ผู้เขียน: อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
อีเมล: Shukur2003@yahoo.co.uk
รายงานจาก: รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่าน และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

แนวคิดหลัก: การจัดการตนเองของประชาชน, รัฐหนุน, สู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
การพัฒนาเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยกลไกที่ประชาชนสามารถ “จัดการตนเอง” ได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีภาครัฐเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หัวใจสำคัญของแนวคิดนี้คือการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ พึ่งตนเอง และบริหารจัดการกองทุนชุมชนด้วยหลักธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง
มาเลเซีย-ไทย ผนึกกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน


เสรีอิสกันดาร์, เปรัก, มาเลเซีย – เมื่อวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและไทยได้ก้าวสู่มิติใหม่แห่งความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ หลังจากการประชุมครั้งสำคัญ ณ โรงแรม D Hotel Seri Iskandar รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย
การประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นการรวมพลังกันของสามองค์กรหลัก คือ สมาคมพัฒนาชุมชนอำเภอเปรักกลาง, สถาบันการเกษตรและผู้ประกอบการ (IGROW) ซึ่งมี Encik Nordin Abdul Malek เป็น Pengerusi Eksekutif (ประธานบริหาร) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ของไทย ภายใต้การนำของ นางสาวกนกรัตน์ พงษ์ธัญญะวิริยา ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. และสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มุ่งเป้าเศรษฐกิจฐานรากและเปิดตลาด MSMEs ข้ามพรมแดน
การประชุมเชิงยุทธศาสตร์นี้มีจุดเน้นที่ชัดเจนในการ ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ เสริมสร้างศักยภาพของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) รวมถึงชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจการเกษตร (Agribusiness) การผนึกกำลังครั้งนี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะ :
- เปิดเส้นทางการส่งออกใหม่: อำนวยความสะดวกด้านตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ SME ของรัฐเปรักเข้าสู่ภาคใต้ของไทย และผลิตภัณฑ์ไทยเข้าสู่มาเลเซีย
- สร้างโมเดล “IGROW ในภาคใต้ของไทย”: มุ่งเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ IKS (SME) ภายใต้แนวคิดความร่วมมือด้านทักษะการเกษตรและผู้ประกอบการ
รากฐานความร่วมมือที่พัฒนามาตั้งแต่ปี 2560
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นผลจากการประสานงานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 โดยการเชื่อมโยงแรกเริ่มผ่านสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสันติภาพภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นกรอบการทำงานที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างเป็นระบบผ่านการมีส่วนร่วมระดับสูงและการแลกเปลี่ยนการเยือนมาโดยตลอด
การประชุมในปี 2568 นี้จึงคาดหวังว่าจะนำไปสู่การจัดทำ แผนงานที่เป็นรูปธรรมและบันทึกความเข้าใจ (MoUs) เพื่อนำวิสัยทัศน์ความร่วมมือที่สั่งสมมาอย่างยาวนานไปสู่การปฏิบัติจริง
ศักยภาพ 7 ประเด็นหลักภายใต้เจตนารมณ์อาเซียน
ผู้เข้าร่วมประชุมได้ระบุถึงศักยภาพความร่วมมือที่กว้างขวางใน 7 ประเด็นสำคัญ เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองในพื้นที่ชายแดน ได้แก่
- การศึกษา: พัฒนาศูนย์ TVET (อาชีวศึกษาและฝึกอบรมเทคนิค) ข้ามพรมแดน และโครงการแลกเปลี่ยน
- เกษตรกรรม: ริเริ่มโครงการแลกเปลี่ยนเกษตรกร และจัดตั้งเครือข่ายอุปทานและการกระจายอาหารข้ามพรมแดน
- การท่องเที่ยว: พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชิงนิเวศ และส่งเสริมเส้นทางมรดกไทย-มาเลเซีย
- การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร (Media/Information Exchange)
- การค้าทวิภาคี (Bilateral Trade): สร้างศูนย์กลางโลจิสติกส์ฮาลาล และจัดงานแสดงสินค้าข้ามพรมแดน
- การขจัดความยากจน (Eradicate Poverty): สร้างศูนย์ทักษะและ TVET ชนบทข้ามพรมแดน
- ทุเรียนอาเซียน (ASEAN Durian): จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาทุเรียนอาเซียน และเร่งรัดการรับรองฮาลาลทุเรียนข้ามพรมแดน
สรุป: การบูรณาการระดับภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจฐานราก
ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์นี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการบูรณาการระดับภูมิภาคที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะเชื่อมโยงกลไกการ “จัดการตนเองภาคประชาชน” ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเข้ากับโอกาสทางการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดน โดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเพื่อสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของทั้งรัฐเปรักและจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยในระยะยาว ตามเป้าหมายหลักคือ
- เศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคง
- ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง
4,778 total views, 2 views today

More Stories
หนึ่งปีรัฐบาลซีเรียใหม่ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีอะห์มัด อัล-ชัรอ์ ภายใต้ความท้าทาย
เลขาธิการ ศอ.บต. เผย การสร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่น นำผลไม้ล้นตลาด เข้าโรงเรือนสุราชุมชน เพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร จชต. ส่งขายนอกพื้นที่
นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เปลี่ยนโปรแกรมเที่ยว อ.เบตง แทน หลังไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวใน อ.หาดใหญ่ จากสถานการณ์น้ำท่วมหนัก พร้อมร่วม บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง