะได้รับความสนใจน้อยกว่าพื้นที่อื่น

     ดังนั้น เพื่อความอยู่รอดในยามวิกฤต คุตบะห์ฯ จึงเสนอให้มัสยิดสามารถเป็น “ศูนย์บัญชาการชั่วคราวและศูนย์พักพิงฉุกเฉิน” ที่สามารถจัดการตนเองเบื้องต้น (Self-Reliance) ก่อนการพึ่งพาภายนอก ซึ่งถือเป็น หน้าที่ทางศาสนา และ ความจำเป็นทางปฏิบัติ

แนวทางปฏิบัติที่มัสยิดอาจจะต้องเตรียมพร้อม:

มิติ การดำเนินการ
กายภาพ จัดตั้งทีมอาสาสมัครกู้ภัย/ปฐมพยาบาล, สำรองเสบียงฉุกเฉิน
องค์กร กำหนดแผนปฏิบัติการ (SOP), ให้มัสยิดเป็นศูนย์บัญชาการ
จิตวิญญาณ ให้กำลังใจ, ย้ำเตือนความอดทน (ศ็อบร์) และความศรัทธาต่อพระประสงค์

3. สู่การเลือก “ความยั่งยืน”

     คุตบะห์ฯ สรุปว่า มหาอุทกภัยคือโอกาสให้ชุมชน “กลับเนื้อกลับตัว” ร่วมรณรงค์ทำในสิ่งที่ดี ละเว้นในสิ่งที่ชั่ว และต้องเลือกอย่างจริงจังระหว่าง “การพัฒนาอย่างปัจจุบัน” กับ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยมีทางออกคือการ ปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศการจัดการน้ำดั้งเดิมของจะนะ ควน ป่า นา เล เพื่อลดความสูญเสียต่อชาวบ้านคนตัวเล็กตัวน้อย

 359 total views,  359 views today

You may have missed