โดย..อาจารย์ศุกรีย์ สะเร็ม..
บทความนี้น่าจะเป็นบทความหนึ่งที่ช่วยสะท้อนภาพคนมลายูมุสลิมไทยที่ถูกบทความหนึ่งที่ดูเหมือนเยียดหยาม คนเชื้อสายมลายูมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้จากเพจวาสนา นา(โดนถล่มจน)น่วมซึ่ง จารย์ศุกรีย์ สะเร็มได้เคยเขียนไว้ซึ่งรายละเอียดมีอยู่ ว่า “
ผมนี่นะไม่ได้โต้แย้งนะหากใครจะมาเรียกมุสลิมไทยว่าแขก ผมเคยตั้งประเด็นครั้งเป็น บ.ก.หนังสือเมาลิดกลางฯ ผมตั้งหัวข้อไว้ว่า “มุสลิมไทย คนแขก ที่ไม่ใช่เพียงแขกบนหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย” เพราะว่าแต่ก่อนตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เขาเรียกคนมอญ คนเจ็ก คนแขก คนฝรั่ง เขารู้จักไม่กี่กลุ่มไง แต่เขาเรียกรวมๆ คนแขก หมายถึง แขกมลายู แขกจาม แขกเทศ แขกอะไรอีกสารพัดแขก กลุ่มมุสลิมถูกเรียกว่าแขกหมดเลย แม้กระทั่งพวกจาม พวกจีน หน้าไม่เป็นแขกเลย แต่พอรู้ว่าเป็นมุสลิมเรียก”สัญชาติแขก”หมด
คือประเทศไทยในสมัยก่อน เราแบ่งกลุ่มชาติพันธ์เป็นสามกลุ่มใหญ่ ถ้าเราหันหน้าออกไปทางปากอ่าวไทย ก็คือทางทิศใต้ กลุ่มที่มาจากทางฝั่งขวาของปากแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดพวกนั้นเป็นกลุ่มแขก ก็คือพวกจากมลายู เปอร์เชีย อินเดีย อาหรับ ตุรกี ในขณะที่พวกที่มาจากทางฝั่งซ้าย พวกนี้จะเป็นกลุ่มเจ๊ก จีน ญวนทั้งหลาย เพราะแต่ก่อนจีนมันไม่ได้ใหญ่อย่างนี้นะ มันมีอาณาจักรซ้อนกันอยู่ในอาณาจักรจีนนี่เยอะ แล้วก็กลุ่มที่มาจากไกลโพ้นอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ทวีปแอฟริกามาเลย พวกนี้จะเรียกว่าพวกฝรั่ง
.
กลุ่มแขกในระบบขุนนาง ก็จะมีพระยาจุฬาราชมนตรีดูแลกลุ่มแขกทั้งปวงในนามกรมท่าขวา กลุ่มที่มาจากฝั่งซ้ายทั้งหลายจีน เจ็ก ญวน ญี่ปุ่น พวกนี้ก็จะมีพระยาโชฎึกราชเศรษฐีเป็นผู้ดูแลในนามกรมท่าซ้าย พวกฝรั่งที่อ้อมแหลมกู๊ปโฮปมาก็มีขุนนางดูแลนามพระยาวิไชเยนทร์ เขาเรียกว่า กรมท่ากลาง
..
แล้วคำว่าแขกในยุคนั้น มีความหมายว่าอะไร ?
.
ก็ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมด้วย แม้บางพวกไม่ใช่มุสลิมเช่นแขกพราหมณ์ แขกซิกข์แต่ก็มาจากอาณาจักรโมกุลที่มีองค์กษัตรย์เป็นมุสลิม ชาวสยามเขาเรียกมุสลิมทุกกลุ่มว่าแขกนะ เป็นคำรวมๆ เรียกว่าแขก คือ ในหน้าประวัติศาสตร์ถ้าเราทิ้งคำว่า “แขก” ประวัติศาสตร์มุสลิมในรอบกว่าห้า หกร้อยปีจะถูกทิ้งไปหมดเลย เช่นเขาเรียกพระยาจักรีแขก คือพระยาจักรีศรีองครักษ์ สมุหนายก ก็คือบุคคลสำคัญที่ร่วมกู้กรุงในสมัยพระเจ้าตากฯ พระยายมราชแขก อะไรอย่างนี้เป็นต้น เพราะคนพวกนี้เป็นมุสลิม
.
.
แสดงว่าในยุคโน้น คำว่า แขก เป็นคำในเชิงบวก ?
.
เชิงบวกอย่างมาก หมายถึง แขกของประเทศ แขกของแผ่นดิน แขกของพระราชวัง เป็นคนพิเศษ เป็นแขกของพระราชสำนัก ในขณะที่กลุ่มชาติพันธ์อื่นๆ จะถูกเรียกตามถิ่นที่มา เป็นวิลันดา(ดัชต์) เป็นอังกฤษ เป็นฝรั่งเศส เป็นญวน เป็นมอญ เป็นลาว เขาเรียกเป็นชื่อกลุ่มเลย แต่พอเป็นมุสลิมเขาเรียกแขก เป็นคนพิเศษที่ต้องดูแล เราไม่ควรทิ้งคำว่าแขก ไม่อย่างนั้นประวัติศาสตร์เราไปหมดเลยนะ แม้กระทั่งในสมัย รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 ก็ยังเรียกขุนนางกลุ่มนี้ว่าสายขุนนางกลุ่มแขก พระยาแขก เขาเรียกกลุ่มขุนนางมลายูว่า พระยาแขก ผมมีรูปเพิ่งได้มาจากกองจดหมายแห่งชาติ ภาพหมู่กลุ่มพระยาแขก เจ้าเมืองทั้งหลาย ก็คือพวกรายากาเดาะห์ ปาลิส ไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู ในสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านก็เชิญรายาคณะที่มาเข้าเฝ้านี้มารวมกันแล้วก็ถ่ายภาพหมู่ พวกพระยาเจ้าเมืองแขก
.
คำนี้จริงๆ มันเป็นเชิงบวกมากนะต่อสังคมไทย ในเขตพระราชฐานของกรุงศรีอยุธยามีเฉพาะจีนกับแขกเท่านั้นนะที่อยู่ในเขตพระราชฐาน อยู่ในเขตกำแพงพระนคร ในเกาะเมืองครั้งกรุงศรีอยุธยา มีบันทึกโดย มันเดล เฟอร์นันเดส ปินโต คนโปตุเกส ที่เข้ามาในสมัยพระไชยราชาธิราช(พ.ศ.2076 – 2089) ซึ่งเป็นองค์กษัตริย์องค์ที่ 13 ของกรุงศรีอยุธยาตอนต้นก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1 เขาว่ามีมัสยิดอยู่ 7 แห่ง ในเกาะเมืองเป็นของชาวอาหรับและเตอ์รกี มีบ้านประมาณ 3,000 ครอบครัว พอเสียกรุงครั้งที่หนึ่งเราเสียนานถึง 15 ปีกว่าจะกู้กรุงได้ กลุ่มพวกนี้ก็อยู่ไม่ได้ เราจึงไม่เห็นหลักฐานอะไร”
.
อ่านต่อฉบับเต็มได้ที่
ศุกรีย์ สะเร็ม : เราเป็นใครในบ้านของเรา
.
#halal_life #แขก #มุสลิมในประเทศไทย
2,389 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.