ความท้าทายรัฐบาลใหม่ ในการแก้ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ที่มาเลเซีย

อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงาน …รพี  มามะ บรรณาธิการข่าว..

หลังจากผู้เขียนได้รายงานข่าวผลกระทบแรงงานไทย(วิกฤติต้มยำกุ้ง)ซึ่งทางการมาเลเซียกำลังกวาดล้างส่งคนไทยกลับอันจะส่งผลกระทบถึงการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ในภาพรวมทำให้ท่านนัจมุดดีน อูมา โฆษกพรรคประชาชาติ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ท่านประยุทธ์นำโดยกระทรวงแรงงานกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) รีบเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนเพราะน่าจะมีศักยภาพในการพูดคุยระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลประเทศมาเลเซีย  อีกทั้งระดับจังหวัดไม่มีอำนาจพอในการเข้าไปช่วยเหลือ

นายนัจมุดดีน ได้กล่าวว่าทำไมต้องรีบเข้าแก้ปัญหาต่อเรื่องนี้ ซึ่งท่านกล่าวว่าเมื่อปี2552 ท่านในฐานะรองประธานกรรมาธิการแรงงานสภาผู้แทนราษฏรและคณะเข้าไปศึกษาเรื่องงานไทยในมาเลเซียโดยเฉพาะพบว่าขณะนั้นมีแรงงานไทยไม่ต่ำกว่า150,000 คน (หนึ่งแสนห้าหมื่นคน)  เฉลี่ยต่อคนส่งเงินกลับประเทศต่อเดือน คน ละ5 พันบาท ดังนั้นจะได้เฉลี่ย 500 ล้านต่อเดือน ต่อปีนำรายได้สู่ประเทศไทย 6,000,000,000 หกพันล้านบาทต่อปี

ซึ่งนับว่าไม่น้อย ส่วนใหญ่เเรงงานเป็นลูกจ้างในร้านอาหารต้มยำกุ้งซึ่งมีทั้งเจ้าของคนไทยและมาเลเซีย รอบๆเมืองหลวงกรุงกัวลาลุมเปอร์ 2,000 ร้าน และในรัฐอื่นๆ3 พันร้านในประเทศมาเลเซีย  แรงงาน 5 หมื่นคน ไม่มีใบอนุญาตแรงงานถูกต้องตามกฎหมายใช้วีซ่าท่องเที่ยวได้คราวละ 30 วัน ต่อการต่อ1 ครั้ง ทุกเดือนต้องเสียค่าดำเนินการ2500 บาท/คนลองคิดดู 5 หมื่นคนจะเสียเท่าไหร่ เสียดายสภาโดนปฏิวัติก่อนเรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้สานต่อ จึงฝากรัฐบาลประยุทธ์สองรีบดำเนินการแก้ปัญหาต่อเรื่องนี้

และส่วนท้องถิ่นเอง ไม่ว่าจะเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล อบต.ควรจะมาให้ความสำคัญดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับคนในพื้นที่และชุมชน ไม่ควรปล่อยปละ ไม่ความชัดเจนอย่างที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้ อีกทั้งจะส่งผลและสร้างผลกระทบ เนื่องจากปัญหาปากท้องคนไม่มีงานทำ  สร้างปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ที่เป็นนโยบายรัฐ ไม่อาจตอบโจทย์ ในการพัฒนาและแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นโยบาย สวยหรู  แต่สิ่งที่เป็นรูปธรรมกลับไม่เกิดประโยชน์ ต่อการแก้ปัญหาให้ประชาชนและพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะฯ  จะมาปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝาก นายกและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง นำปัญหา วิกฤติต้มย้ำกุ้งที่เกิดขึ้น นำเป็นวาระเร่งด้วย

อีกข้อเสนอแนะหนึ่งอยากฝากเครือข่ายชมรมต้มยำกุ้งชายแดนใต้ ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรงในวันที่ 7 ส.ค.ดังกล่าว ในขณะเดียวกันอยากให้นักการเมืองจากทั้งพรรคฝ่ายค้านและรัฐบาล หรือ แม้กระทั่งส.ว.เชิญคนที่ทำงานต้มยำกุ้งที่มาเลเซียมาพูดคุยถอดบทเรียนโดยอาจจะนำคนที่เคยศึกษาต่อเรื่องนี้เช่นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยที่เคยทำวิจัยมาร่วมเสนอทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุด

หมายเหตุ

ต้มยำเถื่อนที่มาเลเซีย “แต่นำเงินช่วยชาติไทย” ใครจะช่วยเขา!!!//อุสตาซอับดุชชะกูรฺบินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงานจากมาเลเซีย…http://spmcnews.com/?p=18671

 947 total views,  2 views today