ธันวาคม 13, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

อัลไบค์ (AlBaik): แบรนด์แห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ผู้ท้าชิง KFC ด้วย “คุณค่า” และ “ความรับผิดชอบต่อสังคม”

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk มักกะห์ มุกัรรอมะห์ – ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

     ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

     ในช่วงวันที่ 9–23 ตุลาคม 2568 ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปอบรมสัมมนาและทำอุมเราะห์ ณ นครมักกะห์ มุกัรรอมะห์ และได้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ การเข้าแถวเพื่อซื้ออาหารจานด่วนของร้าน อัลไบค์ (AlBaik) ซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับทั้งชาวซาอุดีอาระเบียและชาวต่างชาติที่มาเยือน จากการสังเกตการณ์นี้ได้นำมาซึ่งการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับบริษัทอัลไบค์ ซึ่งถือเป็นบริษัทชั้นนำในระดับท้องถิ่นและกำลังก้าวสู่ระดับโลก ในบทความนี้จึงขอสรุปถึงเรื่องราวความสำเร็จ บทบาททางสังคม และกลยุทธ์การแข่งขันกับร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดระดับโลกอย่าง KFC


1. บริษัท อัลไบค์: เรื่องราวความสำเร็จของซาอุดีอาระเบีย

     บริษัทอัลไบค์เริ่มต้นจากร้านค้าเล็กๆ ที่ขายไก่ทอดแบบอัดแรงดัน (อัล-โบรสท์) ในเมืองเจดดาห์ เมื่อปี 1974 ตลอดระยะเวลากว่าห้าทศวรรษ อัลไบค์ได้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างมหาศาล จนกลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารจานด่วนที่โดดเด่นที่สุดในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากการตลาดที่ฉูดฉาด แต่มาจากการสร้าง ความภักดีต่อแบรนด์ ในระดับที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านร้านอาหารระดับโลกอย่าง KFC ได้อย่างทัดเทียม


2. บทบาททางสังคมของอัลไบค์ (ความรับผิดชอบต่อสังคม: CSR)

     อัลไบค์เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นในการนำแนวคิดเรื่อง ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) หรือที่บางครั้งชาวซาอุดีอาระเบียเรียกว่า “หน้าที่ของชาติ” มาใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนผ่านโครงการและความริเริ่มต่างๆ ดังนี้:

  • การสนับสนุนด้านการกุศลและการบริจาค:

    • ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ขัดสนและผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
    • ร่วมมือกับองค์กรการกุศลเพื่อแจกจ่ายอาหารให้กับคนยากจน โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนและในโอกาสสำคัญอื่นๆ
    • ความเชื่อที่ฝังลึกในหมู่ลูกค้าว่า ส่วนหนึ่งของราคาอาหารจะถูกจัดสรรสำหรับงานการกุศล ซึ่งแม้บริษัทไม่ได้ยืนยันในระดับนโยบาย แต่ก็สะท้อนถึงความมุ่งมั่นทางศีลธรรมของครอบครัวเจ้าของ
  • โครงการฝึกอบรมและพัฒนาเยาวชน:

    • เปิดตัวโครงการการศึกษาและการฝึกอบรมสำหรับเยาวชนและเด็ก เช่น โครงการ “นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์” และโครงการ “วีรบุรุษแห่งย่าน” เพื่อส่งเสริมการทำงานอาสาสมัครและการพัฒนาทักษะ
    • โครงการ “คุณและอัลไบค์คือเพื่อนบ้านกัน” ที่ฝึกอบรมและจ้างงานเยาวชนทั้งชายและหญิงในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งช่วยสร้างโอกาสในการทำงานและลดปัญหาการว่างงานในประเทศ

     ผลกระทบทางสังคม: ความใส่ใจในความรับผิดชอบต่อสังคมนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้าง ชื่อเสียงที่แข็งแกร่ง และ ความภักดีในหมู่ประชาชน ทำให้สาธารณชนมองว่าอัลไบค์เป็นบริษัทที่เป็นมากกว่าร้านอาหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและประเทศชาติ


