ธันวาคม 16, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

การปรับคณะรัฐมนตรีมาดานี (Kabinet Madani) และความท้าทาย

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ได้ประกาศปรับโครงสร้างคณะรัฐมนตรีใหม่ หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนครั้งแรกไปเมื่อเดือนธันวาคม 2023

สาเหตุสำคัญของการปรับเปลี่ยน
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการลาออกของรัฐมนตรี 3 ท่าน ได้แก่:

  • เอวอน เบเนดิกต์ (Ewon Benedick): รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาผู้ประกอบการและสหกรณ์ (KUSKOP)
  • ราฟิซี รัมลี (Rafizi Ramli): รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
  • นิก นาซมี (Nik Nazmi): รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (NRES)

นอกจากนี้ ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม (MITI) ของ เต็งกู ซาฟรูล (Tengku Zafrul) ก็ว่างลงเช่นกัน เนื่องจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (Senator) เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

รายละเอียดการปรับโครงสร้าง

  • มีการโยกย้ายตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ รวม 20 ตำแหน่ง
  • มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ 8 ท่าน
  • บุคคลที่ถูกปรับออก: รัฐมนตรี 2 ท่าน คือ ซาลีฮา มุสตาฟา (กระทรวงดินแดนสหพันธ์) และ นาอิม มกตาร์ (ด้านศาสนา) รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการ 1 ท่าน คือ เค. สรัสวดี (ด้านสามัคคีธรรมแห่งชาติ)

“เพื่อให้คณะรัฐมนตรีสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีม มุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สดใหม่ และแก้ไขปัญหาของประชาชน”อันวาร์ กล่าว

การปรับคณะรัฐมนตรีของอันวาร์ อิบราฮิม ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการหาคนมาแทนที่ตำแหน่งที่ว่างลง แต่สะท้อนถึงกลยุทธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนี้ครับ

1. สาเหตุของการปรับคณะรัฐมนตรี (The Causes)

  • การสูญเสียขุนพลเศรษฐกิจคนสำคัญ: การลาออกของ ราฟิซี รัมลี (มือวางอันดับหนึ่งด้านเศรษฐกิจ) และการหมดวาระของ เต็งกู ซาฟรูล ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ในทีมเศรษฐกิจ อันวาร์จึงจำเป็นต้องปรับทัพเพื่อไม่ให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสั่นคลอน
  • การจัดการเสถียรภาพภายในพรรคร่วม: การลาออกของรัฐมนตรีจากพรรคต่างๆ (เช่น Ewon จากพรรค UPKO ในซาบาห์) บีบให้อันวาร์ต้องจัดสรรโควตาใหม่เพื่อรักษาความพึงพอใจของพรรคร่วมรัฐบาลในรัฐทางตะวันออก (ซาบาห์และซาราวัก)
  • ผลการทำงานที่ไม่เข้าเป้า: การปลดรัฐมนตรีบางท่าน อาจ สะท้อนว่าอันวาร์ไม่พอใจกับการสื่อสารนโยบายหรือการแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ที่ล่าช้า
  • การเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตค่าครองชีพ: อันวาร์ต้องการ “เลือดใหม่” ที่สามารถทำงานเชิงรุกเพื่อตอบคำถามประชาชนเรื่องปากท้อง ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดของรัฐบาลในปัจจุบัน

2. ความท้าทายของอันวาร์ (Challenges for Anwar)

  • ความเป็นเอกภาพ (Unity): การโยกย้ายถึง 20 ตำแหน่งอาจสร้างความไม่พอใจให้กับคนในพรรคที่ถูกลดบทบาท อันวาร์ต้องควบคุมไม่ให้เกิดรอยร้าวภายใน “รัฐบาลสามัคคี” (Unity Government)
  • ความคาดหวังของประชาชน: เมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น ประชาชนย่อมคาดหวังผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น หากเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้องภายใน 6 เดือนหลังจากนี้ ความเชื่อมั่นในตัวอันวาร์จะลดลงอย่างมาก
  • การคานอำนาจกับกลุ่มอนุรักษนิยม: อันวาร์ต้องรักษาจุดยืนสายกลาง (Madani) ในขณะที่ต้องรับมือกับการรุกคืบของฝ่ายค้าน (PN) ที่เน้นประเด็นเชื้อชาติและศาสนา

3. ความท้าทายของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ (Challenges for the New Cabinet)

  • การสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ (Economic Continuity): รัฐมนตรีเศรษฐกิจและ MITI คนใหม่ต้องเข้ามาสานต่อแผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมแห่งชาติ (NIMP 2030) ทันทีโดยไม่มีช่วงฮันนีมูน
  • วิกฤตค่าครองชีพและเงินเฟ้อ: โจทย์ที่ยากที่สุดคือการยกเลิกการอุดหนุนแบบเหมาจ่าย (Subsidy Rationalization) เช่น ราคาน้ำมันและไฟฟ้า โดยไม่ให้กระทบต่อคะแนนเสียงของกลุ่มคนรากหญ้า
  • การดึงดูดการลงทุน (FDI): ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกผันผวน ทีมใหม่ต้องพิสูจน์ให้นักลงทุนเห็นว่ามาเลเซียยังมีนโยบายที่นิ่งและน่าดึงดูดกว่าเพื่อนบ้านในอาเซียน

บทสรุป
     การปรับทัพครั้งนี้คือการ “รีเซ็ต” เพื่อให้รัฐบาลมีพลังงานใหม่ (Fresh energy) ในการขับเคลื่อนนโยบายที่ติดขัดในช่วง 2 ปีแรก โดยมีเป้าหมายหลักคือ “ปากท้องของประชาชน” เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งในอนาคต

 156 total views,  156 views today