เมษายน 29, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ความหวังใหม่ของโลกมุสลิม ถึงคิวสถาปนา “องค์การรัฐเติร์ก” เน้นความร่วมมือทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี การทหารและความมั่นคง

แชร์เลย

ผศ.ดร.ฆอซาลี เบ็ญหมัด

โลกมุสลิมประกอบด้วยเชื้อชาติหลักๆ ที่มีประชากรระดับร้อยล้าน แบ่งตามกลุ่มภาษาที่ใช้ ได้แก่ อาหรับ เติร์ก อุรดู มลายู/อินโดนีเซีย เปอร์เซีย ฯลฯ ผ่านประสบการณ์การจัดตั้งองค์การระหว่างประเทศของโลกมุสลิม เช่น โอไอซี หรือเฉพาะกลุ่มอาหรับ อย่างสันนิบาตอาหรับ หรือกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ-จีซีซี แต่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาต่างๆของโลกมุสลิมในสถานการณ์ร้ายแรงวันนี้

ถึงเวลาพิสูจน์ศักยภาพกลุ่มภาษา/เชื้อชาติเติร์ก

ในวันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน วันนี้ เมืองอิสตันบูลของตุรกีจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดครั้งที่ 8 ของ “องค์การรัฐเติร์ก” หรือตามชื่อเดิม “สภาความร่วมมือของรัฐที่พูดภาษาเติร์ก ( Cooperation Council of Turkic-Speaking States)”

สภาความร่วมมือของรัฐที่พูดภาษาเตอร์ก ( Cooperation Council of Turkic-Speaking States) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2009 ประกอบด้วย ตุรกี อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และอุซเบกิสถาน นอกเหนือจากฮังการีในฐานะผู้สังเกตการณ์ ในขณะที่เติร์กเมนิสถานจะเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดปัจจุบันในฐานะผู้สังเกตการณ์

การประชุมในอิสตันบูลครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศใน “โลกเติร์ก” ในหลายพื้นที่ ในด้านการศึกษาและการค้า

วาระต่างๆ

สมาชิกของสภาความร่วมมือของรัฐที่พูดภาษาเตอร์ก ( Cooperation Council of Turkic-Speaking States) มีมรดกทางวัฒนธรรม รากเหง้าทางประวัติศาสตร์ และอัตลักษณ์ร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง เพราะพวกเขาใช้ภาษา ชาติพันธุ์ และวัฒนธรรมเดียวกัน ประกอบเป็นกำลังสำคัญ มีประชากรรวมกันมากกว่า 300 ล้านคน

ประเทศเหล่านี้แสวงหาโดยผ่าน “สภาความร่วมมือของรัฐที่พูดภาษาเตอร์ก ( Cooperation Council of Turkic-Speaking States) ” เพื่อกระชับสายสัมพันธ์ของภราดรภาพ บรรลุความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในระดับต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ความพยายามครั้งแรกในการจัดตั้งสภาขึ้นในปี 1992 เมื่อตุรกุต โอซาล อดีตประธานาธิบดีตุรกี เชิญประมุขแห่งรัฐอาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิสถาน และเติร์กเมนิสถานไปยังเมืองหลวงของตุรกี อังการา และตัดสินใจที่จะพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันเองผ่านการประชุมสุดยอดเป็นระยะร่วมกัน

การประชุมสุดยอดดำเนินต่อไปเกือบทุกปี จนกระทั่งประเทศต่างๆ ลงนามใน”ข้อตกลงนาคีชีวัน” เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2009 ก่อนการจัดตั้งสภาจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในปลายปี 2010 ณ การประชุมสุดยอดที่จัดขึ้นในอิสตันบูล

สมาชิกของ “สภาเติร์ก” พยายามที่จะส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและทวิภาคีที่มีประสิทธิภาพในทุกด้านที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการค้าและการลงทุน และบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและสมดุล นอกเหนือจากความร่วมมือเพื่อทำให้กระบวนการพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรมเข้มข้นขึ้น

สภาให้ความสำคัญกับการเติบโตของเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยขยายขอบเขตของการมีปฏิสัมพันธ์ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา สุขภาพ วัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างสื่อและวิธีการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างประเทศในโลกของตุรกี

สโลแกนของการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศที่พูดภาษาเตอร์กในอิสตันบูลฉบับปัจจุบันคือ “เทคโนโลยีสีเขียวและเมืองอัจฉริยะในยุคดิจิทัล” สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของสมาชิกสภาในด้านเทคโนโลยีและก้าวทันเครื่องมือที่ทันสมัย .

