ทีมข่าวกองบรรณาธิการ รายงาน.
แถลงการณ์คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแกไข้ปัญหาความขัดแย้ง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวาระครบรอบ 19 ปี เหตตุการณ์ตากใบ
นายนัจมุดดีน อูมา คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ อดีต ส.ส.หลายสมัย จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว นายรพี มามะ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวสื่อมวลชนเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ www.spmcnews.com ว่า ในวันนี้ ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแกไข้ปัญหาความขัดแย้ง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวาระครบรอบ 19 ปี เหตตุการณ์ตากใบ เนื่องในวาระครบรอบ 19 ปีของการสลายการชุมนุมในอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส ดังมีคำแถลงการณ์ดังนี้..
ซึ่งเป็นหนึ่ง ในประวัติศาสตร์บาดแผลที่สำคัญของคนในพื้นที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอ แนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอยืนยันถึงความจำเป็นในการสร้างความตระหนักถึงปัญหาความขัดแย้งในชายแดนใต้ และความจำเป็น ในการสร้างสันติภาพอันเกิดจากความยินยอมพร้อมใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการมีกระบวนการเจรจา สันติภาพที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนสามารถนำไปสู่การแสวงหาทางออกทางการเมือง สร้างสังคม ที่ประชาชนอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม โดยทุกคนได้รับ การปฏิบัติอย่างเสมอหน้าภายใต้กฎหมายอย่างแท้จริง เพื่อให้สันติภาพเกิดขึ้นได้จริงในพื้นที่ กระบวนการที่จำเป็นอย่างยิ่งประการแรกคือการลดเลือน
ประวัติศาสตร์บาดแผล ลดความรู้สึกว่าประชาชนถูกกระทำโดยอยุติธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อลดทอน ความรู้สึกหวาดระแวงแคลงใจต่อกันระหว่างรัฐกับประชาชน ในกรณีของตากใบ คณะกรรมาธิการฯ เห็นควรให้รัฐบาลแสดงความตระหนักว่าเหตุการณ์นี้
เป็นอาชญากรรมที่รัฐได้กระทำต่อประชาชนในพื้นที่ และให้หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมดำเนิน คดีอาญากับผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนั้น ก่อนที่อายุความ 20 ปี จะสิ้นสุดลงในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 รวมถึงส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้ ความเข้าใจในวงกว้างต่อ เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ตากใบ ซึ่งมีการกระทำการที่ละเมิดต่อหลักการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม ตามมาตรฐานสากล จนนำไปสู่การจับกุมผู้ชุมนุมกว่า 1,370 คน สูญหายอีก 7 คน และการขนย้ายผู้ชุมนุม ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตะหวา่ งการเดินทางถงึ 85 ราย โดยที่จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีการสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ในเหตุการณ์ แม้จะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการที่แต่งตั้งจากรัฐบาลแล้วว่าเจ้าหน้าที่ได้ กระทำการเกินกว่าเหตุจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ประการต่อมา การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต จำเป็นต้องป้องกันไม่ให้เกิดการใช้อำนาจเกิน
ขอบเขตของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เอื้อให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนต่างเชื้อชาติ ศาสนา ให้อำนาจพิเศษแก่เจ้าหน้าที่รัฐเกินสมควร และลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง โดยรัฐบาล ควรให้แก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายความมั่นคงที่บังคับใช้อยู่ รวมทั้งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร คณะกรรมาธิการฯ เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าสันติภาพสามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ชายแดนใต้ หากรัฐบาล
และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความจริงใจและมีเจตจำนงแน่วแน่ในการจัดการปัญหาที่ต้นตอ การบังคับใช้ กฎหมายอย่างเสมอภาค เป็นธรรม เคารพในศักดิ์ศรีและสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะเป็นการถอนฟืน
ออกจากไฟ ลดความรู้สึกเชิงลบที่ประชาชนในพื้นที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบรรยากาศ ของการพูดคุยหาทางออกร่วมกัน อันจะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนและความเจริญก้าวหน้ารวมกัน ของประชาชนทุกเชื้อชาติศาสนาในพื้นที่ชายแดนใต้
คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สภาผู้แทนราษฎร แถลงการณ์วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2566
96,999 total views, 4 views today
More Stories
แถลงร่วม 3 ฝ่าย สรุปผลการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพื้นที่จชต. เป็นไปตามขั้นตอนตามหลักมนุษยธรรม เน้นเจรจามากกว่าใช้กำลัง แสวงหาทางออกสู่สันติสุข
แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะประธาน กอจ.นราธิวาส โอกาสเส้นทางใกล้สู่เดือนรอมฎอน ร่วมอวยพรสันติสุขให้ประชาชน รอมฎอนอันประเสริฐ ฮศ.1445
แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดแผน (รอมฎอนสันติสุข และส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม ) อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในทุกเทศกาล โดยเฉพาะ ห้วงเดือนรอมฎอนปี 67