จากการเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการในรัฐบาลปัจจุบัน นำโดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา นำไปสู่การเปิดศักราชใหม่ ยกระดับความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบียในรอบกว่า 30 ปี นำไปสู่การส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆในอนาคต
.
โดยความสำเร็จครั้งนี้มีหลายปัจจัยที่ช่วยเกือบหนุนในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้ง 2 ประเทศ โดยมีทั้งในหลายระดับ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ความใกล้ชิดในระดับบุคคล ซึ่งหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ว่านั่นคือ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฎอนี ที่เป็นตัวหลักในการสนับสนุน ช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่นิสิต นักศึกษาไทยมายาวนานกว่า 30 ปีนอกจากนี้ท่านได้เป็นหนึ่งนักวิชาการศาสนาที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ท่านได้รับเกียรติเป็นแขกคนสำคัญของกษัติย์แห่งซาอุดิอาระเบียในภารกิจหลายประการ
.
การกลับมามีความสัมพันธ์ในระดับปกติของทั้ง 2 ประเทศนั้น รศ.ดร.อิสลามอีลลุตฟี จะปะกียา เผยว่า สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับทราบว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า คนไทยทั้งมุสลิมและต่างศาสนิก ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะหฺ รวมถึงด้านอื่นๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านแรงงาน ด้านการศึกษา ด้านทรัพยากรพลังงาน และด้านสิทธิมนุษยชน
.
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าว นอกจากจะนำความยินดีมาสู่ประชาชนชาวไทยแล้ว ยังส่งผลดีต่อพี่น้องชาวไทยมุสลิมในซาอุฯ ซึ่งเป็นประเทศศูนย์กลางแห่งศาสนาอิสลาม ในขณะเดียวกันยังจะส่งผลในเรื่องการประสานงานและการขับเคลื่อนงานพัฒนาระหว่างจังหวัดชายแดนใต้กับซาอุดิอาระเบียที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ เพราะจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือในทุกๆ ด้านต่อไป
#หนุ่มภาคใต้
********************
7,604 total views, 4 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี