อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์(อับดุลสุโก ดินอะ)รายงานจากอินโดนีเซีย
ช่วงของวันที่ 14-18 ตุลาคม 2562 ผู้เขียนและ นายมูฮำมัดซูลฮัน ลามะทา ผู้บริหารสมองเพชร ของโรงเรียนศิริธรรมวิทยา จังหวัดนราธิวาส(ปอเนาะดูกู) ได้ไปศึกษาดูงานและทำบันทึกข้อตกลงกับหลากหลายสถาบันและมหาวิทยาลัยในอินโดนีเซีย(แต่เราสวนทางกัน)
อย่างไรก็แล้วแต่ได้มีโอกาสพูดคุยกันรวมทั้งแลกเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนาการศึกษามุสลิมจังหวัดชายแดนใต้ซึ่งมีความคิดเห็นตรงกันว่า มีหลายสถาบันของอินโดนีเซียที่สามารถยกระดับการศึกษาของคนในพื้นที่ชายแดนใต้โดยเฉพาะด้านภาษามลายูและอังกฤษซึ่งท่านกรุณาถ่ายทอดต่อผู้เขียนว่าช่วงดังกล่าวได้ไปทำอะไรอย่างไร
อุสตาซซุลฮาน ลามะทา(ของคนพื้นที่)ได้กล่าวว่า “ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างโรงเรียนศิริธรรมวิทยากับสถาบันการศึกษาในประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 13-18 ตุลาคม 2562 มีหลายสถาบัน เช่น
1. ลงนาม MoU กับ Wahid Hasyim University ,Semarang
2. ลงนาม MoU กับ คณะอิสลามศึกษา University of Trunojoyo Madura
3. ลงนาม MoA กับ บัณฑิตวิทยาลัย University of Muhammadiyah Malang
4. หารือความร่วมมือ กับ Indonesian Islamic University, Yogyakarta
5. หารือความร่วมมือ กับ Hasyim Asy’ari University, Jombang
6. หารือความร่วมมือกับ โรงเรียนมัธยม Madrasah Muallimin Muhammadiyah,Yogyakarta
7. หารือความร่วมมือ กับ ปอเนาะ (หอพัก) Pesentren Aqwamu Gila, Yogyakarta พร้อมจะให้อยู่ฟรีหอพัก พร้อมอาหารการกิน สำหรับนักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาลัยในเมือง Yogyakarta
ในขณะเดียวกันสิ่งที่ละทิ้งไม่ได้ในการหนุนความร่วมมือนี้คือราชการทั้งสองประเทศจึงทำให้ต้องเขาไปปรึกษาหารือ
1.สถานทูตไทยประจำเมือง Jakarta ในเรื่องการขอวีซ่าให้กับครูฝึกสอนอินโดนีเซีย
2.ท่านกุงสูลใหญ่ อินโดนีเซีย ประจำสงขลาในเรื่องความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้”
ครับหวังว่า ความร่วมมือ เหล่านี้จะนำศิริธรรมวิทยา หรือปอเนาะดูกู สู่เวทีอาเซียนและนานาชาติ
1,464 total views, 2 views today
More Stories
สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ย้ำการทำงบประมาณการศึกษาควรให้ภาคประชาชนด้านการศึกษามีส่วนร่วมก่อนเสนอแผนงบประมาณเพื่อความยั่งยืนและสอดคล้องความต้องการ
1 พฤษจิกายน จะนะเปิดเรียนเเต่ออนไลน์และบทเรียนจากภูเก็ต
เปิดเรียนที่ชายแดนใต้ตามนโยบาย “กระทรวงศึกษาธิการ”ได้ไม่ได้ ช่วงเสี่ยงโรคโควิดระบาด(สีแดง)