3. กลยุทธ์การแข่งขันกับ KFC และการพิชิตตลาดท้องถิ่น

     อัลไบค์สามารถเอาชนะเครือข่ายร้านอาหารระดับโลกอย่าง KFC ในตลาดซาอุดีอาระเบียได้ด้วยการใช้กลยุทธ์การแข่งขันที่ผสมผสานระหว่าง “คุณค่า” “รสชาติ” และ “อัตลักษณ์” ดังนี้:

กลยุทธ์สำคัญ รายละเอียดเชิงลึก
กลยุทธ์ด้านคุณค่าและการตั้งราคาต่ำ มุ่งเน้นการนำเสนอ คุณภาพสูง ในราคาที่ สมเหตุสมผลและสามารถแข่งขันได้สูงมาก (กลยุทธ์การทำกำไรในระยะยาว) การที่ราคาอาหารยังคงที่และต่ำเป็นเวลานาน สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ KFC ยากจะตามทัน
รสชาติและคุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์ (สูตรลับ) อัลไบค์มี สูตรลับเฉพาะ (สมุนไพรและเครื่องเทศ 18 ชนิด) สำหรับไก่ทอด (อัล-โบรสท์) ที่สร้าง รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง KFC การรักษา คุณภาพและความสะอาด ของอาหารอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ลูกค้าไว้วางใจ
ความภักดีต่อแบรนด์และอัตลักษณ์ท้องถิ่น ในฐานะ แบรนด์ที่มีต้นกำเนิดในซาอุดีอาระเบีย อัลไบค์ได้รับการสนับสนุนจากความรู้สึก ภาคภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของชาติ ควบคู่ไปกับความมุ่งมั่นใน CSR ทำให้บริษัทกลายเป็น “ที่รักของประชาชน” (People’s Choice)
ความหลากหลายของเมนู นอกเหนือจากไก่ทอดที่เป็นที่นิยมแล้ว ยังมีตัวเลือกอื่นๆ เช่น ไก่ย่างไม่มีกระดูก (Chicken Musahab) และเมนูกุ้ง ซึ่งช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในท้องถิ่น

      สรุปการแข่งขัน: อัลไบค์มุ่งเน้นไปที่ คุณค่าที่ยอดเยี่ยม (คุณภาพสูงและราคาต่ำ) ผสมผสานกับ ความภักดีจากประชาชน ที่เกิดจากรสชาติท้องถิ่นและความรับผิดชอบต่อสังคม ในขณะที่ KFC พึ่งพา แบรนด์ระดับโลก และสูตรอาหารที่เป็นที่รู้จักเป็นส่วนใหญ่ แต่ประสบปัญหาในการแข่งขันด้านราคาและคุณค่าในตลาดท้องถิ่นของซาอุดีอาระเบีย


4. การขยายสาขาไปยังต่างประเทศ: ก้าวที่มั่นคงสู่สากล

     หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในซาอุดีอาระเบีย อัลไบค์ได้เริ่มขยายสาขาไปยังต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอ่าวอาหรับเป็นหลัก (ข้อมูล ณ ปี 2024–2025):

  • ประเทศที่มีสาขาอย่างเป็นทางการ: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), บาห์เรน, คูเวต
  • การขยายตัวที่ระมัดระวัง: อัลไบค์มีชื่อเสียงในเรื่องความรอบคอบและไม่รีบร้อนในการขยายสาขา เพื่อให้มั่นใจในการรักษาคุณภาพและมาตรฐานการบริการให้เทียบเท่ากับในซาอุดีอาระเบีย
  • ปรากฏการณ์ในต่างประเทศ: สาขาในต่างประเทศ เช่น Dubai Mall มักจะเห็นปรากฏการณ์ผู้คนเข้าแถวยาวเหยียด ซึ่งสะท้อนถึง ความภักดีของลูกค้าชาวซาอุดีอาระเบียและชาวอาหรับ ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ รวมถึงความตื่นเต้นของคนในท้องถิ่นต่อแบรนด์นี้

     โดยสรุป การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของอัลไบค์ในช่วงเริ่มต้นนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ในการสร้างกระแส ความภักดีของลูกค้า และ ความสามารถในการขยายแบรนด์ออกไปนอกคาบสมุทรอาหรับอย่างมั่นคง ซึ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นที่รักของชาวซาอุดีอาระเบียและภูมิภาค

 13,219 total views,  2 views today