ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
11 ธันวาคม 2568

ชุมชน บ้านโคะ ตำบลจอเบาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ได้แสดงให้เห็นถึงแบบอย่างอันน่าชื่นชมในการธำรงไว้ซึ่งหลักคุณธรรมและจริยธรรมที่หยั่งรากลึกในคำสอนของอิสลาม ท่ามกลางกระแสการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มักถูกฉาบทาด้วยเรื่องของการ “ซื้อสิทธิ์–ขายเสียง”
การรวมตัวกันของฝ่ายปกครอง คณะกรรมการมัสยิด และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อเชิญผู้สมัคร ส.อบต. เข้าหารือและย้ำจุดยืนร่วมกันในการเลือกตั้งที่ ปลอดจากการทุจริต ไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องระบบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการยึดมั่นใน คุณค่าหลักการอิสลาม อย่างแท้จริง
หลักการอิสลามกับการต่อต้านการทุจริตในมุมมองนักวิชาการมุสลิมสมัยใหม่
หลักการอิสลามได้บัญญัติเรื่องความยุติธรรมและความโปร่งใสไว้เป็นเสาหลัก การกระทำที่บิดเบือนความจริงหรือแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เช่น การซื้อเสียง ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานที่เรียกว่า “อะมานะฮฺ” (Amanah) ซึ่งหมายถึงความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ และการมอบหมาย
นักวิชาการโลกมุสลิมสมัยใหม่หลายท่านได้เน้นย้ำถึงประเด็นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการเมืองและการบริหารประเทศ
-
Sheikh Yusuf al-Qaradawi นักวิชาการคนสำคัญ ได้กล่าวถึงความสำคัญของ “อัล-อะมานะฮฺ” ว่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้บริหารและผู้มีอำนาจ การนำเสนอตัวเองเพื่อรับตำแหน่งโดยใช้วิธีที่ทุจริต หรือการซื้อเสียง ถือเป็นการทรยศต่อ อะมานะฮฺ ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้แก่ประชาคมมุสลิม
-
Dr. Tariq Ramadan (นักคิดร่วมสมัย) ได้เน้นย้ำว่า อิสลามเรียกร้องให้มีการสร้าง “ความยุติธรรมทางสังคม” (Social Justice – ‘Adl al-Ijtima’i) การซื้อสิทธิ์-ขายเสียงทำลายความยุติธรรมนี้ เพราะมันทำให้ตำแหน่งทางการเมืองตกอยู่ภายใต้อำนาจของเงินทุน ไม่ใช่คุณสมบัติหรือความสามารถในการรับใช้ชุมชน
-
มุมมองด้านเศรษฐศาสตร์อิสลาม: การซื้อขายเสียงถูกเปรียบเทียบกับการ “ริชวะฮฺ” (Rishwāh) หรือการให้สินบน ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) โดยเด็ดขาดในอิสลาม เพราะมันทำให้เกิดการบิดเบือนการตัดสินใจ และนำไปสู่การบริหารงานที่ไม่เป็นธรรม (Zulm)
บทเรียนจากการซื้อขายเสียง: สะท้อนอดีต สู่การเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่
การซื้อเสียงเป็นการทำลายความเชื่อมั่นและสร้างความขัดแย้งอย่างที่ฝ่ายปกครองบ้านโคะได้ชี้ให้เห็น แต่ประเด็นที่ทรงพลังที่สุดคือการตระหนักว่า
“หากยังเกิดการซื้อเสียงต่อไป จะส่งผลให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถแต่ไม่มีเงินทุน ไม่สามารถเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือสังคมได้”
คำกล่าวนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและเป็นไปตามหลักการอิสลามที่ส่งเสริมให้บุคลากรที่มีความสามารถ (ผู้ทรงไว้ซึ่งความรู้และความซื่อสัตย์) ได้เข้ามาบริหารจัดการกิจการของส่วนรวม
-
ในอดีต ผู้นำที่ได้รับการยอมรับในอิสลามถูกเลือกโดยพิจารณาจาก “ตักวา” (Taqwā) ความยำเกรงพระเจ้า และ “ความสามารถ” (Kafā’ah)
การปิดโอกาสให้แก่คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถแต่ขาดทุนทรัพย์ คือการขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของการสร้างสังคมที่ดีงาม (Maslaha Ammah) ตามบัญญัติของอิสลาม
การที่ผู้นำชุมชนบ้านโคะลุกขึ้นมา “ต่อรองด้วยคุณธรรม” โดยใช้มัสยิดและสถาบันหลักของชุมชนเป็นฐานในการย้ำเตือนหลักการ ถือเป็นปฏิบัติการทางสังคมที่ยอดเยี่ยม เป็นการแสดงออกว่า คุณค่าของอิสลามไม่ได้เป็นเพียงพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่เป็นวิถีชีวิตและธรรมนูญในการบริหารจัดการสังคมและการเมืองอย่างโปร่งใสและยุติธรรม
การเลือกตั้งที่บ้านโคะครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง ส.อบต. เท่านั้น แต่เป็นบทพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งทางคุณธรรมของชุมชน ที่พร้อมจะต่อสู้กับอำนาจเงินทุน เพื่อปกป้องอนาคตของคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ และรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของหลักการอิสลามอย่างสมบูรณ์
ขอชื่นชมผู้นำบ้านโคะที่ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นแบบอย่างที่น่าเลื่อมใสในการธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมและความซื่อสัตย์ในการเมืองท้องถิ่น
หมายเหตุชมคลิปฉบับเต็มใน
https://www.facebook.com/share/v/1D15uUX4f9/?mibextid=wwXIfr
732 total views, 732 views today

More Stories
เลือกตั้งไทย: ศึกชิงอำนาจที่ ‘ถูกล็อก’ (มุมมองจากมาเลเซีย)
จุดเปลี่ยนชายแดนใต้กับบทบาทภาคประชาสังคม: จากข้อเสนอ พ.ร.บ. สู่การหนุนเสริมของ ศอ.บต.พร้อมข้อเสนอแนะ
การบูรณาการบทเรียนอิสลามจากสถานการณ์น้ำท่วม สู่การพัฒนาสมรรถนะการจัดการภัยพิบัติในศตวรรษที่ 21