อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ปัตตานี/ยะลา/นราธิวาส — (15 ธันวาคม 2568) จากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า การเมืองในพื้นที่กำลังเป็นสมรภูมิทางอุดมการณ์ที่ดุเดือดระหว่าง “การเมืองสีขาว” ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยพลังเยาวชนคนรุ่นใหม่และผู้นำศาสนา กับอิทธิพลครอบงำของ “ทุนเทา” ที่ใช้เงินเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตย
การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มต้นอย่างชัดเจนในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น (อบต.) เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2569 และคาดการณ์ว่าจะขยายตัวเป็นกระแสหลักในการเลือกตั้งระดับชาติ (ส.ส.) ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569
อะมานะฮฺ VS. ริชวะฮฺ: หลักศาสนาคือเกราะป้องกัน
หัวใจสำคัญของการต่อสู้ครั้งนี้คือการใช้หลักการอิสลามเป็นเกราะป้องกันการทุจริตทางการเมือง กระแส “สีขาว” โดยลาฮุสณีบินหะยีคอเนาะ ที่ปรึกษาสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ได้ออกมาเรียกร้องให้นักการเมืองทุกคนลงสัตยาบรรณต่อสาธารณชนว่าจะไม่ใช้เงินซื้อเสียง เพื่อพิทักษ์หลัก อะมานะฮฺ (Amanah: ความรับผิดชอบ/ซื่อสัตย์) จากการคุกคามของ ริชวะฮฺ (Rishwāh: สินบน/การซื้อเสียง) ซึ่งถูกตีความอย่างเคร่งครัดว่าเป็น หะรอม (Haram: สิ่งต้องห้าม) ทางศาสนา
-
พลังต้านจากศาสนา: เยาวชนและผู้รู้ศาสนา เช่น บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ ได้ผนึกกำลังตีความว่าการรับสินบนในการเลือกตั้งคือการทรยศต่อศาสนา ซึ่งเป็นกลไกทางความเชื่อที่ทรงพลังในการสั่นคลอนกลไกการซื้อเสียง และผลักดันให้ประชาชนหันไปสนับสนุนผู้สมัครที่มีภาพลักษณ์ ตักวา (Taqwā: ความยำเกรงพระเจ้า)
-
ต้นแบบที่ “บ้านโคะ”: ชุมชนบ้านโคะ จ.นราธิวาส ได้กลายเป็นต้นแบบทางคุณธรรม โดยการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการจัดการเลือกตั้งที่ ปลอดจากการทุจริตและการซื้อเสียง พวกเขาชี้ให้เห็นว่า การซื้อเสียงเป็นการปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถแต่ไม่มีเงินทุน ไม่สามารถเข้ามามีบทบาทช่วยเหลือสังคมได้
แรงกดดันของ “ทุน” และการย้ายพรรค
แม้กระแส “สีขาว” จะเข้มแข็ง แต่แรงจูงใจจากเงินทุนและความหวังที่จะได้ร่วมรัฐบาลยังคงทรงอิทธิพล สังเกตได้จากการประกาศย้ายพรรคของอดีต ส.ส. หลายรายในพื้นที่ ไปยังพรรคที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรทางการเงินสูงกว่า (เช่น พรรคภูมิใจไทย และ พรรคกล้าธรรม) เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันมหาศาลที่แม้แต่พรรคแชมป์เก่าก็ต้องเผชิญในการรักษาฐานเสียงและบุคลากรจากการดึงดูดของ “ทุน”
อิรฟาน ตอแลแม อดีตนายกสมาคมจันทร์เสี้ยว จากจังหวัดยะลาสะท้อนถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงว่า:
“เปลี่ยนอนาคตประเทศไทย สู่การเมืองก้าวหน้า นักการเมืองต้องไม่ซื้อเสียง ประชาชนต้องไม่ขายสิทธิ วิบากกรรมประเทศไทย 30 ปีที่ผ่านมาทุกคนคงได้รับรู้ แล้วจะปล่อยให้มันแย่ไปจนแก้ไม่ได้กระนั้นหรือ… #อนาคตไทยอยู่ที่ทุกท่านแล้วนะ”
“การเมืองไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง”
นักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่เน้นย้ำผ่านแคมเปญต่างๆ ว่า “การเมือง ไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง” แต่คือการใช้สิทธิ์แสดงพลังของประชาชนเพื่อกำหนดทิศทางการจัดสรรทรัพยากรและการพัฒนา โดยการ ปฏิเสธไม่รับเงินซื้อเสียง คือการปกป้องศักดิ์ศรีและสิทธิในฐานะพลเมือง เพื่อสร้าง “ความยุติธรรมทางสังคม” (Adl al-Ijtima’i) ที่แท้จริง
สรุป
การเมืองชายแดนใต้กำลังเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่า “หลักการ” (อะมานะฮฺ) สามารถท้าทายอำนาจของ “ทุน” ได้จริง ความซื่อสัตย์กำลังจะกลายเป็นสกุลเงินที่มีค่าที่สุดในการเลือกตั้งครั้งถัดไป เพื่อมุ่งสู่การเมืองที่บริสุทธิ์และรังสรรค์ ตามหลัก Rahmatan Lil’alamīn (ความเมตตาแก่โลกทั้งมวล)
108 total views, 108 views today

More Stories
การปรับคณะรัฐมนตรีมาดานี (Kabinet Madani) และความท้าทาย
วิเคราะห์การเมือง: “สาเหะมูหะมัด อัลอิดรุส” ย้ายบ้านใหม่ – ใครคือผู้ท้าชิงเก้าอี้เขต 5 ปัตตานี?
บทวิเคราะห์: 4 โจทย์ท้าทาย ศอ.บต. สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนใต้ ปี 2569