มิติเชิงกลยุทธ์

สภาประเทศที่พูดภาษาเตอร์กได้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งในความร่วมมือและการประสานงานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ปริมาณการค้าระหว่างรัฐสมาชิก มีมูลค่าประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ และประเทศสมาชิกกำลังมองหาการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจร่วมและจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาเพื่อเร่งการทำงานร่วมกันในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน

ในทางการเมือง สภาฯ พยายามที่จะส่งเสริมความไว้วางใจซึ่งกันและกันและมิตรภาพระหว่างฝ่ายต่างๆ ในโลกเติร์ก พัฒนาจุดยืนร่วมกันในประเด็นนโยบายต่างประเทศของประเทศสมาชิก ประสานงานการดำเนินการที่มุ่งต่อสู้กับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ การแบ่งแยกดินแดน การเหยียดเชื้อชาติ และอาชญากรรมข้ามพรมแดน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเสริมสร้างความร่วมมือทางกฎหมาย

ในด้านแนวรบทางการทหาร รัฐสมาชิก กำลังมองหาการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญด้านการทหารโดยการฝึกร่วม นอกเหนือไปจากความร่วมมือในการสรุปข้อตกลงในการขายอาวุธ ชุดเกราะ และยานพาหนะทางทหารต่างๆ

ตุรกีให้การสนับสนุนอย่างมากแก่อาเซอร์ไบจานในช่วงสงครามกับอาร์เมเนียเพื่อปลดปล่อยภูมิภาคคาราบาคห์ ในขณะที่สภารัฐเติร์กได้ตัดสินใจในวันพุธที่จะผ่านบันทึกที่ออกโดยประธานาธิบดีเรเซป ทายยิป ​​เออร์โดกัน เพื่อขยายงานของกองกำลังตุรกีในอาเซอร์ไบจานเพิ่มเติม เพื่อให้กองทัพตุรกีมีส่วนร่วมในการติดตามการหยุดยิงในภูมิภาค ทีมผู้เชี่ยวชาญจากกองกำลังตุรกีก็มีส่วนร่วมในการค้นหาและกำจัดทุ่นระเบิด

ผู้สังเกตการณ์ชี้ให้เห็นว่าด้วยโอกาสที่หลากหลายสำหรับความร่วมมือระดับภูมิภาคและการประสานงานระหว่างประเทศต่างๆ ในรัฐโลกเติร์ก โอกาสในการเปลี่ยนสภาเติร์กให้เป็นพันธมิตรที่มีสถานะเป็น “องค์กรระหว่างประเทศ” กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ประธานกิตติมศักดิ์ของสภาตุรกีและอดีตประธานาธิบดีแห่งคาซัคสถาน นูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ เคยเสนอให้เปลี่ยนชื่อสภาเป็น “องค์การรัฐเติร์ก” และประเทศสมาชิกก็อนุมัติข้อเสนอนี้ในระหว่างการประชุมสุดยอดเสมือนจริงในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

เมฟลุต คาวูโซกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ยืนยันปัญหาการเปลี่ยนชื่อองค์กร โดยอธิบายว่าการตัดสินใจนี้เป็นหนึ่งใน “การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์” ที่จะดำเนินการในการประชุมสุดยอดที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในวันศุกร์วันนี้ที่กรุงอิสตันบูล

ประธานาธิบดีแอร์โดฆานของตุรกี ถือว่าการประชุมสุดยอดสภาตุรกีในฉบับปัจจุบันเป็น “จุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของสภา” โดยสังเกตว่าการจัดตั้งสถาบัน (การทำให้สภาฯเป็นสถาบัน) ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว และความแข็งแกร่ง สถานะ และประสิทธิผลของการประชุมได้เกิดขึ้นแล้ว ได้รับการปรับปรุงผ่านการมีส่วนร่วมใหม่

เชื้อชาติเติร์ก ที่เป็นแกนหลักของโลกมุสลิมยุคท้ายราวๆ 600 ปี หลังเชื้อชาติอาหรับในนามอาณาจักรอับบาซียะฮ์หมดบทบาท จะกลับมามีบทบาทนำในโลกมุสลิมอีกครั้งหรือไม่ อย่างไร

โปรดรอชมโดยพลัน

 6,797 total views,  2 views today

You may have missed