มีนาคม 29, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ตอบข้อเรียกร้อง ต่อจุฬาราชมนตรี กรณีไม่เอามัสยิด (ตอนที่ 5 ข้อที่5)

แชร์เลย

โดย..สมเดช มัสแหละ..

อยากเรียนท่านผู้อ่านว่า การเป็นมุสลิม ไม่ใช่เรื่องง่าย มีกติกาจุกจิกมากมาย ทั้งเรื่องการเป็นอยู่ การกิน การแต่งกาย ผมก็ไม่เข้าใจว่ามีบางคน กลัวว่าคนจะเป็นอิสลามกันหมดได้ไง

เอาแค่เรื่องกินก็ลำบาก ต้องกินอาหารที่อนุมัติตามหลักการ สัตว์ก็ต้องเชือด เลือดก็ต้องล้าง ให้สะอาด เดินทางไปไหน มาไหน ลำบากไม่ใช่เล่น บางครั้งเห็นป้ายร้านอาหาร “อิสาน” ตาลายอ่านเป็นร้านอาหาร “อิสลาม”ก็มี

ผมย้ำอีกครั้งการตอบต่อข้อเรียกร้องตรงนี้ ไม่ต้องการเอาชนะใดๆ เพราะชนะไปก็ไม่ได้อะไร แต่ต้องการสร้างความเข้าใจร่วมกันมากกว่า ผมก็ถือหลัก ศีล ปัญญา สมาธิ นั้นแหละครับ คุยกับพระเยอะเลยได้แง่คิดตรงนี้…

ตอบข้อเรียกร้องของ เลขาธิการ อปพส.ข้อ 5. ต่อ..

5. ขอให้ช่วยปรามบุคคลที่ขนมุสลิมต่างด้าวทั้ง อุยกูย์ อาเจ๊ะ โรฮิงยา เข้ามาช่องสุมตามมัสยิดต่างๆในภาคเหนือและอีสานให้หยุดการกระทำด้วย

ตอบ..ข้อนี้น่าจะยื่นข้อเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะ ตม. หากผมจำไม่ผิด ผู้ที่มีส่วนขนคนเหล่านี้เข้ามาโดยทำเป็นขบวนการ คือข้าราชการนะ ที่ถูกคำพิพากษาไปแล้ว

สำหรับคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา หรือ โรฮีนจา ที่ศาลตัดสินไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา.. ซึ่งคดีนี้ศาลได้ใช้อ่านคำพิพากษามาราธอน นับสิบชั่วโมงในการอ่านคำพิพากษา เนื่องจากคดีนี้มีจำเลยทั้งสิ้น 103 คน ซึ่งจำเลยคนสำคัญประกอบด้วย นายบรรจง หรือจง ปองพล อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา จำเลยที่ 1 นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง หรือเสี่ยโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล จำเลยที่ 29 พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 โดยทั้งหมดถูกฟ้องในความผิด 16 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ พ.ศ.2551 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติฯ พ.ศ.2546 ร่วมกันหรือนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ระหว่างการพิจารณาคดี นายสุรียา หรือโกชัย อาฮะหมัด จำเลยที่ 26 เสียชีวิต ศาลจึงจำหน่ายคดีออกจากสารบบ

ส่วนที่ท่านว่าส่องสุมตามมัสยิด หากคนเหล่านั้นเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง คงโดนจับไปนานแล้ว ยิ่งมัสยิดทางภาคอีสาน ภาคเหนือที่ถูกจับตาเป็นพิเศษอยู่แล้ว หรือหากใครเห็นบุคคลเหล่านั้นมาส่องสุมก็แจ้งความได้เลย

เพื่อนๆชาวพุทธเคยเล่าว่า ไปทำงานในต่างประเทศ เมื่อพบวัดจะดีใจมาก หากวันใดเป็นวันหยุด ก็จะไปอยู่แต่ในวัด มันรู้สึกอบอุ่น

ฉันใดก็ฉันนั้น คนต่างชาติที่เป็นมุสลิม หากพบเจอมัสยิด ก็จะดีใจเช่นกัน หากวันใดไม่ไปไหนก็จะมาอยู่ที่มัสยิด เพราะอย่างน้อยๆได้ปฏิบัติศาสนกิจ ได้มีอาหารกิน ได้เจอพรรคพวก

