อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์(อับดุลสุโก ดินอะ)

(18 กุมภาพันธ์ 2563) ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นักวิชาการหนุ่มมุสลิมดีกรีปริญญาเอกจากประเทศอินเดีย อับดุรเราะฮหมาน มูเก็ม ถึงกองทุนช่วยเหลือสังคมกองทุนหนึ่งที่ให้โอกาสคนตัวเล็กตัวน้อยเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่จะไปต่อโดยไม่คำนึงถึงถึงเชื้อชาติและศาสนา
คำถามแรกที่ยิงไปให้คือ ความเป็นมาที่เกิดกองทุนนี้ ซึ่งอาจารย์เขากรุณาเล่าให้ฟังว่า
“คุณคือแรงบันดาลใจ”

เราไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อตั้งกองทุนอะไรทั้งนั้น อีกอย่างเราไม่ได้จัดหาทุนแล้วมาหาเด็กยากจนรับทุน เอาเข้าจริง เราเกือบทุกคนก็ลำบากและไม่ได้ร่ำรวยมากพอที่จะแบ่งปัน เพราะเราทุกคนต่างมีภาระเหมือน ๆ กัน ทั้งตัวเอง ครอบครัว พ่อแม่และอื่นๆ จิปาถะ
แต่…
แต่….
แต่…
เมื่อเรารับรู้ชีวิตและเรื่องราวอันโหดหินของเด็กผู้หญิงฐานะยากจนคนหนึ่ง เราถึงกับมึนงงเหมือนโดนตบหน้า หนำซ้ำชะตากรรมของครอบครัวนี้ก็โหดร้ายไม่แพ้กัน
พี่ชาย 2 คนต้องออกจากสถานศึกษาเพราะ “ความยากจน” ส่วนเธอคนนี้ก็กำลังจะประสบชะตากรรมแบบเดียวกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เรารับรู้เรื่องนี้ เราถึงกับนอนไม่หลับ และตั้งคำถามมากมายกับตัวเองว่า
แล้ว…
“เราเรียนไปเพื่ออะไร”
“เราใช้ชีวิตแต่ละวันไปเพื่ออะไร”
“ความสุขคืออะไร”
“อดคืออะไร”
“ไม่มีอันจะกินคืออะไร”
คำถามเหล่านี้มันลั่นในหัวตลอดทั้งคืนหลังได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าว
“แล้วเราทำอะไรได้บ้าง”
เธอจึงเป็น คำตอบสุดท้ายของเรา
ทำให้เรามีวันนี้ มีกองทุน เราได้ก่อตั้งกองทุน มีทีมทำงาน คณะที่ปรึกษา
เราไม่ยอมให้เธอถอดเสื้อขาวก่อนวัยอันควร เราจึงตั้งเป้าหมายส่งเธอเรียนให้จบการศึกษาในระยะเวลา 3 ปี
อย่างน้อย เธอไม่ต้องเป็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เนื่องจาก “ความยากจน” เพราะเราไม่อยากเห็นเธออยู่ในสภาพนั้นและเราเชื่อว่า
“หลายคนก็ไม่ปรารถนาให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน”
***ปัจจุบัน ด.ญ. พานิตา ลิกขไชย อายุ 12 ปี เรียนอยู่ ป. 6 โรงเรียนวัดยางทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช***
“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณชีวิตอันเรียบง่ายของเธอที่ดูคล้ายไม่มีอะไร แต่แฝงเร้นด้วยพลัง
ชีวิตลำบากของเธอ จึงเป็นแรงบันดาลให้พวกเราและใครอีกหลายคนได้ลุกขึ้นมาทำอะไรดี ๆ ให้กับสังคม”
ขอบคุณทีมงาน ที่ปรึกษา หุ้นส่วนและทุกท่านที่ช่วยบริจาค ช่วยแชร์ ช่วยบอกต่อ ช่วยกันสร้างสรรค์สังคมของเรา “
ท่านอาจารย์ได้เล่าต่อว่า

“ทุนนี้นำร่อง 3 ปีด้วยกับการส่งเด็กคนเดียวให้จบ ม.สาม
เขาเริ่มเรียนจากม.1 เดือนพฤษภาคม 2563 นี้ ตลอดสามปีกองทุนนี้จะดูแลเด็กคนเดียวจนจบคับ ให้เดือนละ1,500 แต่ช่วงเปิดเทอมทุกปีให้ค่าอุปกรณ์ ชุดและอื่นอีก3,000 บาทรวมเป็น 4,500
ใช้เงินทั้งหมดจนเด็กนี้เรียนจบคร่าวๆประมาณ 58,000 บาท
“สำหรับ ที่ปรึกษาผู้เขียนคิดว่าสำคัญมากได้ข่าวว่า เป็นบุคคลไม่ธรรมดา มีประสบการณ์ มีประสิทธิภาพมาก เช่นใครบ้าง
? อาจารย์บอกเราว่า “สำหรับคณะที่ปรึกษาคอยหนุนเสริมให้เรามีด้วยกัน 5 คน
ผศ. ดร. สุกรี หลังปูเต๊ะ, ว่าที่ร้อยตรี อดุล หวันสกุล, ส.ท. สมพงษ์ วันแอเลาะ, เมาลานาก่อเส็ม สัมฤทธิ์และประธานมูลนิธิคนช่วยคนอย่างคุณ
อิสม่าแอน หมัดอาด้ำ
โดยมีผมคนตัวเล็กตัวน้อยได้รับความไว้วางใจจากทีมงาน เช่นอาจารย์รอบีอ๊ะ นุ้ยประสิทธิ์ พรจิตร กิจจารักษ์ ปรียา อับดุลเราะเเม ลายูชา บุญแต่ง และเลขานุการกองทุน ฟารีดา มูเก็ม “
ครับก็อยากเป็นกำลังใจและฝากกองทุนนี้ให้ทุกคน
เมื่ออ่านรายงานนี้ก็ให้ทุกคนช่วยหนุนเสริมกันนะครับ
เรามาช่วยกันมอบโอกาสที่เราเคยได้รับจากผู้ใหญ่ ส่งไม้ต่อให้แก่เด็กรุ่นใหม่ที่ขาดโอกาสกันนะครับ
“ให้ที่ไม่เคยสูญเปล่า
บอกเล่าที่ไม่เคยสูญสิ้น
ร่วมถักหน่อก่อแปลนบนแผ่นดิน
จะมีกลิ่นดอกไม้กล้าใต้ฟ้าเรา”
2,075 total views, 2 views today

More Stories
จุฬาราชมนตรี-กอ.อิสลามฯ เปิดแบบสำรวจข้อมูลศพผู้สูญหายมุสลิม อำนวยความสะดวกจัดการ “มัยยิต” เหยื่ออุทกภัยภาคใต้ปี 2568
เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 ตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 2 จุด
ปฏิบัติการรวบเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด พร้อมของกลางอื่น เตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการ