ญาติ “อับดุลเลาะ อีซอมูซอ” เผยทั้งน้ำตา!! จากนี้ไปจะทำอย่างไร ให้เกิดความปลอดภัย กรณีโดนควบคุมตัว ภายใต้การใช้กฏหมายพิเศษ จชต.

อับดุลเลาะ เบ็ญญกาจ  ปัตตานี รายงาน…

ประชาชนครึ่งหมื่นร่วมละหมาดศพอับดุลเลาะต่างวิตกกังวลความปลอดภัย ถูกมองเขาคือเหยื่อของการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ญาติพร้อมเดินหน้าขอความเป็นธรรม
(26สค.62)ผู้สื่อรายงานบรรยากาศที่บ้านไม้ยกพื้นขนาดเล็กในพื้นที่ ม.3 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านทวดของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เป็นบ้านเกิดวันแรกที่เป็นมรดกที่รับการสืบทอดของแม่เป็นที่อยู่หลังแรกและหลังสุดท้ายของนายอับดุลเลาะที่ถูกนำร่างไร้วิญญาณนำกลับจากโรงพยาบาลมหาวิทยาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ เก็บไว้เพียง 6ชั่วโมง ก่อนที่ญาติจะนำเรือนร่างอาบน้ำศพทำความสะอาด เพื่อนำศพไปห่อด้วยผ้าขาว3ชั้น ตามหลักศาสนาแล้วนำไว้บนเปลหามศพออกจากบ้านนำขึ้นรถยนต์กระบะส่งไปมัสยิดมิฟตาฮูลยันนะห์ บ้านฮูแตปาเซ ม.1 ต.ตะบิ้ง ท่ามกลางประชาชนครึ่งหมื่นร่วมรอละหมาดที่มัสยิดดังกล่าวจนล้นมัสยิด  สร้างความแตกตื่นให้ประชาชนในพื้นที่กับปรากฎการณ์ดังกล่าว

ส่วนบรรยากาศที่บ้านของอัลดุลเลาะนั้นได้มีเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง ตัวแทนจากองค์กรต่าง ๆ ผู้นำศาสนา ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจให้แก่ครอบครัวที่ต้องได้รับผลกระทบจากการสูญเสียบุคคลที่คนในครอบครัวรักและอย่างเป็นเสาหลักของบ้านหลังนี้ โดยเฉพาะคุณแม่ที่พิการใบ้ตั้งแต่เกิดที่ไม่สามารถจะระบายความรู้สึกที่อึดอั้นอยู่ในอกหรือความในใจให้ได้ยิน ได้แต่ร้องให้จนตาบวม ท่ามกลางที่ประชาชนองค์กรต่าง ๆเดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตแต่กลับไม่พบเห็นหน่วยงานภาครัฐเลย มีเพียงทหารพรานในพื้นที่ค่อยอำนวยความสะดวกทางจารจรให้กับผู้มาเยี่ยมและมาร่วมละหมาด
จากการพูดคุยผู้คนที่แวะวนมาเยี่ยมต่างพูดเสียงเดียวกันว่า”ต่อไปนี้เราจะทำตัวอย่างไรให้ปลอดภัยในชีวิต เพราะไม่รู้ต่อไปหลังจากนี้ใครจะต้องตกเป็นเหยื่อของการใช้กฎหมายพิเศษ เพราะประชาชนในพื้นที่สายบุรีไม่ใช่เป็นรายแรกที่เสียชีวิตในระหว่างการควบคุมตัว เช่นกรณีการเสียชีวิตของนายอุสมาน แนแซ ที่ต้องเสียชีวิตภายในห้องขังของศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธฯ ถึงแม้จะถูกอ้างโดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯว่าเป็นฆ่าตัวตายก็ตาม แต่วันนี้ญาติยังคงหวนหาความเป็นธรรมที่ไร้วี่แวว

ส่วนการดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังจากนี้ญาติได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า”คงต้องนำทนายไปรีบแจ้งความเพิ่มหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ลงบันทึกประจำวันในระหว่างที่นายอับดุลเลาะรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี หลังจากนั้นก็คงต้องทวงถามความคืบหน้าจากหน่วยงานต่าง ๆที่ได้ยื่นหนังสือของความเป็นธรรมให้กับอับดุลเลาะและครอบครัวจากการควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่รัฐจนทำให้ผู้ถูกควบคุมตัวหมดสติในระหว่างการควบคุมตัว เนื่องจากจนถึงขนาดนี้ยังไม่ได้คำตอบใด ๆเลย รวมทั้งคำตอบจากท่านนายกรัฐมนตรีหลังจากภรรยาอับดุลเลาะได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกฯในระหว่างลงพื้นที่จังหวัดยะลาตรั้งล่าสุดที่ผ่านมา

/////////////////////////////////

 601 total views,  2 views today