จากประสบการณ์ที่พบเจอ ส่วนมากคนเหล่านี้จะมารวมตัวกันในวันศุกร์ ส่วนวันอื่นๆก็ไม่ปรากฎเห็นมากนัก ด้วยเหตุว่า วันศุกร์เป็นวันสำคัญของมุสลิมประจำสัปดาห์ เช่นเดียวกับวันพระ

ผมไม่ทราบว่ากติกาจะคล้ายๆกันหรือไม่…สำหรับมุสลิมผู้ชาย การนมัสการวันศุกร์ถือเป็นสิ่งจำเป็น(วายิบ)เหนือบุรุษเพศทุกคน ที่บรรลุศาสนภาวะแล้ว วันศุกร์ใครขาดการมานมัสการโดยไม่จำเป็น ถือว่ามีโทษทางศาสนา ต่างกับวันตรุษทั้งสองที่เป็นนมัสการแบบส่งเสริม

ผมไม่แม่นว่าวันพระในศาสนาพุทธ /พุทธศาสนิกชนจำเป็นต้องมาวัดหรือไม่ หากไม่มาจะมีโทษทางศาสนาแบบอิสลามหรือเปล่า คือวันพระ ศาสนาบังคับชาวพุทธต้องไปวัดหรือไม่

ฉะนั้นการที่ท่านเห็นคนพวกนี้ มารวมกันที่มัสยิด ท่านต้องดูด้วยว่า เขามาในวันศุกร์หรือไม่ หากท่านวิตกเกรงว่าคนพวกนี้เป็นผุ้หลบหนีเข้าเมือง ท่านก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย ท่านจุฬาราชมนตรี ไม่มีอำนาจไปจับคนเหล่านี้ เท่าที่ผมเห็นคนเหล่านี้ก็มาทำมาหากิน ในสิ่งที่คนไทยไม่ทำ

ส่วนที่ท่านเห็นองค์กรมุสลิม หรือมุสลิม ไปช่วยเหลือบุคคลเหล่านั้น ส่วนมากเป็นการช่วยเหลือ อันเนื่องมาจากเขาหลบหนีภัยเข้ามา เช่น โรฮิงญา ที่ไปช่วยเหลือคือการช่วยด้านมนุษยธรรม เช่น นำอาหารการกินไปให้ นำเครื่องนุ่งห่มไปให้ ไม่ใช่ไปลักลอบขนคนพวกนี้เข้ามา

การช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมผมว่าผมเข้าใจไม่ผิดนะ เป็นหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาด้วยซ้ำไป พระท่านสอนให้มีเมตตา กรุณาต่อสัตว์โลก

เจ้าพระคุณอลงกรต ท่านช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ หากท่านลงมา กทม.มาเดินบอกบุญญาติโยม ผมพบท่านผมมอบเงินให้ท่านเลยละ ผมยังเคยกล่าวกับท่านว่า ผมดูท่านทำเรื่องนี้มานานด้วยความลำบาก ผมเคยไปดูงานที่วัดท่าน เรายังช่วยบริจาค ช่วยในสิ่งที่ท่านทำ ทางด้านมนุษยธรรมเกี่ยวกับผู้ป่วย ท่านยิ้มแล้วกล่าวว่า “เจริญพร”

ไหนๆก็พูดถึงตรงนี้ผมอยากให้ชาวพุทธเดินทางไปทำบุญที่วัดท่านเจ้าคุณให้มากๆ ท่านทำประโยชน์ต่อมนุษย์ที่เจ็บป่วย ่ท่านต้องใช้จ่ายเป็นจำนวนมากทีเดียว ท่านไม่ได้สร้างวัตถุสะพานบุญอะไรหรอกนะครับ แต่ท่านช่วยคน…

ฉะนั้นเรื่องการขนคนตามที่ว่าไม่มี มีบางส่วนที่ทางราชการนำพวกนี้ ที่หนีภัยมา นำมาให้มัสยิด หรือองค์กรทางศาสนาช่วยดู เพราะเขาเป็นมุสลิม นั้นน่าจะมี อันนี้ทางเจ้าหน้าที่รับรู้ รับทราบ ส่วนที่ท่านว่ามาส่องสุม แจ้งเจ้าหน้าที่เลยครับ…แจ้งท่านจุฬาราชมนตรี เหมือนกับฟ้องผิดศาล

 627 total views,  2 views today

You may have missed