มกราคม 13, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

แม่ทัพภาค 4 สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังผู้ต้องสงสัยหมดสติ ขณะควบคุมตัว หากสอบพบผิดพร้อมลงโทษวินัยและอาญา

แชร์เลย

อับดุลฮาดี เจ๊ะยอ  จ.ยะลา  รายงาน…


จากกรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงหมดสติ ขณะถูกควบคุมตัวภายในหน่วยซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงยุทธบริหาร  อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 03.00 น. และมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่างๆ จนเป็นประเด็นร้อนในสังคมอย่างกว้างขวาง นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.00 น. พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ
พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและหากพบเป็นความผิดพลาดจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ก็จะทำการลงโทษสถานหนักทั้งทางวินัยและอาญาทหารโดยไม่ละเว้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า การควบคุมตัวนายอับดุลเลาะ เป็นไปตามคำให้การซัดทอดของ นายอิบรอเฮง มะเซ็ง ผกร.ระดับแกนนำที่ถูกควบคุมตัว  เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 62
ว่านายอับดุลเลาะ เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง ในพื้นที่ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทำหน้าที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนการก่อเหตุในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังเข้าเชิญตัวจากบ้านพักในพื้นที่
ตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ภายใต้การมีส่วนร่วมของผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และภรรยา
ก่อนจะส่งตัวไปลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจภูธรสายบุรี และส่งเข้าหน่วยซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร โดยผลการตรวจร่างกายของแพทย์ โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร พบร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง หน่วยจึงได้นำตัวไปซักถามเบื้องต้น พบมีอาการเครียดจึงให้ไปพักยังห้องพักภายในหน่วยซักถามตั้งแต่เวลา 21.30 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่า นอนหมดสติอยู่ภายในห้องควบคุม จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อช่วยชีวิต ในเบื้องต้นก่อนนำส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี ตามลำดับ


จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่ขั้นตอนการเชิญตัว ขั้นการควบคุมตัวเพื่อซักถาม ในเบื้องต้นพบว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและยังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่า เกิดจากการกระทำ
ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสอดคล้องกับผลการตรวจร่างกายของแพทย์ที่ระบุ “ไม่พบร่องรอยบาดแผลฟกช้ำภายนอกร่างกายแต่อย่างใด” แต่พบว่าสมองมีอาการบวมซึ่งน่าจะเกิดจากการขาดออกซิเจนในขณะช็อค
หมดสติ หรือเกิดจากการปั๊มหัวใจช่วยชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยมีค่าน้ำตาลในเลือดและค่าเม็ดเลือดขาวสูงผิดปกติแต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า เป็นสาเหตุของการช็อคหมดสติโดยต้องรอยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป
อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมให้มีการพิสูจน์ความจริงด้วยการให้คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประกอบด้วยผู้แทน
จากองค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคมเข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างอิสระ ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม เพื่อหาข้อสรุปและแนวทางที่เหมาะสม ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ยืนยันว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายและรับฟัง


ทุกข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหา แต่ขอให้การแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นที่เกิดขึ้น ไม่เป็นไปในลักษณะชี้นำ ปลุกระดมหรือบิดเบือนข้อเท็จจริงที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสนจนกว่าความจริงจะปรากฏ เพราะจะเป็นการซ้ำเติมและขยายประเด็นความขัดแย้งให้รุนแรงยิ่งขึ้น
//////////////////////////////////////

 750 total views,  6 views today

You may have missed