ทีมข่าว รายงานจากนราธิวาส..
(1 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 น.) ที่ โรงแรมเกนติ้ง อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย ดาโตะ เฟาซี นาอีม ประธานสภา IMT-GT ประเทศมาเลเซีย มิสเตอร์เอ็ดดี้ เวอร์โก ผู้แทนรัฐบาลเมืองเมดาน ประเทศอินโดนีเซีย ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ร่วมการประชุมแผนงาน IMT-GT ในโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจสามฝ่าย ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย เพื่อร่วมหารือและสร้างผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นในระดับ อนุภูมิภาคตลอดจนสานความร่วมมือทางธุรกิจให้เข้มแข็งและยั่งยืน โดยมี นายมงคล สินสมบูรณ์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู นายอิสระ ละอองสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. นายบุญธรรม มุณีกาญจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการจัดควบคู่กับงานมหกรรมแสดงสินค้า Digital Business and Trade Exhibition in Southern Thailand หรือ Date in South ซึ่งเป็นงานมหกรรมแสดงสินค้าและเจรจาจับคู่ธุรกิจชายแดนภาคใต้ และดึงนักธุรกิจของไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซียมาด้วย ครั้งนี้ถือว่าเป็นการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเรื่องเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ในกรอบของ IMT-GT โดยวันนี้เป็นการประชุมในส่วนของศูนย์ประสานงาน IMT-GT ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีตัวแทนของไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย มาร่วมหารือกัน ในประเด็นการส่งเสริมมิติของการค้าและการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าชายแดน รวมทั้งเรื่องของธุรกิจฮาลาล ซึ่งผลการประชุมในวันนี้เกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก ได้มีการยกประเด็นเล็กๆแต่มีความสำคัญ เช่น ขณะนี้มีนักธุรกิจรุ่นใหม่ต้องการทำธุรกิจร่วมกันระหว่าง ไทย-มาเลเซีย
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มีสิ่งที่สามารถขับเคลื่อนได้เลยหลายประเด็น ผลวันนี้มีหลายส่วนที่ต้องขยายผลต่อ ในภาพใหญ่เราอยู่ในกลุ่มของอาเซียน เมื่อขยับภาพย่อลงมา เราอยู่ในกลุ่มของ 3 ประเทศที่จะพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม วันนี้เป็นการดึงภาพใหญ่ที่รัฐบาลของแต่ละประเทศได้หารือกันมาคุยกันในทางปฏิบัติจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของผู้ประกอบการซึ่งจะเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างแท้จริง และภาครัฐจะเติมเต็มในบางเรื่องเพื่อให้การค้าชายแดนส่งผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด ในส่วนของภาคธุรกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ถือว่ามีศักยภาพและมีความสำคัญมากหากได้มีการร่วมมือกันมากขึ้น นั่นหมายถึงการยกระดับการค้าชายแดนที่สูงขึ้น ที่สำคัญคือการทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ของสองฝั่งพรมแดนมีชีวิตที่ดีขึ้นรวมทั้งต้องส่งผลดีต่อสามประเทศอีกด้วย
/////////////////////////
859 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี