ธันวาคม 13, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

โอกาสทองของการจัดการเรียนรู้บูรณาการศาสตร์: ถวายอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง สู่การปฏิรูปการศึกษาอิสลามแบบองค์รวม

แชร์เลย

โดย… อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ที่ปรึกษาสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้

                                   


     การสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 เป็นวาระแห่งความโศกเศร้าของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า รวมถึงพี่น้องชาวไทยมุสลิม ผู้ซึ่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็น “อัครศาสนูปถัมภก” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมอิสลามมายาวนาน

     แม้จะมีคำสั่งของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สถานศึกษา งดจัดงานที่มีบรรยากาศรื่นเริงทุกประเภทเป็นเวลา ๑ ปี เพื่อถวายอาลัย ซึ่งสร้างความท้าทายในการตีความและปฏิบัติสำหรับโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม (ปอเนาะ/โรงเรียนอิสลามศึกษา) แต่วาระแห่งการถวายอาลัยนี้ กลับเป็น โอกาสทอง ที่สำคัญยิ่งในการปฏิรูปและยกระดับการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามไปสู่ การบูรณาการศาสนา-สามัญ (Islamic Integration of Knowledge) อย่างเป็นรูปธรรมและสมบูรณ์


พระมหากรุณาธิคุณอันเป็นรากฐานสู่การเรียนรู้แบบบูรณาการ

พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงต่อสังคมมุสลิมไทยได้วางรากฐานอันแข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกมิติชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับหลักการศึกษาอิสลามที่เน้นความสมดุล (Duality) และความเป็นองค์รวม (Holistic View):

  • ด้านการศึกษาศาสนา: ทรงสนับสนุนให้มีการ แปลความหมายของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นภาษาไทย โดยมีอักษรพระนามาภิไธย “สก.” บนปกคัมภีร์ การนี้เป็นการยกระดับการเข้าถึงหลักคำสอนอิสลามอย่างลึกซึ้ง ซึ่งส่งเสริมให้ชาวมุสลิมใช้หลักการศาสนาเป็นฐานในการทำความเข้าใจวิชาการทางโลก

  • ด้านมรดกทางวัฒนธรรมและอาชีพ: โครงการศิลปาชีพ ได้ส่งเสริมและอนุรักษ์งานหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนมุสลิมในภาคใต้ เช่น ผ้าปักและผ้าทอ ซึ่งมิได้เป็นเพียงการสร้างรายได้ แต่เป็นการเชื่อมโยง วิชาชีพ (อาชีพ) เข้ากับ อัตลักษณ์และวัฒนธรรม (ศาสนา/สามัญ) อย่างกลมกลืน

พระมหากรุณาธิคุณเหล่านี้เป็นเสมือน บทเรียนตัวอย่าง ว่า ศาสนา การศึกษา และการดำรงชีวิต ไม่ได้ถูกแยกส่วนออกจากกัน ซึ่งเป็นปรัชญาหลักของการศึกษาอิสลามที่แท้จริง


การจัดการเรียนรู้บูรณาการศาสนา-สามัญ ทุกสาระวิชา

     หลักการศึกษาในทัศนะอิสลามเน้นว่า การศึกษาคือการบูรณาการวิชาศาสนาและวิชาทางโลก (สามัญ) เข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ โดยไม่ควรแยกวิชาออกจากกัน (Dichotomous) เนื่องจากอิสลามเป็นวิถีชีวิตที่ครอบคลุมทุกมิติ (Comprehensive Way of Life)

        วาระการถวายอาลัยนี้เปิดโอกาสให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามใช้ความท้าทายของคำสั่ง ศธ. เป็นแรงผลักดันในการสร้างหลักสูตรและกิจกรรมที่เน้นการบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบในทุกกลุ่มสาระวิชา รวมถึงวิชาภาษาและอื่น ๆ โดยมีวิธีดำเนินการดังนี้:


1. การบูรณาการตามแนวคิดอิสลามานุวัตรองค์ความรู้ (Islamization of Knowledge)
โรงเรียนควรปฏิรูปหลักสูตรโดยมีแนวคิดหลักคือ “การนำอิสลามนำเสนอผ่านกลุ่มสาระ”

  • วิชาภาษาไทย/อังกฤษ/อาหรับ/มาลายู: ใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงต่อชาวไทยมุสลิม และหลักการ
    إِنَّا لِلَّهِ وَإِنَّا إِلَيْهِ رَاجِعُونَ
    (แท้จริงเราเป็นของอัลลอฮ์ และแท้จริงเราจะต้องกลับไปหาพระองค์)
    เป็นฐานในการเรียนรู้:

    • ภาษาไทย/อังกฤษ: ให้นักเรียน เขียนบทความ/เรียงความ (Essay) หรือ บทกวี (Poem) เพื่อถวายอาลัยและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยเน้นการใช้ภาษาที่สุภาพและสำรวม (เป็นการฝึกทักษะการสื่อสารที่สะท้อนจริยธรรม/คุณค่าทางศาสนา)

    • ภาษาอาหรับ/มาลายู: ให้นักเรียน แปล/วิเคราะห์ (Analysis) พระราชดำรัส หรือข้อความจากอัลกุรอาน/หะดีษ ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเรื่อง ความเมตตา (رحمة), การสร้างสรรค์ (Creation), ความรับผิดชอบต่อโลก (Khilafah) และ การให้เกียรติมนุษย์ (Ikram) ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของพระองค์

  • วิชาสังคมศึกษา/ประวัติศาสตร์: จัดทำ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ที่เน้นความสำคัญของ พหุสังคมไทย (Plural Society) และบทบาทของพระองค์ในฐานะองค์อัครศาสนูปถัมภกอย่างแท้จริง โดยนำเสนอผ่านมุมมองอิสลามที่เน้นการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข


2. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นความสำรวมแทน “กิจกรรมรื่นเริง”
เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่ง ศธ. ในการ งดกิจกรรมรื่นเริง เป็นเวลา ๑ ปี

โรงเรียนสามารถเปลี่ยนกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้เป็นกิจกรรมที่เน้นความสำรวม (Contemplative and Solemn Activities) และการพัฒนาบุคลิกภาพแบบองค์รวม:

  • เปลี่ยนกิจกรรมกีฬาสี/งานรื่นเริง: ไปสู่ โครงการพัฒนาอาชีพ/ศิลปาชีพจำลอง (Skill-based Projects) ที่เชื่อมโยงกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ (เช่น การปักผ้า การทำเครื่องปั้นดินเผาตามแบบศิลปาชีพ) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างทักษะและรายได้ โดยไม่จัดอยู่ในประเภท “รื่นเริง”

  • พัฒนาครูผู้สอน: ครูผู้สอนทุกคนต้องมีความสามารถในการ ใช้อัลกุรอานและอัลหะดีษเป็นฐาน ในการสอนวิชาสามัญ เพื่อให้เนื้อหาสามัญทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือสังคมศึกษา สอดคล้องและไม่ขัดต่อบทบัญญัติอิสลาม

  • การจัดบรรยากาศการเรียนรู้: เน้นการจัดบรรยากาศที่ส่งเสริม ความสงบสุขและสันติ (Peace and Harmony) ตามหลักอิสลาม ซึ่งเป็นการถวายอาลัยที่สอดคล้องกับแนวทางของสำนักจุฬาราชมนตรีที่ให้เน้น การให้เกียรติอย่างมีมารยาทแห่งมนุษยธรรม แทนการไว้ทุกข์แบบประเพณี


บทสรุปและก้าวต่อไป

     วาระแห่งการถวายอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง คือการทบทวนครั้งใหญ่ของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปอย่างสมดุลระหว่างการ ธำรงอัตลักษณ์ และการ ปฏิบัติตามนโยบายรัฐ

     การบูรณาการศาสนา-สามัญในทุกสาระวิชา โดยเฉพาะวิชาภาษาต่าง ๆ และการนำพระราชกรณียกิจมาเป็นตัวอย่างในการเรียนรู้ จะช่วยลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหา แก้ปัญหาวิกฤตทางจิตวิญญาณ และผลิตผู้เรียนที่มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์ตามเป้าหมายการศึกษาอิสลามที่แท้จริง


หมายเหตุ
อ่านหนังสือ “”การศึกษาบูรณาการอิสลาม:กรณีศึกษาโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
ใน http://spmcnews.com/?p=29273

 7,232 total views,  2 views today