สันติภาพ สันติสุข ในมือเรา ผ่านกิจกรรมแรลลี่..(โดยพิราบขาว แดนสะตอ)

โดยพิราบขาว แดนสะตอ…

ต่างคน ต่างบทบาท ต่างคน ต่างหน้าที่ ทุก ๆ บทบาท ทุก ๆ หน้าที่  ล้วนเป็นฟันเฟืองที่สำคัญซึ่งกันและกัน  กิกรรม คาราวาน แรลลี่สัญจร รวมใจ ใต้สันติสุข ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ ที่
8 กันยายน 2562
เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้น เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ อันดีระหว่างผู้นำทุกภาคส่วนในพื้นที่ ในการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี รวมทั้ง เพื่อปลูกจิตสำนึก ในการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างทางพหุวัฒนธรรม และเป็นพลังร่วมกันหนุนเสริม ในการสร้างสันติสุข ด้วยมือเล็ก ๆ ของสมาชิกเครือข่ายประชารัฐเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้, อาสาสมัครพลเมืองเพือสันติภาพ และตัวแทนของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ต้องการสื่อสารสู่สังคมภายนอก ทั่วประเทศ ให้ได้รับทราบถึงความต้องการของคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ ที่ต่างก็ต้องการสันติสุข
กิจกรรม “แรลลี่สัญจร รวมใจ ใต้สันติสุข” จัดขึ้น ระหว่างวันที่ ๘ – ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ รวม ๔ วัน ๓ คืน โดยเส้นทางเริ่มจาก ที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และทุกอำเภอจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ มุ่งสู่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เดินทางต่อไปยัง อ.เทพา, อ.จะนะ, อ.ระโหนด จ.สงขลา, อ.หัวไทร, อ.เมือง และ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงไป อ.รัษฎา, อ.สิเกา,อ.เมือง,อ.ห้วยยอด จ.ตรัง, อ.เมือง, อ.ควนขนุน จ.พัทลุง, อ.ระโหนด, อ.เมือง และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วเดินทางกลับไปยัง ภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

“สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถูกสื่อสารออกไป ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าสื่อกระแสหลัก หรือสื่อโซเชียลมีเดีย จนทำให้คนนอกพื้นที่ บางส่วนมองจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความหวาดกลัว และหวาดระแวง รวมทั้งมองคนในพื้นที่นี้ในภาพรวมว่า สนับสนุนความรุนแรง ทั้งที่ข้อเท็จจริง คนส่วนใหญ่ในพื้นที่นี้ก็ต้องการสันติสุข สันติภาพ เช่นเดียวกับคนในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย” “แน่นอนว่าการจัดกิจกรรมคาราวานแรลลี่เล็ก ๆ ครั้งนี้ คงไม่อาจปิดกลบ หรือบดบังสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ ได้ แต่คิดว่าภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เรามีอยู่ เราก็ต้องการแสดงพลัง และสื่อสาร ไปยังเพื่อนร่วมชาติของเราในภูมิภาคอื่น ๆ ให้ได้รับทราบว่า คนส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้ ไม่ได้ต้องการ และไฝหนุนเสริมความรุนแรงเหล่านั้นแต่อย่างใด”
“เราขอยืนยันว่าคนส่วนใหญ่ในพื้นที่แห่งนี้ ไม่ว่าชาติพันธุ์ใด ศาสนาใด ต่างก็ต้องการให้ คนทุก ๆ คน อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุข ด้วยความรัก ความเข้าใจ ความแตกต่างทางพหุวัฒนธรรมในพื้นที่นี้มันเปรียบเช่นดอกไม้หลากสีในสวนสวยแห่งหนึ่ง เราส่วนใหญ่ต่างต้องการรักษาความหลากสี และความสวยงามนี้ไว้ เราไม่ได้ต้องการตัดดอกไม้อื่น ๆ แล้วเหลือทิ้งไว้เพียงดอกไม้สีเดียว ซึ่งนั่นเท่ากับ ทำลายความสวยงามของสวนแห่งนี้”

การสร้างสันติสุข ต้องเริ่มด้วยมือเรา เราต้องลุกขึ้นมา แล้วร่วมมือกันสร้างให้เกิดสันติสุขขึ้นด้วยมือเรา เริ่มจากสิ่งที่ทำได้ เริ่มจากจุดเล็ก ๆ นี่แหละ แล้วมันจะสร้างแรงกระเพื่อม กลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่ ที่ทรงพลังในที่สุด” “อย่าให้ใครมาบอกเรา หรือมากำหนดว่า อะไรที่เราทำได้ หรือทำไม่ได้ อะไรที่เราเป็นได้ หรือเป็นไม่ได้ เพราะอนาคตของเรา อนาคตของลูกหลานเรา ความฝันของลูกหลานเรา ควรได้เบ่งบาน และเติบโตในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพวกเขา มาตุภูมิของพวกเขา เช่นเดียวกับลูกหลานของคนในพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศแห่งนี้”
#”สันติสุขหรือสันติภาพเกิดได้ด้วยมือเรา”  ขอบคุณทุก ๆ ท่าน ทุก ๆ องค์กร ที่ให้การสนับสนุนสนับ ทั้งกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ จนทำให้กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

////////////////

 1,238 total views,  2 views today