ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

สภานักวิชาการมุสลิมแห่งประเทศไทย: ก้าวสำคัญสู่ “ศูนย์กลางอิสลามศึกษาแห่งภูมิภาค”

แชร์เลย

โดย: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่าน และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ณ โรงแรมอัลมีรอซ กรุงเทพฯ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ผนึกกำลังกับสำนักจุฬาราชมนตรี จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อจัดตั้ง “สภานักวิชาการมุสลิมแห่งประเทศไทย (Muslim Academic Council of Thailand)” และเปิดตัววิสัยทัศน์ระดับชาติ “Thailand Islamic Education Hub” โดยมีนักวิชาการ ผู้นำศาสนา รวมถึงตัวแทนสถานทูตจากประเทศมุสลิมเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

     การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นมาตรการสำคัญในการใช้ฐานวิชาการและองค์ความรู้เพื่อร่วมพัฒนาสังคมมุสลิมและสังคมไทยโดยรวม พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ศูนย์กลางด้านอิสลามศึกษา (Islamic Education Hub) ที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และทันสมัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

วิสัยทัศน์ร่วม: ยกระดับองค์ความรู้ พัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรม

     นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. กล่าวว่า โครงการนี้ตอกย้ำความเข้มแข็งของสังคมพหุวัฒนธรรมไทย และสะท้อนบทบาทสำคัญของชาวมุสลิมในการพัฒนาประเทศ

“สภานักวิชาการฯ จะทำหน้าที่เป็น กลไกกลาง เชื่อมโยงสถาบันอุดมศึกษา นักวิชาการ ผู้นำศาสนา และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ มาตรฐานวิชาการ และข้อเสนอเชิงนโยบายระยะยาว”

วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานมี 3 ประการสำคัญที่เชื่อมโยงกัน:
จัดตั้งสภานักวิชาการมุสลิมแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นกลไกกลางในการพัฒนาวิชาการอิสลามในประเทศ รวบรวมเครือข่าย ส่งเสริมงานวิจัย และบ่มเพาะนักวิชาการรุ่นใหม่
ผลักดันโครงการ Thailand Islamic Education Hub มุ่งวางตำแหน่งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านอิสลามศึกษาในระดับนานาชาติ ที่พร้อมเผยแพร่ความรู้ศาสนาและวิทยาการร่วมสมัย
ประชุมระดมสมองจัดทำยุทธศาสตร์ MT-Vision 2030 เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการและนวัตกรรม ยกระดับมาตรฐานการศึกษาให้มีความยั่งยืน

     พ.ญ.หญิง เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ย้ำว่านี่คือ “วิสัยทัศน์ร่วม” ที่จะสร้างระบบการศึกษามุสลิมที่เข้มแข็งและมีมาตรฐาน เพื่อพัฒนา “ทุนมนุษย์” ที่สำคัญต่อความมั่นคงและความก้าวหน้าของประเทศ

หลักการศาสนาคือรากฐานความเข้มแข็ง

     อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรมไทย ภายใต้การดูแลขององค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก

ท่านจุฬาฯ ได้อ้างถึงหลักการของศาสนาอิสลามที่เน้นความเข้มแข็งของสังคม โดยกล่าวว่า:

“ความเข้มแข็ง ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และการศึกษา”

ความร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำความรู้ตามหลักศาสนาและวิทยาการสมัยใหม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ

เชื่อม ‘โกลบอลสู่โลคอล’ ขับเคลื่อนชายแดนใต้

     ผศ.ดร.อัตตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ชี้ให้เห็นว่า ความร่วมมือนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายงานอิสลามศึกษาในพื้นที่ชายแดนใต้ ตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับมหาวิทยาลัย

     ท่านกล่าวว่า Thailand Islamic Education Hub จะเป็นเวทีสำคัญในการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากทั่วโลก (โกลบอล) สู่ท้องถิ่น (โลคอล) เพื่อส่งต่อองค์ความรู้ที่ถูกต้องกลับสู่ชุมชน การใช้พื้นที่วิชาการที่เปิดกว้างจะช่วย แก้ไขภาพลบ ของมุสลิมในสื่อ และส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนิก

“การศึกษาอิสลามศึกษาเปิดกว้างสำหรับทุกคน ไม่จำเป็นต้องเป็นมุสลิม และสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพและอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างดี”

การรวมพลังของเครือข่ายอุดมศึกษา

     หัวใจของงานคือการลงนาม MOU ระหว่าง อว. และสำนักจุฬาฯ และพิธีลงนามปฏิญญาความร่วมมือ Thailand Islamic Education Hub โดยมีสถาบันอุดมศึกษา 12 แห่ง เข้าร่วมเป็นเครือข่ายนำร่อง ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำและวิทยาลัยชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และวิทยาลัยชุมชนยะลา เป็นต้น

    การรวมพลังครั้งใหญ่นี้สะท้อนเจตนารมณ์ร่วมของภาคอุดมศึกษา ภาครัฐ และชุมชน ที่จะทำงานเคียงข้างกัน เพื่อยกระดับบทบาทของประเทศไทยบนเวทีโลกมุสลิมและประชาคมระหว่างประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้มุสลิมในระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง

 294 total views,  294 views today

You may have missed