พฤศจิกายน 27, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

เปิดม่าน “สุคีริน” สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ ท่องเที่ยวธรรมชาติความหลากหลาย

แชร์เลย

ทีมข่าว,  SPM news รายงาน…  

“ นราธิวาส ” อีกหนึ่งจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลาย ประกอบกับทุนมนุษย์และวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์ของความเป็นมลายู เชื่อมโยงกับประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีชุมชนน่าเที่ยวอย่าง “หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีความน่าสนใจในหลายด้าน อาทิ พิพิธภัณฑ์ชุมชน ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมภาพถ่าย อาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ สมัยที่สมาชิกในชุมชนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา กรม 10 ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการย่อย ที่ได้ทำการสู้รบกับรัฐบาลมาเลเซีย เนื่องจากมีความขัดแย้งทางอุดมการณ์การเมืองการปกครอง นำไปสู่การสู้รบระหว่างกันนานหลายสิบปี จากนั้นได้มีการเจรจาสันติภาพในปี 2532 รวมทั้งเซ็นสัญญายุติการสู้รบอย่างเป็นทางการ โดยมีรัฐบาลไทยเป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ทางพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาได้ยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธ และสลายกองกำลังเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และจัดตั้งหมู่บ้าน ชื่อ “บ้านรัตนกิตติ 4” ที่ ต.สุคิริน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ต่อมาสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ทรงมีพระประสงค์ที่จะพัฒนาโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับ “หมู่บ้านรัตนกิตติ 4” เข้าร่วมโครงการของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และพระราชทานชื่อใหม่ว่า “หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12” เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2536


เมื่อมาถึงหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 สถานที่ที่แนะนำให้มาสัมผัส คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่จะได้เรียนรู้ร่องรอยและเรื่องราวจากการถ่ายทอดของอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา ในเรื่องอนุสรณ์สถาน สถานที่รำลึกถึงวีรชนผู้ร่วมกันสร้างสันติสุขและเอกภาพ อุโมงค์เก่า เตาไร้ควันขนาดใหญ่ ร่องทางเดินที่ขุดล้อมรอบฐานเพื่อใช้เป็นทางเดินเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ที่สร้างขึ้นจากภูมิปัญญาเพื่ออำพรางฝ่ายตรงข้ามไม่ให้รู้แหล่งที่ตั้งของกรม 10 และไม่ควรพลาดกับกิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือ การล่องแก่งพายเรือคายัค ที่จะได้ใกล้ชิดกับสายน้ำและธรรมชาติอันรื่นรมย์ พร้อมชมความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม

ซึ่งถูกปกคลุมด้วยร่มไม้เย็นสบาย ดื่มด่ำกับธรรมชาติรอบตัวที่บริสุทธิ์ ผ่อนคลายได้เต็มที่ ซึ่งแม้ภาพสิ่งที่เห็นคือความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ แต่ในอดีตที่นี่ต้องเผชิญกับวิกฤติความแห้งแล้ง และความเสื่อมโทรมจากการทำลายป่าชุมชน มาสู่ยุคปัจจุบันที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบจนทำให้ได้รับรางวัลต่างๆมากมาย ที่แสดงให้เห็นถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 ยังมีจุดเด่นในด้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ในท้องถิ่นมาใช้ในการประกอบอาหาร เช่น ไก่บ้าน ใบตาหมาดที่ใช้ทำขนมโบราณ สมุนไพรท้องถิ่น และผักป่าอื่นๆ เป็นต้น สำหรับจุดเด่นด้านการแสดง ที่สร้างความประทับใจและรอยยิ้มให้แก่ผู้มาเยือน คือ ระบำพัด ที่ประยุกต์ทั้งเนื้อร้อง และทำนองเพลงเพื่อสื่อถึงเรื่องราวความเป็นมาของชุมชน ผสมผสานความเป็นจีนและมลายูเข้าด้วยกันอย่างลงตัว


หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 เป็นชุมชนที่มีต้นทุนทางด้านประวัติศาสตร์ชุมชน รวมทั้งมีวัฒนธรรมด้านอาหาร ทั้งยังมีร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา อีกทั้งชุมชนแห่งนี้ยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ประกอบกับความเข้มแข็งของชุมชน จึงทำให้หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 สามารถพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

////////////////////////////////////////

 866 total views,  2 views today

You may have missed