พฤษภาคม 18, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ญิฮาดกับการรักษาชีวิต โดย.ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ

แชร์เลย

หลายคนตำหนิขบวนการฮามาสว่าเป็นเหตุนำความสูญเสียมาสู่ชีวิตของพลเรือนในฉนวนกาซา คล้ายกับว่าฮามาสไม่มีความห่วงใยในชีวิตพลเรือน​เหล่านั้น บางคนไปไกลถึงกับ คิดว่าฮามาสร่วมมือกับชีอะฮในการทำลายชีวิตและทรัพย์สินของมุสลิมกันเองโดยอาศัยมือของยิว​ !!!

อกีดะฮอะไรหนอที่ทำให้คน​ ๆ​ หนึ่งที่บอกว่าศรัทธาต่ออัลลอฮจินตนาการไปได้ถึงขนาดนั้น​ ???

ญิฮาดเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตมุสลิม​ ไม่ว่าจะชายหรือหญิง​ ในยามปกติก็เป็นญิฮาดรูปแบบหนึ่ง​ ในยามสงครามก็เป็นญิฮาดอีกรูปแบบหนึ่ง

บทบัญญัติอิสลามระบุว่าหากข้าศึกบุกเข้าถึงเรือนชาน​ ทุกคนในบ้านไม่ว่าจะชายหรือหญิงมีหน้าที่ต้องต่อสู้​ ไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อม​ หากชนะก็เป็นความโปรดปรานจากอัลลอฮ​ หากแพ้และถึงแก่ชีวิต​ ก็เป็นเกียรติที่อัลลอฮทรงมอบให้ในฐานะ”ชาฮีด”

ไม่มีอะไรที่สูญเสียจริง​ ๆ​ สำหรับมุสลิม

การปกป้องชีวิตเป็นหน้าที่​ และการปกป้องศาสนาก็เป็นหน้าที่​ ครั้นในยามที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตกับศาสนา​ อิสลามสอนให้เรายอมพลีชีวิตเพื่อดำรงไว้ซึ่งศาสนา

เพราะอิสลามคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายตามที่ควรจะเป็น​ ระหว่างการดำรงอยู่อย่างไร้ความหมายกับการตายเพื่อธำรงความถูกต้องเที่ยงธรรม​ อิสลามสอนให้เราเลือกอย่างหลังมากกว่า

ดังนั้น​ ในยามที่ต้องประจัญหน้ากับข้าศึกที่มุ่งหมายทำลายศาสนา​ การหันหลังหลบหนีไม่ยอมรบ​ ถือเป็นบาปมหันต์ประการหนึ่ง
التولي يوم الزحف

เพราะหากจะมีชีวิต​ ก็ควรจะเป็นชีวิตที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี​ มิใช่อยู่อย่างทาส​ ปราศจากทางเลือกในชีวิตยกเว้นสิ่งที่คนอธรรมกำหนดกฎเกณฑ์ให้

อันว่ามัสยิดอัลอักซอนั้น​ หาใช่แค่โบราณสถานอันควรค่าแก่การอนุรักษ์ไม่​ แต่คือศาสนสถานที่ถูกกำหนดเป็นสัญญลักษณ์อันทรงเกียรติของมุสลิมมาแต่โบราณกาล​ และถูกกำหนดเป็นศูนย์กลางในการแผ่รัศมีแห่งอิสลามอีกครั้งในอนาคต

ความพยายามในการทำลายมัสยิดอัลอักซอ​ แท้จริงคือความพยายามที่จะลบอดีตอันเกรียงไกรของอิสลาม​ ลดทอนเกียรติยศของมุสลิมในปัจจุบัน​ และสร้างความมืดมนแก่อนาคตของพวกเขา

เมื่อกลุ่มยิวหัวรุนแรงบุกเข้าไปทำร้ายผู้คนที่กำลังละหมาดในมัสยิดอัลอักซอในวันที่​ 25​ แห่งเดือนรอมาฎอนปีนี้​ ภายใต้การอำนวยการของกำลังทหารตำรวจไซออนิสต์​ จึงเป็นการก้าวข้ามเส้นแดงไปสู่เขตอันตรายสำหรับฮามาสและผู้ศรัทธาทั้งหลาย

เป็นทั้งการรุกรานศาสนาและเป็นทั้งการขับไล่ไสส่ง(ออกจากดินแดน​เขตเชค​ ญัรรอห)​ อย่างอธรรม อันเป็นเหตุผลที่อายะฮที่​ 8 แห่งซูรอฮ​ อัลมุมตะหินะฮ​ อนุมัติให้ทำสงครามได้

ฮามาสจึงมีความชอบธรรมที่จะต่อสู้​ และผู้คนที่เลือกฮามาสมาบริหารฉนวนกาซาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น​ เมื่อผู้นำของตนเลือกหนทางแห่งญิฮาด​

สิ่งที่บ่งชี้ว่าผู้คนพร้อมจะญิฮาดร่วมกับฮามาสคือ​ แม้มีความสูญเสียมามากมายหลายครั้ง​ แต่พวกเขาก็ยังเลือกคนของฮามาสเป็นผู้นำแห่งกาซาอยู่นั่นเอง

ชายหนุ่มคนหนึ่งสูญเสียคู่หมั้นสาวไปในการถล่มกาซาของกองกำลังก่อการร้ายไซออนิสต์​ ทั้งคู่มีแผนจะแต่งงานกันในอนาคตอันใกล้นี้​ เขาบอกว่าแม้จะรักและอาลัยคู่หมั้นมากเพียงใด​ แต่ก็ภูมิใจที่เธอเป็นผู้สิ้นชีพในหนทางแห่งอัลลอฮ​!!!

คนที่ไม่ได้ไปต่อสู้ในพื้นที่​ อัล​ อักซอ​ ถ้าไม่อยากเป็นมุนาฟิก​ ก็ต้องตั้งใจว่าหากมีโอกาสจะร่วมต่อสู้ด้วย​ และเมื่อไปด้วยตัวตนไม่ได้​ ก็ควรร่วมต่อสู้ด้วยดุอาจากใจจริง

มิใช่เอาแต่ด่าว่าวิจารณ์ฮามาสด้วยจิตอันคับแคบ

 6,246 total views,  2 views today

You may have missed