เมษายน 24, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ความก้าวหน้าการเมืองภาคพลเมืองชายแดนใต้:เมื่อภาคประชาสังคมจับมือภาคการเมือง

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)..

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุก
ในยุคส.ส.มาจากการเลือกตั้ง ข้อดีของมันคือ (ตลอด 5 ปีก่อนหน้านี้ไม่มี) เรา จะเห็นภาพนักการเมืองในพื้นที่ทุกพรรคนำปัญหาไปเสนอที่สภาหรือแม้กระทั่งล่าสุด พวกเขา ลงไปเยี่ยมครอบครัวอับดุลเลาะห์ อีซอมูซอ
ดังนั้นกลไกหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาวิกฤติไฟใต้คือ นักการเมืองไม่ว่า ฝ่ายค้าน และรัฐบาลต้องจับมือแก้ปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งเป็นที่หน้ายินดีว่า 31 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี ทุกพรรคการเมืองร่วมลงสัตยาบรรณ (ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์และพลังประชารํฐแต่ส.ส.จากทั้งสองพรรคก็ยืนยันกับสภาประชาสังคมชายแดนใต้ว่าจะลงนามย้อนหลัง) การแก้ปัญหาชายแดนใต้เพื่อสันติภาพไปด้วยกันโดยไม่แบ่งพรรค ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลใน นโยบาย 8 ประเด็น ดังนี้
1. #ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 2. #กระบวนการพูดคุยสันติภาพ/สันติสุข
3. #การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. การสื่อสารกับสังคม
5. #การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม 6. #การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่
7. #รูปแบบการปกครองและการพัฒนา 8. #กระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน
(อ่านรายละเอียดนโยบาย 8 ประเด็นดังกล่าวใน https://drive.google.com/file/d/1WGJAJyuabVNse0rLcl_iiewcTMQHVUaN/view?fbclid=IwAR2laSO4aB_4_CR2_q6IDe-FTkKrecvneCb4byPtiQKCjpAYGLV0qn8Vy5Y)

โดยมีข้อสรุปว่าจะร่วมมือกัน ในการทำนโยบายสันติภาพ ตลอดจนการประสานงานและการติดตามผลการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อให้มีกลไกการดำเนินงานด้านนโยบายสันติภาพ รวมถึงประเด็นนโยบาย 8 ประเด็นดังกล่าว นักการเมืองและตัวแทนภาคประชาสังคมจึงมีข้อตกลงที่จะประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุก 2 เดือน โดยจะรายงานผลการประชุมและผลการขับเคลื่อนนโยบายให้สาธารณชนทราบเป็นระยะ ๆต่อไป..
อาจารย์ฆอซาลี ฮาแว รองเลขาธิการสภาประชาสังคมชายแดนใต้เปิดเผยว่า “เวทีวันนี้เกิดขึ้นได้ ผ่านสองเวที วันที่ 12 มีนาคม 2562 และวันที่ 17 เมษายน 2562 ณ โรงแรมซีเอส ปัตตานี ภายใต้โครงการองค์กรภาคประชาสังคมกับกระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ปีงบประมาณ 2562 โดย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้จัดเวทีระดมความคิดเห็น “องค์กรภาคประชาสังคมชายแดนใต้กับกระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งมุ่งเป้า สองประการด้วยกันคือ หนึ่งรวบรวม/ทบทวน ข้อเสนอจากองค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมในพื้นที่ชายแดนใต้(จำนวน 27 องค์กรที่มาวันนี้) ว่ามีจุดร่วม และพิจารณาข้อเสนอที่สอดคล้องกับพลวัตทางสังคม และสองเพื่อสร้างกลไกและการติดตามข้อเสนอเชิงนโยบาย ให้ข้อเสนอบรรลุผล ซึ่งนับว่าเป็นมิติใหม่ที่จะเป็น ระบบปฏิบัติการ (Platform)/ การทำงานขับเคลื่อนประเด็นพร้อมๆ กับ ส.ส.และพรรคการเมือง
กระบวนการเดินในขบวนนี้อาจจะมีอุปสรรคบ้างแต่เราพยายามที่จะเห็นผลและกระบวนการที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามผลที่เกิดขึ้นในวันนี้คือสิ่งที่เราอยากจะเห็น และมันออกมาที่เกินคาด ทั้งนี้ ก็จะต้องมีกระบวนการต่อจากนี้เพื่อแตกรายละเอียด platform ของกลไกนี้ ขอบคุณสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ที่สนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ ขอบคุณทีมงานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ขอบคุณองค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมทุกองค์กรที่ส่งข้อเสนอ เข้าร่วมงานและเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม เราหวังว่ากระบวนนี้จะสามารถทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่เรามุ่งมาดปรารถนาและหลักชัยนี้ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนที่จะออกแบบกันต่อไป ขอมอบกำลังใจการทำงานให้กับตัวเองและพี่น้องทุกท่านนะครับ”


ครับจากการที่อาจารย์ฆอซาลี ฮาแวได้อธิบายจะพบว่าการเมืองภาคประชาสังคมชายแดนใต้ก้าวหน้าอีกขั้น
หากดู อดีต ในการเมืองส่วนกลางพบว่า “เราจึงเห็นบทบาทของขบวนประชาสังคมในหลายลักษณะที่ผลักดันให้เกิดการเมืองภาคประชาสังคมเพราะการเมืองแบบตัวแทนไม่เพียงพอ หลังจากเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ ปี 2535 เราเห็นขบวนการเคลื่อนไหวธงเขียวที่มาจากภาคประชาสังคม ที่กดดันให้การเมืองภาคตัวแทนสมัยนั้นสู่การเมืองในด้านประชาธิปไตยทางตรงมากขึ้นที่สามารถกดดันให้การเมืองแบบตัวแทนต้องทำตามกระแส จนในที่สุดได้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่น่าจะเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ถึงแม้ทั้งนัจมุดดีน อุมา หมอพรทิพย์ (หมอยะห์)อดีตส.ส. นราธิวาสจะมองว่าการที่ส.ส.จะเสนอกฎหมาย นำนโยบายชาวบ้านไปปฏิบัติแสนอยากในอดีต แต่สำหรับผู้เขียน มองว่า ปรากฏการณ์ โลกโซเซียล ที่ทำให้พรรค อนาคตใหม่ ชนะ จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ข้อเสนอรวมของภาคประชาสังคมถูกตอบรับเร็วขึ้นไม่ว่าส.ส.ในพื้นที่จะอยู่คนละขั้วในการแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ที่มีปัญหาหมักหมมมานานกว่า 15 ปี แต่ถ้าออกแบบกลไกและการติดตามนี้ดีๆก็ไม่แน่
ดังนั้นจะถือว่ากิจกรรมครั้งนี้ “เป็นความก้าวหน้าของการเมืองภาคพลเมืองชายแดนใต้ซึ่งภาคประชาสังคมสามารถจับมือกับภาคการเมือง(ส.ส.)อันส่งผลโดยตรงต่อคะแนนเสียงของหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จมาตลอด 5 ปีในการบริหารพื้นที่นี้แต่ความท้าทายหลังจากเวทีวันนี้คือการติดตามสันตยาบรรณที่ได้ลงนามในวันนี้ว่าจะมีผลในทางปฏิบัติมากน้อยแค่ไหนเพราะส.ส.ทุกคนก็ต้องเสนอผู้บริหารพรรคที่กรุงเทพมหานครอีกชั้นหนึ่ง

/////////////////////////////

 951 total views,  4 views today

You may have missed